|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม 2) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียน เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ผ่านเอกสารประกอบการเรียน แบบแผนการวิจัยที่ใช้คือการทดลองแบบกลุ่มเดียว สอบก่อนเรียนและหลังเรียน ประชากรในการวิจัยคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ จำนวน 38 คน โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม พบว่า ความก้าวหน้าทางการเรียนแบบทั้งชั้นเรียน (Class normalized gain) มีค่าอยู่ในระดับสูง ค่าเท่ากับ 0.75 ความก้าวหน้าทางการเรียนแบบรายบุคคล (Single student normalized gain) มีค่าอยู่ในระดับสูงของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.05 และมีค่าอยู่ในระดับปานกลางของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 28.95 โดยไม่มีนักเรียนที่มีความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำ
ผลการวิจัย
ความก้าวหน้าทางการเรียนแบบทั้งชั้นเรียน (Class normalized gain) มีค่าเท่ากับ 0.75 อยู่ในระดับสูง และความก้าวหน้าทางการเรียนแบบรายบุคคล (Single student normalized gain) พบว่าจำนวนนักเรียนที่มีความก้าวหน้าทางการเรียนของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับสูงและปานกลางคิดเป็นร้อยละ 71.05 และ 28.95 ตามลำดับ โดยไม่มีนักเรียนที่มีความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงผลเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการสร้างเอกสารประกอบการเรียนในการจัดการเรียนการสอน สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคติวิสท์ (Constructivism) ที่มีใจความว่า การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวผู้เรียนเอง โดยผู้เรียนเป็นผู้สร้างสรรค์ความรู้ (Construct) จากการเชื่อมโยงเหตุการณ์หรือความสัมพันธ์จากสิ่งที่พบเห็นเป็นรูปธรรมกับความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่เดิม แล้วนำมาสร้างเป็นโครงสร้างทางปัญญา (Cognitive structure) ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และเกิดแนวคิดหลักที่ถูกต้องได้เช่นเดียวกับผลการศึกษาของ Gilakjani, Leong and Ismail (2013) ที่กล่าวถึงผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีและทฤษฎีคอนสตรัคติวิสท์ร่วมกัน ช่วยให้การเรียนการสอนเกิดประสิทธิภาพและผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิราภรณ์ ปุณยวัจน์พรกุล และวิไลพร ลักษมีวาณิชย์ (2562) ได้ทำการพัฒนาแนวคิดวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์วิดีโอความเร็วสูง กรณีศึกษาการเคลื่อนที่แบบโพรเจคไทล์ พบว่า กลุ่มทดลองที่เสริมแนวคิดวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ วิดีโอความเร็วสูงสามารถใช้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์อธิบายลักษณะการเคลื่อนที่แบบโพรเจคไทล์เพิ่มขึ้นจากจำนวน เฉลี่ยประมาณร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 69 มีความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ระหว่าง 0.24-0.95 มากกว่ากลุ่มควบคุม ที่ศึกษาอย่างอิสระนอกห้องเรียนที่พบความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ระหว่าง 0.060.75 และสอดคล้องกับ ปฐมาวดี พละศักดิ์ ที่ได้ศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ พบว่า ความก้าวหน้าทั้งชั้นเรียนในระดับสูง ค่าเท่ากับ 0.71 ความก้าวหน้ารายบุคคลมีค่าอยู่ในระดับสูง ของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 55.00 และมีค่าอยู่ในระดับปานกลางของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 45.00 โดยไม่มีนักเรียนที่มีความความก้าวหน้าทางการเรียนอยู่ในระดับต่ำ และความก้าวหน้าทางการเรียนรายเนื้อหาที่มีความก้าวหน้าสูงที่สุดคือ เรื่องมวลโมเลกุลมีค่าอยู่ในระดับสูง ส่วนเรื่องการเตรียมสารละลายมีความก้าวหน้าต่ำที่สุด มีค่าอยู่ในระดับปานกลาง นักเรียนมีความเข้าใจเชิงมโนมติหลังเรียนแบบความเข้าใจสมบูรณ์มากกว่าร้อยละ 70 และมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 อยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย ครูกันต์ : [5 ก.ย. 2564 เวลา 17:40 น.] อ่าน [4522] ไอพี : 119.42.99.221
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 6,847 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,111 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,329 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,326 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,093 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,753 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,715 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,252 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 99,968 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,926 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,055 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,416 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,372 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,762 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,195 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 420,915 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,465 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,668 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,863 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,606 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|