ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

ชื่อผลงาน โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน

โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

ชื่อผู้ประเมิน วุฒิชัย วิทยาคม

ปีที่ทาการประเมิน 2563

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน

โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

ได้กาหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้ 1) เพื่อประเมินบริบท (Context evaluation) ของโครงการ 2) เพื่อ

ประเมินปัจจัยนาเข้า(Input evaluation) 3) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process evaluation) และ

4) เพื่อประเมินผลผลิต (Product evaluation) โดยใช้รูปแบบการประเมินประยุกต์แบบซิปป์โมเดล

(CIPP Model) ประชากรผู้ให้ข้อมูล เป็นครู จานวน 9 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

จานวน 9 คน กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยนักเรียนชั้น ป.4–ป.6 จานวน 50 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้น

ป.4–ป.6 จานวน 50 คน ซึ่งแต่ละกลุ่มได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถาม

และการเก็บรวบรวมเอกสารรายงานที่เกี่ยวข้อง ทาการวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ย ( x̄ ) และค่าความ

เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ SPSS for Window

ผลการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน

โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

สรุปได้ดังนี้

1. ด้านบริบทของโครงการ

1.1 ความคิดเห็นของคณะครู สภาพการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาคุณธรรม

จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) อยู่ใน

ระดับมาก ( x̄ =4.27) พบว่า โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของ

นักเรียน สอดคล้องกับนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นลาดับแรก ส่วน

ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง

ประสงค์ของนักเรียน มีความสอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล)

1.2 ความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สภาพการจัดกิจกรรมการ

ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียน โรงเรียนบ้านรางม่วง อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ =4.53)

พบว่า โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ของนักเรียน สอดคล้องกับ

นโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นลาดับแรก ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ย

ต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ วัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง

ประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล) สามารถนาไปปฏิบัติได้ ทั้งนี้อาจ

เนื่องมาจากประเด็นดังกล่าวจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการดาเนินงาน โดยเฉพาะ

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่จะต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยผู้บริหารคอย

ให้คาแนะนา กากับ ติดตาม อย่างใกล้ชิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

2. ด้านปัจจัยนาเข้า จากความคิดเห็นของคณะครู มีความคิดเห็นต่อผลการดาเนินการใน

ภาพรวมอยู่ในระดับ ( x̄ =4.19) พบว่า ผู้บริหารกาหนดขอบข่ายหน้าที่ ความรับผิดชอบของ

ผู้รับผิดชอบโครงการได้อย่างชัดเจนเป็นลาดับแรก ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ

ผู้บริหารจัดบุคลากรให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการดาเนินงานของโครงงาน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ

โรงเรียนขาดวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการดาเนินโครงการ ขาดแคลนงบประมาณ

3. ด้านกระบวนการดาเนินงาน จากความคิดเห็นของคณะครู ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ

โครงการ มีความคิดเห็นต่อผลการดาเนินการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ =4.12) พบว่า ผู้บริหาร

จัดประชุมชี้แจงให้ผู้รับผิดชอบโครงการ เข้าใจในขั้นตอนการทางาน และบทบาทหน้าที่ที่ได้รับ

มอบหมายเป็นลาดับแรก ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ ผู้บริหารมีการประเมิน

วิเคราะห์ และสรุปผลการประเมิน รวมทั้งรายงานผลการประเมิน ทั้งนี้การดาเนินงานของโครงการ

จาเป็นต้องมีการวางแผนงานอย่างดีไว้ล่วงหน้า และมีการดาเนินงานตามแผนอย่างเป็นขั้นตอน

4. ด้านผลผลิต

4.1 ความคิดเห็นของคณะครู มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (μ =4.36) พบว่า นักเรียน

มีความตั้งใจและรับผิดชอบในการทางานให้แล้วเสร็จ และนักเรียนนาภูมิปัญญาไทยมาใช้ให้เหมาะสม

ในวิถีชีวิตเป็นลาดับแรก ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ นักเรียนเอาใจใส่และมี

ความเพียรพยายามในการเรียนรู้ และนักเรียนชื่นชมผลงานด้วยความภาคภูมิใจ

4.2 ความคิดเห็นของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.46) พบว่า นักเรียน

พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทางานให้ แล้วเสร็จเป็นลาดับแรก ส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ย

ต่าสุดอยู่ลาดับสุดท้าย คือ นักเรียนเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้

4.3 ความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.27)

พบว่า นักเรียนพยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทางานให้แล้วเสร็จ และนักเรียนมีความตั้งใจ

และรับผิดชอบในการทางานให้แล้วเสร็จ เป็นลาดับแรกส่วนประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดอยู่ลาดับ

สุดท้าย คือ นักเรียนเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ และนักเรียนให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

และเป็นจริง ไม่พูดเท็จ

โพสต์โดย เอ็ม : [15 ธ.ค. 2564 เวลา 05:30 น.]
อ่าน [66109] ไอพี : 125.25.90.169
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,788 ครั้ง
ลักษณะของช้างดี
ลักษณะของช้างดี

เปิดอ่าน 516 ครั้ง
คู่มือผู้เริ่มต้น: ทำความเข้าใจประกันโรคร้ายแรงใน 5 นาที
คู่มือผู้เริ่มต้น: ทำความเข้าใจประกันโรคร้ายแรงใน 5 นาที

เปิดอ่าน 11,066 ครั้ง
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้

เปิดอ่าน 15,027 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 9,134 ครั้ง
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)

เปิดอ่าน 1,705 ครั้ง
6 สมุนไพรต้านริ้วรอย ช่วยคืนความอ่อนเยาว์
6 สมุนไพรต้านริ้วรอย ช่วยคืนความอ่อนเยาว์

เปิดอ่าน 33,883 ครั้ง
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้
แตงกวา พืชใช้น้ำน้อย ปลูกข้างบ้านได้

เปิดอ่าน 36,044 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?

เปิดอ่าน 21,643 ครั้ง
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์

เปิดอ่าน 16,845 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงและทำความเข้าใจการปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงและทำความเข้าใจการปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 24,704 ครั้ง
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!

เปิดอ่าน 11,738 ครั้ง
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย "10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง"
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย "10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง"

เปิดอ่าน 19,083 ครั้ง
ระเบียบทำงานนอกเวลาราชการ
ระเบียบทำงานนอกเวลาราชการ

เปิดอ่าน 11,938 ครั้ง
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว
นอน ถูกท่า ถูกวิธี.. เพิ่มความงามแบบไม่รู้ตัว

เปิดอ่าน 13,360 ครั้ง
เปิดปูม"สินค้า"อวดอ้าง รักษาโรคครอบจักรวาล
เปิดปูม"สินค้า"อวดอ้าง รักษาโรคครอบจักรวาล

เปิดอ่าน 23,974 ครั้ง
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
เปิดอ่าน 20,069 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 11,268 ครั้ง
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
เปิดอ่าน 13,759 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
เปิดอ่าน 16,091 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ