ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรีย

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนา ตรวจสอบประสิทธิภาพ และดัชนีประสิทธิผล และศึกษาผลการเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอลด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

โดยจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การวิจัย (Research : R1) การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) : ประกอบด้วย (1) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (2) นำร่างองค์ประกอบของชุดกิจกรรมฝึกทักษะไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 5 คน พิจารณา ระยะที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) การออกแบบและพัฒนา (Design and Development : D&D) : ผู้วิจัยได้นำข้อมูลพื้นฐานที่ได้จากระยะที่ 1 มาพัฒนาแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ตรวจสอบคุณภาพของชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล และเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผล แล้วนำไปทดลองใช้ (Tryout) เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ และหาประสิทธิภาพ ดัชนีประสิทธิผล ระยะที่ 3 การวิจัย (Research: R2)

การทดลองใช้ (Implementation : I) ผู้วิจัยนำชุดกิจกรรมฝึกทักษะที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง และระยะที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) ประเมินผล (Evaluation : E) เป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ศึกษาทักษะการเล่นวอลเลย์บอล และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล และปรับปรุงแก้ไข กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๒ “เชิงชุมอนุชนวิทยา” ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน

ซึ่งได้มาจากการเลือกสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) แบบแผนการวิจัยเป็นวิจัย

เชิงทดลองแบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One Group Pretest-Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมฝึกทักษะวอลเลย์บอลเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล จำนวน 6 ชุด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 แผน

(3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ (4) แบบประเมินทักษะวอลเลย์บอล และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจ ใช้ระยะเวลาในการทดลอง จำนวน 15 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย โดยใช้การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. ชุดกิจกรรมฝึกทักษะวอลเลย์บอลเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระ

การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้

แบบเพื่อนช่วยเพื่อน ทั้งหมด 6 ชุด แต่ละชุดมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) คู่มือครู มีองค์ประกอบ 11 ข้อ 2) คู่มือนักเรียน มีองค์ประกอบ 11 ข้อ ผลการพิจารณาความเหมาะสมขององค์ประกอบ

ชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล มีความเหมาะสมในระดับมาก (x̄ = 4.25 ,S.D. = 0.04 )

2. ชุดกิจกรรมฝึกทักษะวอลเลย์บอลเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระ

การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้

แบบเพื่อนช่วยเพื่อน ที่มีผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.79/83.44 สูงกว่าเกณฑ์

ที่กำหนดไว้คือ 80/80 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.65 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 0.50

3. ผลการเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล ด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะ

เพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอลสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ .05

3.2) ผลการประเมินทักษะวอลเลย์บอลของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอลสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน พบว่านักเรียนมีทักษะการเล่นวอลเลย์บอลอยู่ในเกณฑ์มากที่สุด

( x̄= 4.54, S.D. = 0.01)

3.3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยต่อชุดกิจกรรมฝึกทักษะเพื่อเสริมสร้างทักษะวอลเลย์บอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน อยู่ในเกณฑ์มาก (x̄ = 4.26, S.D. = 0.11 )

โพสต์โดย ครูแสน : [26 ส.ค. 2562 เวลา 20:25 น.]
อ่าน [3483] ไอพี : 115.87.128.189
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,763 ครั้ง
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด

เปิดอ่าน 11,209 ครั้ง
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554

เปิดอ่าน 2,555 ครั้ง
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค

เปิดอ่าน 3,456 ครั้ง
Toyota Yaris 2022 เพื่อนซี้โฉมใหม่ที่ลงตัวมากกว่าเดิม
Toyota Yaris 2022 เพื่อนซี้โฉมใหม่ที่ลงตัวมากกว่าเดิม

เปิดอ่าน 6,780 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 40,216 ครั้ง
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน

เปิดอ่าน 21,388 ครั้ง
เมื่อเทคโนโลยีล้างสมองเด็ก อะไรจะเกิดขึ้น?
เมื่อเทคโนโลยีล้างสมองเด็ก อะไรจะเกิดขึ้น?

เปิดอ่าน 10,536 ครั้ง
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?

เปิดอ่าน 10,789 ครั้ง
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562

เปิดอ่าน 15,540 ครั้ง
ต้นกำเนิด "ร่ม"
ต้นกำเนิด "ร่ม"

เปิดอ่าน 12,417 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก

เปิดอ่าน 35,398 ครั้ง
ถั่วงอกคอนโดฯ ปลูกง่ายๆ สไตล์คนเมือง
ถั่วงอกคอนโดฯ ปลูกง่ายๆ สไตล์คนเมือง

เปิดอ่าน 21,230 ครั้ง
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน

เปิดอ่าน 19,893 ครั้ง
ความหมายของเครื่องในพิธี
ความหมายของเครื่องในพิธี

เปิดอ่าน 10,222 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 14,300 ครั้ง
อย่าลืมเป้าหมายการศึกษา : โดย ดร.กมล รอดคล้าย
อย่าลืมเป้าหมายการศึกษา : โดย ดร.กมล รอดคล้าย
เปิดอ่าน 10,500 ครั้ง
Apink - Hush คลิปนี้คนดูล้านกว่าวิว (HD)
Apink - Hush คลิปนี้คนดูล้านกว่าวิว (HD)
เปิดอ่าน 8,486 ครั้ง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
เปิดอ่าน 11,100 ครั้ง
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
เปิดอ่าน 13,359 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ