ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีท

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม

การเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

โรงเรียนเทศบาล ๑ (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์)

ผู้รายงาน นางกิติมา มวลชัยภูมิ

พุทธศักราช 2562

บทคัดย่อ

การรายงานครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ) เพื่อหาประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม การเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ประชากรที่ใช้ในการรายงาน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3 ) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีประสิทธิผล

ผลการรายงานปรากฏ ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอุปถัมภ์) เท่ากับ 85.19/ 87.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยม

ศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีค่าเท่ากับ 0.7291 แสดงว่านักเรียน มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ เพราะมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.91

3. คะแนนประเมินผลหลังการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีความแตกต่างกับคะแนนประเมินผลก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน รายวิชา พ23101 สุขศึกษา เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่มีการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษา มาประกอบการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนรายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 ที่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอน แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา พ23101 เรื่อง โรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนในรายวิชาสุขศึกษา พ23101 สูงขึ้น

โพสต์โดย ปิยพร : [28 ก.พ. 2564 เวลา 05:28 น.]
อ่าน [2988] ไอพี : 223.24.157.15
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,886 ครั้ง
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ : กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่อำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่าลงมา พ.ศ.2562
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ : กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่อำนวยการระดับสูงหรือเทียบเท่าลงมา พ.ศ.2562

เปิดอ่าน 20,186 ครั้ง
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
8 วิธีปรับโฉม "โรงเรียน" ใหม่ จัดอย่างไรให้เด็กเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ

เปิดอ่าน 11,999 ครั้ง
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 81,128 ครั้ง
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ
ที่มาของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 12,420 ครั้ง
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก
"ไดเอ็ตแบบไม่โยโย่" แนะกฎเหล็กลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 17,619 ครั้ง
กินส้มตำ ระวังเจออาหารเป็นพิษ
กินส้มตำ ระวังเจออาหารเป็นพิษ

เปิดอ่าน 13,653 ครั้ง
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....

เปิดอ่าน 50,607 ครั้ง
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)

เปิดอ่าน 12,257 ครั้ง
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์

เปิดอ่าน 16,381 ครั้ง
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ

เปิดอ่าน 30,046 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 49,408 ครั้ง
ยาสตรี คืออะไร?
ยาสตรี คืออะไร?

เปิดอ่าน 31,762 ครั้ง
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน

เปิดอ่าน 8,655 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?
ปฏิรูปการศึกษาไทย ไปทางไหน ?

เปิดอ่าน 12,718 ครั้ง
"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"
"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"

เปิดอ่าน 11,884 ครั้ง
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
เปิดอ่าน 10,314 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
เปิดอ่าน 23,864 ครั้ง
การวัดอุณหภูมิของอากาศ
การวัดอุณหภูมิของอากาศ
เปิดอ่าน 140,768 ครั้ง
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
เปิดอ่าน 9,786 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ