ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์ และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางสาวสุปิยา กุลนา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน โรงเรียนพิบูลมังสาหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 39 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสำรวจวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน 2) แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 4) แบบประเมินการปฏิบัติงาน 5) แบบทดสอบวัดมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test แบบ Dependent Sample และการ
วิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เนื่องจากนักเรียนต้องการศึกษาด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ผู้เชี่ยวชาญการสอนวิชาฟิสิกส์เห็นด้วยกับรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่สนใจในการเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้รูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า EMRSEA Model โดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และสิ่งส่งเสริมการเรียนรู้ ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม (Eliciting : E) 2) ขั้นกระตุ้นจูงใจ (Motivating : M) 3) ขั้นปรับเปลี่ยนแนวคิด (Restructuring of ideas : R) 4) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Sharing : S) 5) ขั้นนำแนวคิดไปใช้ (Applying of ideas : A) 6) ขั้นการประเมิน (Evaluating : E) การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ ด้านมโนทัศน์ทางฟิสิกส์ และด้านความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า 1) ผลการเรียนรู้ด้านความเข้าใจมโนทัศน์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผลการเรียนรู้ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบ
การเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ อยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.26, S.D. = 0.71)