ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านปากแพรก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านปากแพรก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต1 ทำการประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ ซิปป์โมเดล (CIPP model) ของสตัฟเฟิลบีม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านปากแพรก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต1 2)เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 3)เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านปากแพรก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 4)เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านปากแพรก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 4 คน นักเรียนจำนวน 23 คน ผู้ปกครอง จำนวน 23 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน(ไม่นับรวมผู้แทนครู) รวมทั้งสิ้น 57 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินเป็น แบบสอบถาม จำนวน 2 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1.ผลการประเมินด้านบริบท โดยรวมอยู่ในระดับมาก ได้แก่ หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ของโครงการ และความสอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน

2.ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ได้แก่ การออกแบบ

การดำเนินงาน ระยะเวลา และกิจกรรมของโครงการ

3.ผลการประเมินด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ได้แก่ การวางแผนโครงการ

การมีส่วนร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน การนิเทศติดตาม และการประเมินผล

4.ผลการประเมินด้านผลผลิต โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยผลการประเมินตัวชี้วัดที่อยู่ในระดับมากที่สุดคือ ความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในระดับมาก ได้แก่ การบรรลุวัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่ได้รับ การนำไปใช้

5.ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการจัดทำโครงการ พบว่า การดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ทำให้ครูต้องจัดทำเอกสารต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ครูก็มีภาระงานที่ต้องปฏิบัตินอกเหนือจากการสอน ทำให้ไม่มีเวลาในการดำเนินกิจกรรมได้เต็มที่ สำหรับการเดินทางไปเยี่ยมบ้านของนักเรียนต้องใช้เวลามาก เพราะบ้านของนักเรียนอยู่ห่างไกลจากโรงเรียน แนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน คือ ผู้บริหารและครูทุกคน ให้ความสำคัญของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกำหนดนโยบายที่ชัดเจน มีการนิเทศ ติดตามระบบอย่างต่อเนื่อง ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมน้อย เนื่องจากขาดการประสานงานและการประชาสัมพันธ์ที่ดีของโรงเรียน

โพสต์โดย ปราณ : [29 เม.ย. 2564 เวลา 18:26 น.]
อ่าน [4451] ไอพี : 110.168.236.198
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,782 ครั้ง
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก / Mark Elliot Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง facebook

เปิดอ่าน 16,019 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ

เปิดอ่าน 33,266 ครั้ง
โรคพยาธิตัวจี๊ด
โรคพยาธิตัวจี๊ด

เปิดอ่าน 68,828 ครั้ง
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โดเรมี : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 12,501 ครั้ง
รับอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มพลังให้สมอง
รับอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มพลังให้สมอง

เปิดอ่าน 22,503 ครั้ง
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 18,545 ครั้ง
1 ใน 3 วิตามินรวม ผลิตไม่ได้มาตรฐาน
1 ใน 3 วิตามินรวม ผลิตไม่ได้มาตรฐาน

เปิดอ่าน 16,768 ครั้ง
เตือนมีภาพ-คลิปโป๊เด็กต่ำกว่า 18 ปี ในมือถือ ระวังเจอโทษหนัก
เตือนมีภาพ-คลิปโป๊เด็กต่ำกว่า 18 ปี ในมือถือ ระวังเจอโทษหนัก

เปิดอ่าน 36,479 ครั้ง
ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ
ร่าง พรฎ.ปรับเงินเดือนครูฯ

เปิดอ่าน 37,300 ครั้ง
เถียงนาน้อย
เถียงนาน้อย

เปิดอ่าน 23,312 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ

เปิดอ่าน 9,889 ครั้ง
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน
เคล็ดลับดูแลผมในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 23,688 ครั้ง
บัญญัติ 6 ประการในการซื้อ"กล้องดิจิตอล"
บัญญัติ 6 ประการในการซื้อ"กล้องดิจิตอล"

เปิดอ่าน 11,839 ครั้ง
ประวัติการผลิตเบียร์
ประวัติการผลิตเบียร์

เปิดอ่าน 4,549 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 14,298 ครั้ง
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
เปิดอ่าน 22,231 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
เปิดอ่าน 52,632 ครั้ง
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
เปิดอ่าน 12,510 ครั้ง
บัญญัติ 10 ประการอำพรางหุ่น
บัญญัติ 10 ประการอำพรางหุ่น
เปิดอ่าน 12,177 ครั้ง
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ