ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อม ด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3

ผู้วิจัย นางวิสุดา ดาเลิศ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

ปีที่ศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง ผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญา ของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบโครงการของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญาสำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล ปีที่ 3 ต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญาของ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ ชั้นปฐมวัยปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest-Posttest Design) จำนวน 28 คน เครื่องที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด ดังนี้ (1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ จำนวน 30 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลา 30 ชั่วโมง (2) แบบประเมินความพร้อมทางด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice Test) มี 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจสำหรับเด็กปฐมวัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที (t-test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.81/85.36 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7223 หรือคิดเป็นร้อยละ 72.23

3. ผลการสังเกตและสัมภาษณ์เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 สังเกต เปรียบเทียบ จำแนก กล้าพูด กล้าคิด กล้าแสดงออก สามารถแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ได้ทั้งเรื่องการเรียน การเล่นและการทำงานกลุ่ม มีความภาคภูมิใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาความพร้อมทางด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการเพื่อพัฒนาความพร้อมด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความเหมาะสมในการพัฒนาความพร้อมให้กับเด็กในระดับชั้นปฐมวัย

โพสต์โดย ครูวิสุดา : [26 ส.ค. 2563 เวลา 10:16 น.]
อ่าน [2948] ไอพี : 14.207.161.85
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,726 ครั้ง
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย

เปิดอ่าน 28,106 ครั้ง
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ

เปิดอ่าน 11,744 ครั้ง
ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ฮีโร่เหรียญทองปักกิ่งเกมส์
ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ฮีโร่เหรียญทองปักกิ่งเกมส์

เปิดอ่าน 102,316 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง
วิธีปฐมพยาบาลข้อต่อเคล็ดหรือแพลง

เปิดอ่าน 69,827 ครั้ง
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์

เปิดอ่าน 10,691 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน
จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน

เปิดอ่าน 10,473 ครั้ง
กระหึ่มยูทูบ! เพลงต้นกล้าของพ่อ ร้องโดย นักกีฬาทีมชาติไทย
กระหึ่มยูทูบ! เพลงต้นกล้าของพ่อ ร้องโดย นักกีฬาทีมชาติไทย

เปิดอ่าน 15,089 ครั้ง
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา

เปิดอ่าน 13,354 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา

เปิดอ่าน 29,482 ครั้ง
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9
Nanmeebooks Reading Club ปีที่ 9

เปิดอ่าน 6,921 ครั้ง
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7

เปิดอ่าน 79,659 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์
ระบบโทรทัศน์

เปิดอ่าน 15,011 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 16,983 ครั้ง
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์

เปิดอ่าน 10,144 ครั้ง
โยคะในรถยามจราจรติดขัด
โยคะในรถยามจราจรติดขัด

เปิดอ่าน 26,289 ครั้ง
ISO นั้นสำคัญไฉน
ISO นั้นสำคัญไฉน
เปิดอ่าน 6,375 ครั้ง
เคยได้ยินหรือยัง!“หลักสูตรฐานสมรรถนะ”กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
เคยได้ยินหรือยัง!“หลักสูตรฐานสมรรถนะ”กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 35,196 ครั้ง
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
เปิดอ่าน 4,277 ครั้ง
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เปิดอ่าน 88,430 ครั้ง
จะใช้คำว่าทัศนะและทรรศนะได้เมื่อไหร่
จะใช้คำว่าทัศนะและทรรศนะได้เมื่อไหร่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ