ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบ เพื่อพัฒนา

การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย นางสาวปัญญพัชร ใสกระจ่าง

ปีที่ศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบเพื่อพัฒนาการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบเพื่อพัฒนาการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบเพื่อพัฒนาการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ และ4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบก่อนเรียนและหลังเรียน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 41 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ รูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและแบบวัดความสามารถด้านการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t–test และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษาพบว่า 1. ข้อมูลพื้นฐานพบว่าการเรียนวรรณคดีวรรณกรรมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของงานประพันธ์และความเพลิดเพลิน อย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. รูปแบบการสอนวรรณคดีไทยโดยใช้การคิดเชิงออกแบบ เพื่อพัฒนาการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีชื่อว่าชื่อ SMAB-PE Model มี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Stimulate their interest) ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจ (Make understanding) ขั้นที่ 3 วิเคราะห์เรื่อง (Analyze) ขั้นที่ 4 ระดมความคิด (Brainstorm) ขั้นที่ 5 นำเสนอความคิด (Present ideas) และขั้นที่ 6 ขั้นประเมินผล (Evaluate) 3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนและการนำรูปแบบการสอนไปขยายผลพบว่านักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และระหว่างเรียนมีพัฒนาการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และ 4. นักเรียนมีความพึงพอใจระดับ มาก

เว็บน่าสนใจ