ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะ

การปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้วิจัย นายนฤชิต ไชยพิมพ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ “ยุติธรรมวิทยา” สังกัดสำนักการศึกษา

เทศบาลนครสกลนคร จังหวัดสกลนคร

ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Researchand Development) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อประเมินผลของรูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้ แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 1 ได้แก่ 1) เอกสารหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล 3 “ยุติธรรมวิทยา” กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2) เอกสารแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ครูวิชาการงาน จำนวน 7 คน นักเรียนจำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 30 คน แหล่งข้อมูลและกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 2 ได้แก่ 1) เอกสารข้อมูลพื้นฐานที่ได้วิเคราะห์

ในขั้นตอนที่ 1 2) ผู้เชี่ยวชาญด้านรูปแบบและด้านการสอนวิชาการงาน จำนวน 5 คน

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ “ยุติธรรมวิทยา” ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน 3) เอกสารตำราเกี่ยวกับทฤษฎีหลักการ การวัดทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล และกลุ่มตัวอย่างตามวัตถุประสงค์การวิจัยตอนที่ 3, 4 ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ “ยุติธรรมวิทยา” ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 30 คนโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random Sampling) เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) รูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 3) แผนการจัด

การเรียนรู้ 4) แบบวัดทักษะการปฏิบัติงานช่าง 5) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน (t-test ชนิด Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ยึดหลักการและแนวคิดสำคัญคือ มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต การอาชีพและเทคโนโลยี มาใช้ประโยชน์ในการทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ผลการศึกษาเกี่ยวกับ แนวคิด

เพื่อนำมาใช้เป็นทฤษฏีและข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ประกอบด้วยรูปแบบการสอนของจอยซ์และเวลล์ แนวคิดทฤษฎี การสร้างความรู้ (Constructivist Learning Theory) แนวคิดการร่วมมือกันเรียนรู้ (Collaborative Learning) แนวคิดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) แนวคิดการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาด้านทักษะปฏิบัติ (Psycho-Motor Domain) รูปแบบการเรียนการสอน โดยผ่านขั้นตอนการสร้างอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับทฤษฏีเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมายที่กำหนดมีองค์ประกอบสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ หลักการ จุดมุ่งหมาย ขั้นตอนการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลการเรียนการสอน ผลการศึกษาข้อมูลความต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน พบว่า ครู นักเรียนและผู้ปกครองมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะ

การปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบดังนี้ 1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) กระบวนการเรียนรู้ มี 6 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นจูงใจเพื่อเตรียมความพร้อม (2) ขั้นเสนอความรู้สู่การปฏิบัติ (3) ขั้นฝึกปฏิบัติงาน (4) ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ (5) ขั้นสรุปองค์ความรู้ และ (6) ขั้นประเมินผลและประยุกต์ใช้ ผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญในภาพรวมได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.70 ซึ่งแสดงว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม/สอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้และผลการหาประสิทธิภาพ (E1 / E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 81.95/80.33

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง สามารถเชื่อมโยงระหว่างความรู้เดิม ประสบการณ์เดิมที่มีอยู่กับความรู้ใหม่ที่ได้รับ การจัดเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ เป็นลำดับขั้นตอน สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและหลักการ ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะจากการปฏิบัติงาน แก้ปัญหาด้วยตนเองตามลำดับขั้นตอนของรูปแบบ จะช่วยให้ผู้เรียนได้โครงสร้างทางปัญญา โดยการเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์ และความรู้ใหม่ เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้นำไปสู่ทักษะกระบวนการฝึกทักษะการปฏิบัติ ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนจากการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ค่าประสิทธิภาพ (E1 / E2) ของรูปแบบการเรียนการสอนเท่ากับ 83.72/82.50

4. ผลการประเมินผลของรูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลดังนี้

4.1 นักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานช่าง อยู่ในระดับเกณฑ์คุณภาพดี มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 34.41 คิดเป็นร้อยละ 83.09

4.2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิชางานช่าง เพื่อเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติงานช่างพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59)

โพสต์โดย นฤชิต ไชยพิมพ์ : [28 ส.ค. 2562 เวลา 06:36 น.]
อ่าน [3372] ไอพี : 180.183.233.200
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,875 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 48,899 ครั้ง
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้

เปิดอ่าน 12,029 ครั้ง
4 อาหารสลายพุง
4 อาหารสลายพุง

เปิดอ่าน 191,026 ครั้ง
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน

เปิดอ่าน 35,892 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

เปิดอ่าน 26,502 ครั้ง
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม

เปิดอ่าน 51,202 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 16,996 ครั้ง
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์

เปิดอ่าน 12,119 ครั้ง
ตับของเธอ สบายดีไหม?
ตับของเธอ สบายดีไหม?

เปิดอ่าน 18,230 ครั้ง
เงินเดือนมาก-น้อยไม่สำคัญ ทุกเดือนคุณเหลือเงินกี่บาท ?
เงินเดือนมาก-น้อยไม่สำคัญ ทุกเดือนคุณเหลือเงินกี่บาท ?

เปิดอ่าน 13,970 ครั้ง
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ

เปิดอ่าน 20,495 ครั้ง
4 สมุนไพร สยบโรค
4 สมุนไพร สยบโรค

เปิดอ่าน 12,683 ครั้ง
สื่อวีดิทัศน์การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงสำหรับนักเรียนชั้น ม.ต้น ผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
สื่อวีดิทัศน์การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงสำหรับนักเรียนชั้น ม.ต้น ผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

เปิดอ่าน 16,331 ครั้ง
รู้มั้ย… คุณกำลังเสี่ยง เป็นโรคอะไรอยู่
รู้มั้ย… คุณกำลังเสี่ยง เป็นโรคอะไรอยู่

เปิดอ่าน 24,732 ครั้ง
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"
เหตุผลที่ต้องซื้อ "กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 11,378 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง
คอมพิวเตอร์ วิชั่น-ออฟฟิศ ซินโดรม โรคฮิตของคนเมืองทางแก้เริ่มที่ตัวเอง
เปิดอ่าน 9,937 ครั้ง
ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา-ปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน ความต่อเนื่องทางนโยบาย?
ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา-ปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน ความต่อเนื่องทางนโยบาย?
เปิดอ่าน 19,462 ครั้ง
ว่านหางช้าง
ว่านหางช้าง
เปิดอ่าน 18,586 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
เปิดอ่าน 8,528 ครั้ง
ปิดตำนาน Geocities ผู้แพ้ในโลกอินเตอร์เน็ต
ปิดตำนาน Geocities ผู้แพ้ในโลกอินเตอร์เน็ต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ