|
|
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนเป็นฐาน เรื่อง อาหารสำรับท่าฉลอมพร้อมสู่อาชีพ เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 3) ศึกษาประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ มีรายละเอียดดังนี้ 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ 3.2) เปรียบเทียบทักษะชีวิตของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ 3.3) เปรียบเทียบทักษะอาชีพของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ 3.4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาลวัดแหลมสุวรรณารามฯ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 36 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3CER Model คู่มือการใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะชีวิต แบบวัดทักษะอาชีพ และแบบสอบถามความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีแบบไม่อิสระ และ การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้มีความรู้และคุณธรรม โดยมีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ควรมีการร่วมมือกับแหล่งเรียนรู้ในชุมชนเพื่อนำความรู้ในชุมชนมาประยุกต์ใช้ ครูเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ให้คำแนะนำ สนับสนุนให้นักเรียนวิเคราะห์ปัญหา กล้าแสดงออก ค้นหาและสร้างความรู้ด้วยตนเอง มีการวัดผลตามสภาพจริงจากผู้เกี่ยวข้องร่วมกันประเมิน เช่น ครู นักเรียน ผู้ปกครอง วิทยากรท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งในชุมชนท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร มีแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ ชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพสำหรับดำรงชีวิตและประกอบอาชีพในศตวรรษที่ 21 ได้ และนักเรียนมีความต้องการจำเป็นของการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดับมาก (X ̅ =2.77, S.D.=0.41)
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนเป็นฐาน เรื่อง อาหารสำรับท่าฉลอมพร้อมสู่อาชีพ เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (3CER Model) มีดังนี้ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) บริบทชุมชนท่าฉลอม (Context of Thachalom Community: C) 2) เตรียมพร้อมเรื่องเนื้อหา (Content preparation: C) 3) ร่วมมือกันมาเรียนรู้ (Cooperate Learning: C) 4) นำไปสู่การประเมินผล ( Evaluation: E) และ 5) ตระหนักตนเห็นคุณค่า (Realize: R) โดยจัดการเรียนรู้ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยการถอดบทเรียน มี 5 ขั้นตอน (PSTCE) ได้แก่ ขั้นที่ 1 ร่วมคิดร่วมวางแผน (Planning together) ขั้นที่ 2 แสวงหาแก่นความรู้ (Seeking knowledge) ขั้นที่ 3 มุ่งสู่การถอดประเด็น (Taking off lessons) ขั้นที่ 4 สร้างสรรค์เป็นความหมาย (Creating meaning) และขั้นที่ 5 ขยายให้เกิดคุณค่า (Expanding value) ตรวจสอบความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมสนทนากลุ่มจำนวน 10 คน ให้ความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมสามารถนำไปใช้จัดการเรียนการสอนได้ และรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.97/84.08 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ มีดังนี้
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.2 ทักษะชีวิตของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.3 ทักษะอาชีพของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3.4 ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (X ̅ =2.78, S.D.=0.33)
|
โพสต์โดย นภัสชนันท์พร เหมือนจันทร์ : [10 ก.พ. 2563 เวลา 09:05 น.] อ่าน [4892] ไอพี : 184.22.212.4
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,211 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 99,233 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,568 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,600 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,243 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 61,957 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,391 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,469 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,875 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,731 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,021 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 185,486 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,914 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,773 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,542 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 14,838 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,725 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,575 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,102 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,347 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|