ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่องานวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563

ชื่อเรื่องวิจัย : การพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE

MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563

ชื่อผู้วิจัย : นางสาววีซานา อับดุลเลาะ

ปีการศึกษา : 2562-2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. ศึกษาระดับคุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563 2. ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563 3. เพื่อศึกษาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านกรือซอ หลังการพัฒนาโดยใช้ KRU-DEE MODEL ปีการศึกษา 2562 และ 2563

4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียน โดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย นักเรียน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 76 คน ครู ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 17 คน ผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 76 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562และปีการศึกษา 2563 จำนวน 13 คน และองค์กรชุมชน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ระดับคุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562โดยภาพรวมทุกกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =3.71, S.D.= 0.08) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( =4.08, S.D.= 0.09) รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( =4.03, S.D.= 0.08) ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.42, S.D.= 0.08)

ปีการศึกษา 2563โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.60, S.D.= 0.15) เมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.69, S.D.= 0.12) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครูและองค์กรชุมชน โดยกลุ่มครูอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.60, S.D.= 0.12) โดยกลุ่มองค์กรชุมชนอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.60, S.D.= 0.20) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.52, S.D.= 0.22) สอดคล้องกับสมมุติฐาน

2. สรุปผลการวิเคราะห์ระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562 – 2563 จำแนกตามกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยรวมผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ( = 3.64, S.D.= 0.10) และเมื่อจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มครู มีส่วนร่วม ( = 3.97, S.D.= 0.08) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง ( = 3.88, S.D.= 0.12) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชน มีส่วนร่วมต่ำสุด อยู่ในระดับมากเช่นกัน ( = 3.23, S.D.= 0.08)

ปีการศึกษา 2563 โดยรวมผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D.= 0.11) และเมื่อพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.68, S.D.= 0.11) รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน ( = 4.61, S.D.= 0.11) ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชน มีส่วนร่วมต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.21, S.D.= 0.11) สอดคล้องกับสมมุติฐาน

3. ผลการเปรียบเทียบการสังเกตการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอหลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 และ 2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 ทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนตามตัวบ่งชี้ที่โรงเรียนกำหนด ทั้ง 3 ด้าน มีคุณภาพระดับดีขึ้นไป มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 80

ปีการศึกษา 2563 ทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียน ตามตัวบ่งชี้ที่โรงเรียนกำหนด ทั้ง 3 ด้าน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 92.94 แสดงให้เห็นว่าทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียน ปีการศึกษา 2563 มีการพัฒนาสูงกว่า ปีการศึกษา 2562 สอดคล้องตามสมมติฐาน

4. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชนในการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( = 3.66, S.D. = 0.09) เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ปกครอง มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.11 S.D. = 0.08) รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 3.73, S.D. = 0.14) ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.45, S.D. = 0.12)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.68, S.D. = 0.12 ) เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.89, S.D. = 0.13) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครูอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.68, S.D. = 0.11) ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน ( = 4.57, S.D. = 0.21) สอดคล้องตามสมมติฐาน

ข้อเสนอแนะ

จากการวิจัยการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนโดยใช้ KRU-DEE MODEL โรงเรียนบ้านกรือซอ ปีการศึกษา 2562-2563 ครั้งนี้ทำให้ได้ค้นพบจุดเด่น ของการมีแบบอย่างที่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนต่อไป

1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนำผลการวิจัยไปใช้

1.1 K: Knowledge (ความรู้) ควรมีการบริหารจัดการให้ความสำคัญกับความรู้ความเข้าใจในทุกภาคส่วนเป็นหลัก และให้ความสำคัญ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีความเข้าใจร่วมกัน ทั้งภาคีเครือข่าย คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง เครือข่ายชุมชน สร้างความรู้ความเข้าใจด้านต่าง ๆ บุคลากรครูมีความรู้ที่ชัดเจนในสายงานที่ได้รับมอบหมาย มีการพัฒนาตนเองสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น สร้างและสนับสนุนบุคลากรให้มีคุณภาพ จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนานักเรียนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพทางด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 R : Responsibility (ความรับผิดชอบ) ควรมีการบริหารจัดการเสริมสร้างให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งในองค์กรและนอกองค์กรมีความตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบในการร่วมมือดำเนินกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนานักเรียน หากทุกฝ่ายเกิดความตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกัน ย่อมจะเกิดการพัฒนานักเรียนร่วมกันอย่างมีคุณภาพ

1.3 U : Unity (ความสามัคคี) ควรมีการบริหารจัดการให้ทุกคนเห็นความสำคัญและคุณค่าของทีมงานทุกฝ่าย ส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของความสามัคคี ด้วยความสามัคคีนั้นจะเป็นพลังสำคัญที่ทำให้งานต่าง ๆ บรรลุตามเป้าหมายได้อย่างมีคุณภาพจะเป็นพลังที่จะทำให้เกิดการพัฒนานักเรียนได้อย่างยั่งยืน

1.4 D : Do (การปฏิบัติ) ควรมีการบริหารจัดการในการลงมือปฏิบัติ จากการที่ได้วิเคราะห์การดำเนินงานและวางแผนขั้นตอนต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงที่ต้องการให้เกิดผลลัพธ์อย่างมีคุณภาพนั้น จะเป็นขั้นตอนการดำเนินงานที่ทำให้เกิดผลลัพธ์เกิดขึ้นจริงในการพัฒนานักเรียน

1.5 E:Evaluation (การใส่ใจประเมินผลทุกขั้นตอน) ควรมีการบริหารจัดการที่มีการทบทวนประเมินผลในทุกระยะ ในการดำเนินงานซึ่งมีการร่วมวางแผน และร่วมดำเนินการ และร่วมประเมินผล ในแต่ละช่วงเวลาควรมีการประเมินการทำงานอย่างเป็นระยะ เพื่อให้เป้าหมายที่ได้วางร่วมกันไว้เกิดผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

1.6 : Eulogize (การชื่นชมให้กำลังใจ) ควรมีการบริหารจัดการที่มีการแจ้งผลการดำเนินงานเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบผลจากการดำเนินงาน ตลอดจนมีการชื่นชม ยกย่อง สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดผลลัพธ์ต่อผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจนเชิงประจักษ์ ขณะเดียวกันส่งเสริมการให้กำลังใจซึ่งกันและกันในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม ต่อเนื่องในการร่วมบริหารจัดการ ดำเนินงานเพื่อให้เป้าหมายเกิดขึ้นกับนักเรียนตามที่คาดหวังไว้จะทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการดำเนินงานร่วมกัน และทำให้เกิดผลลัพธ์ต่อนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียน

2.2 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนกับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

2.3 ควรศึกษาผลกระทบทางบวกของการพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนของนักเรียนที่มีต่อบริบทต่อตัวนักเรียนเองและสังคม

โพสต์โดย วีซานา อับดุลเลาะ : [18 ก.พ. 2565 เวลา 10:33 น.]
อ่าน [2137] ไอพี : 180.180.159.251
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 107,162 ครั้ง
ความหมายของมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา
ความหมายของมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา

เปิดอ่าน 21,223 ครั้ง
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล

เปิดอ่าน 72,408 ครั้ง
World Wide Web คืออะไร
World Wide Web คืออะไร

เปิดอ่าน 13,921 ครั้ง
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด

เปิดอ่าน 50,535 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร

เปิดอ่าน 9,927 ครั้ง
6 วิธีช่วยวัยรุ่นเก็บเงิน
6 วิธีช่วยวัยรุ่นเก็บเงิน

เปิดอ่าน 295,225 ครั้ง
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)

เปิดอ่าน 2,559 ครั้ง
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค
อาการปวดท้องบ่งบอกโรค

เปิดอ่าน 10,665 ครั้ง
A Systems Approach for Developing Technological Literacy
A Systems Approach for Developing Technological Literacy

เปิดอ่าน 17,000 ครั้ง
ระเบียบทำงานนอกเวลาราชการ
ระเบียบทำงานนอกเวลาราชการ

เปิดอ่าน 26,553 ครั้ง
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"

เปิดอ่าน 17,844 ครั้ง
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที

เปิดอ่าน 13,819 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 90,279 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 16,611 ครั้ง
โมกบ้าน
โมกบ้าน

เปิดอ่าน 12,758 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
เปิดอ่าน 40,229 ครั้ง
นักเทคโนโลยีการศึกษา
นักเทคโนโลยีการศึกษา
เปิดอ่าน 13,408 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
เปิดอ่าน 9,129 ครั้ง
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21
ปัดฝุ่น "สถาบันฝึกหัดครู" พัฒนาพลเมืองการศึกษาศตวรรษ 21
เปิดอ่าน 17,945 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ