สุภาพร อันแสน*

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องฤดูฝน และเรื่องผีเสื้อ (2) พัฒนาให้ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก (3) เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อกิจกรรมสร้างสรรค์ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนไฮสโคป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนวัดทรัพย์สโมสร สำนักงานเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/4 จำนวน 20 คน เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/2 จำนวน 20 คน เป็นกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีการจับฉลาก (Lottery) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดความรู้พื้นฐานทางการเรียนเรื่อง ฤดูฝน และเรื่องผีเสื้อ ค่าความเชื่อมั่นที่ 0.71 2) แบบวัดทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กแบบรูบริคส์ 3)แบบวัดเจตคติและแบบประเมินทักษะพิสัย 4)แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนไฮสโคป

ผลการวิจัยพบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบไฮสโคป ในกิจกรรมสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนวัดทรัพย์สโมสร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นักเรียนกลุ่มทดลองมีความรู้ความ เข้าใจ เรื่อง ฤดูฝน เรื่องผีเสื้อ และทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กสูงกว่ากลุ่มควบคุมได้รับการ จัดการเรียนรู้แบบปกติ นักเรียนกลุ่มทดลองมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนแบบไฮสโคปอยู่ในระดับมาก และในส่วนด้านเจตคติ นักเรียน กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบไฮสโคป มีเจตคติต่อกิจกรรมสร้างสรรค์ สูงกว่ากลุ่ม ควบคุมที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบปกติ

คำสำคัญ : รูปแบบการสอนไฮสโคป , พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก

เว็บน่าสนใจ