ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ)

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยดังนี้ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ดังนี้ 2.1) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การวัด การชั่งและการตวง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน และ 2.2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบ การสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม โดยจำแนกการดำเนินการเป็น 4 ระยะ 6 ขั้นตอน ระหว่างปีการศึกษา 2559 – 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การวัด การชั่ง และการตวง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน จำนวน 30 ชั่วโมง ซึ่งรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน เป็นรูปแบบการสอนที่มีการผสมผสานคุณลักษณะเด่นของวิธีการสอนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ (4MAT) และแนวคิดการสอนแบบเรียนปนเล่นในกระบวนการเรียนการสอน โดยออกแบบรูปแบบการสอนตั้งอยู่บนพื้นฐานของปรัชญาและทฤษฎีการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-based learning) และทฤษฎีการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นเตรียมสมอง 2) ขั้นเชื่อมโยงประสบการณ์เดิม 3) ขั้นเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ 4) ขั้นร่วมใจนำมาปฏิบัติ และ 5) ขั้นรู้ชัดพร้อมนำไปใช้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทีแบบ ไม่อิสระจากกัน (t – test Dependent) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน มีประสิทธิภาพ 89.38/87.24

2. ผลการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การวัด การชั่งและการตวง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

2.2 ดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การวัด การชั่งและการตวง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าเท่ากับ 0.8211 หมายความว่าการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การวัด การชั่งและการตวง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8211 หรือคิดเป็นร้อยละ 82.11

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้การเล่นเป็นฐาน โดยรวม อยู่ระดับมาก

โพสต์โดย ครูเหลียว : [21 ส.ค. 2562 เวลา 08:45 น.]
อ่าน [63480] ไอพี : 118.173.249.128
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,614 ครั้ง
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
รู้จัก "ไวรัสไข้หวัดหมู" มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!

เปิดอ่าน 12,760 ครั้ง
นิตยสาร SCIENCE WORLD  ขอเชิญชวนคนรักของเล่นวาดภาพออกแบบของเล่นวิทยาศาสตร์ในจินตนาการ
นิตยสาร SCIENCE WORLD ขอเชิญชวนคนรักของเล่นวาดภาพออกแบบของเล่นวิทยาศาสตร์ในจินตนาการ

เปิดอ่าน 13,932 ครั้ง
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"

เปิดอ่าน 14,029 ครั้ง
ชมคลิปฮา! นักเรียนแลกเปลี่ยนเม็กซิกัน พูดความ (จริง) ในใจ ถึงการเรียนในเมืองไทย
ชมคลิปฮา! นักเรียนแลกเปลี่ยนเม็กซิกัน พูดความ (จริง) ในใจ ถึงการเรียนในเมืองไทย

เปิดอ่าน 9,750 ครั้ง
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 29,848 ครั้ง
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้

เปิดอ่าน 25,536 ครั้ง
การวัดความกดอากาศ
การวัดความกดอากาศ

เปิดอ่าน 38,916 ครั้ง
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้

เปิดอ่าน 48,517 ครั้ง
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI  สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้

เปิดอ่าน 53,087 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ก ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 49,542 ครั้ง
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน

เปิดอ่าน 38,609 ครั้ง
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต

เปิดอ่าน 17,927 ครั้ง
ลายมือผู้นำระดับโลก
ลายมือผู้นำระดับโลก

เปิดอ่าน 15,951 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"

เปิดอ่าน 920 ครั้ง
คลินิกดูดไขมันที่ปลอดภัยควรมีลักษณะอย่างไร?
คลินิกดูดไขมันที่ปลอดภัยควรมีลักษณะอย่างไร?

เปิดอ่าน 33,182 ครั้ง
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1
เปิดอ่าน 11,275 ครั้ง
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!
เปิดอ่าน 26,967 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ
เปิดอ่าน 280,565 ครั้ง
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
เปิดอ่าน 8,769 ครั้ง
สาธิตการเติมสันจมูกให้ได้รูป
สาธิตการเติมสันจมูกให้ได้รูป

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ