ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบ วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธร

ชื่อผู้วิจัย นายอุทัย เรืองนุ่น

ปีที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาการจัด การเรียนการสอน การใช้สื่อ และความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนสาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) สร้างและพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักร การเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 3) ทดลองใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อ (1) ศึกษาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักร การเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) ประเมินและปรับปรุง หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในด้านประสิทธิภาพ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจของผู้เรียน และข้อความปรับปรุงแก้ไข การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหา การจัดการเรียนการสอน การใช้สื่อและ ความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนสาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบสอบถาม ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สอบถามผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 162 คน ผู้ปกครองของผู้เรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ รวม 28 คน รวมทั้งสิ้น 190 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ขั้นตอนที่ 2 สร้างและหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอน ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยการนำผลการวิจัยจากขั้นตอนที่ 1 ที่พบว่า ผู้เรียนขาดสื่อการเรียนด้านความรู้ ความเข้าใจ ความคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ขาดการส่งเสริมให้มีทักษะด้านต่าง ๆ และความต้องการจำเป็นต้องใช้สื่อของผู้เรียนมาวิเคราะห์สร้างสื่อที่ผู้เรียนต้องการมากที่สุด คือ หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและ การสอนสาระประวัติศาสตร์ ด้านการวัดผลประเมินผล รวม 5 คน ตรวจสอบความถูกต้อง มีองค์ประกอบสมบูรณ์ และประเมินความสอดคล้อง (IOC) ประเมินคุณภาพ และทดลองใช้แบบเดี่ยว (1 : 1) ปรับปรุงแก้ไขและทดลองใช้กับกลุ่มย่อย (1 : 10) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ E1/E2 และวิเคราะห์เนื้อหา ปรับปรุงแก้ไข

ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอน ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยทดลองใช้กับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 40 คน วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ E1/E2 ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าที (t-test) เทียบค่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียนและค่าความพึงพอใจ

ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยนำหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบ การสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es ที่สร้างและพัฒนาขึ้นทั้ง 10 เล่มไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 40 คน ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 เพื่อประเมินผลด้านประสิทธิภาพ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ด้านความพึงพอใจ และข้อควรปรับปรุงแก้ไข และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ E1/E2 วิเคราะห์ประสิทธิภาพ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใช้ค่าที (t-test) และวิเคราะห์ความพึงพอใจ

ผลการวิจัยและพัฒนา พบว่า

ขั้นตอนที่ 1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการจัดการเรียนการสอน การใช้สื่อและความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนการสอนสาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้

1.1 การจัดการเรียนการสอนสาระประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ครูใช้สื่อไม่หลากหลาย ไม่สอดคล้องกับบทเรียนและครูใช้สื่อน้อย

1.2 การจัดการเรียนการสอนไม่ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และกระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และไม่ส่งเสริมทักษะต่าง ๆ เท่าที่ควร

1.3 ครูไม่ค่อยมีการผลิตสื่อการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบทเรียนและวัยของผู้เรียนเท่าที่ควร จึงทำให้ผู้เรียนขาดทักษะด้านต่าง ๆ ทั้งความรู้ ความคิด โดยเฉพาะทักษะการคิด จึงส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

1.4 ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องเสนอแนะให้ครูผลิตสื่อ ใช้สื่ออย่างหลากหลาย เพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อที่สามารถนำกลับไปเรียนที่บ้านได้

1.5 สื่อที่ดีควรเป็นสื่อที่ครูผลิตขึ้นเองตามความเหมาะสม สอดคล้องกับบทเรียนและวัยของผู้เรียน

1.6 ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องต้องการให้ครูใช้สื่อมาก ๆ และหลากหลาย โดยเฉพาะสื่อที่ใกล้ตัว เช่น หนังสืออ่านเพิ่มเติม เอกสารประกอบการเรียนรู้ เป็นต้น

1.7 ผลการศึกษาเอกสารการวัดผลและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวม 4 ปีการศึกษา เฉลี่ยร้อยละ 79.85 แต่สาระประวัติศาสตร์ได้ร้อยละ 76.00 ไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 80.00

ขั้นตอนที่ 2 ผลการสร้างและพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบ การสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 เล่ม ผู้เชี่ยวชาญประเมินค่า IOC มีค่าเท่ากับ 0.96 โดยภาพรวม และประเมินคุณภาพ พบว่า หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบ วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 มีคุณภาพอยู่ในระดับมากโดยภาพรวม ( = 4.27, S.D. = 1.13) ผลการทดลองใช้แบบ 1 : 1 E1/E2 = 56.00/58.33 และ 1 : 10 E1/E2 = 74.10/73.50 ประสิทธิภาพมีการพัฒนาขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับ 80/80 ก็มีความใกล้เคียงความจริงมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 3 ผลการทดลองใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบ การสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า

1) หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักร การเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) = 87.98/88.33

2) ผู้เรียนที่เรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01

3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22, S.D. = 4.70)

ขั้นตอนที่ 4 ผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 Esกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า

1) หนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักร การเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E1) เท่ากับ 85.70/84.94 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 โดยภาพรวมและเป็นรายเล่ม

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ที่เรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระประวัติศาสตร์ประกอบการสอนตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5Es กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในระดับมาก ( = 4.13, S.D. = 2.91)

4) ข้อควรปรับปรุงแก้ไข มีอยู่ 2 ประเด็น ได้แก่ (1) เพิ่มสื่อให้หลากหลายมากขึ้น (2) ควรเพิ่มกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้ปฏิบัติจริงให้มากขึ้น

โพสต์โดย ทัย : [8 ก.ค. 2562 เวลา 14:20 น.]
อ่าน [2962] ไอพี : 159.192.223.149
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,795 ครั้ง
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ

เปิดอ่าน 6,512 ครั้ง
ไพรเวทคลาวด์ เอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์ และระบบอื่นๆ
ไพรเวทคลาวด์ เอ็นเตอร์ไพรซ์คลาวด์ และระบบอื่นๆ

เปิดอ่าน 42,008 ครั้ง
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ

เปิดอ่าน 8,663 ครั้ง
วิธีทำให้ "แก้วมังกร" ลูกดก
วิธีทำให้ "แก้วมังกร" ลูกดก

เปิดอ่าน 14,927 ครั้ง
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป

เปิดอ่าน 12,809 ครั้ง
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

เปิดอ่าน 10,395 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน

เปิดอ่าน 26,173 ครั้ง
ดอกไม้ ประจำวันเกิด
ดอกไม้ ประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง
คณิตศาสตร์ชุมชน : โดย สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน, ชุติมา ชุมพงศ์
คณิตศาสตร์ชุมชน : โดย สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน, ชุติมา ชุมพงศ์

เปิดอ่าน 784 ครั้ง
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?
ไลเซนต์ Open Source ต่างกับไลเซนต์อื่นอย่างไร?

เปิดอ่าน 9,450 ครั้ง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง

เปิดอ่าน 18,056 ครั้ง
ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"
ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"

เปิดอ่าน 17,517 ครั้ง
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"

เปิดอ่าน 35,718 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 33,801 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 10,157 ครั้ง
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
เปิดอ่าน 21,626 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
เปิดอ่าน 13,841 ครั้ง
แก้ไขเฉพาะหน้า"อาการปวดเข่า"
แก้ไขเฉพาะหน้า"อาการปวดเข่า"
เปิดอ่าน 17,649 ครั้ง
MV เพลง จำขึ้นใจ เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการปฏิบัติตนตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
MV เพลง จำขึ้นใจ เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการปฏิบัติตนตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
เปิดอ่าน 10,169 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ