ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมชั้นประถมศึกษาป

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕

ชื่อผู้รายงาน : นางพรรณกร นนทะการ

พุทธศักราช : 2563

บทคัดย่อ

การรายงานครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน จากการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ประชากรที่ใช้ในการรายงาน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/1 และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/2 โรงเรียนเทศบาลเมืองเขาสามยอด ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา 256๓ จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.80 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test และดัชนีประสิทธิผล

ผลการรายงานปรากฏ ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนเทศบาลเมืองเขาสามยอด ๑ เท่ากับ 85.94/84.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีค่าเท่ากับ 0.6787 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ เพราะมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.87

3. คะแนนประเมินผลหลังการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ มีความแตกต่างกับคะแนนประเมินผลก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ที่มีการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มาประกอบการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนเรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52

โพสต์โดย พรรณ : [19 ก.พ. 2564 เวลา 11:10 น.]
อ่าน [2923] ไอพี : 183.88.172.39
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,021 ครั้ง
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม
6 นิสัยที่ทำให้อายุยืน ใช่คุณครบทุกข้อไหม

เปิดอ่าน 13,060 ครั้ง
ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี
ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี

เปิดอ่าน 15,126 ครั้ง
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา

เปิดอ่าน 10,905 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ

เปิดอ่าน 42,101 ครั้ง
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ

เปิดอ่าน 17,060 ครั้ง
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้

เปิดอ่าน 13,422 ครั้ง
"นักวิทย์-นักคิด" ผู้ทรงอิทธิพลใน TIME 100
"นักวิทย์-นักคิด" ผู้ทรงอิทธิพลใน TIME 100

เปิดอ่าน 11,247 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 15,561 ครั้ง
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 13,034 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ

เปิดอ่าน 58,328 ครั้ง
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?

เปิดอ่าน 55,420 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 26,889 ครั้ง
สาวน่องใหญ่ แต่งตัวอย่างไร..ให้ดูสวยเพรียว
สาวน่องใหญ่ แต่งตัวอย่างไร..ให้ดูสวยเพรียว

เปิดอ่าน 43,069 ครั้ง
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน
ทำได้จริง!!เทคนิคการปลูกกล้วยให้เครือหันออกไปทางทิศเดียวกัน

เปิดอ่าน 12,567 ครั้ง
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา
ลดความอ้วน ทำได้ ไม่ต้องพึ่งยา

เปิดอ่าน 10,536 ครั้ง
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
เปิดอ่าน 13,767 ครั้ง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
อย.เตือนภัยครีมกันแดด - แก้ฝ้า 15 ชนิดใช้แล้วหน้าพัง
เปิดอ่าน 74,848 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
เปิดอ่าน 18,333 ครั้ง
อาร์คิมีดีส
อาร์คิมีดีส
เปิดอ่าน 29,996 ครั้ง
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ