การพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
The Development of School-Based Management Model
for the Quality Improvement of Ban Dalam School,
under Satun Elementary Education Service Area Office
มิรินทร์ พนมอุปการ
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดาหลำ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนการสร้างรูปแบบ ขั้นตอนการนำรูปแบบไปทดลองใช้ และขั้นตอนการประเมินผลการใช้รูปแบบ
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันโรงเรียนบ้านดาหลำ มีการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีการดำเนินงานมากที่สุดในด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม รองลงมาคือ ด้านการกระจายอำนาจ ด้านการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ด้านการมีภาวะผู้นำแบบเกื้อหนุน และด้านการบริหารตนเอง ตามลำดับ 2) รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 แนวคิดและหลักการของรูปแบบ ส่วนที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ส่วนที่ 3 ระบบงานและกลไก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ประกอบด้วย การวางแผน การจัดองค์การ การนำ และการควบคุม ส่วนที่ 4 กระบวนการดำเนินงาน และส่วนที่ 5 เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการดำเนินงาน มีขั้นตอนการดำเนินงานตามชื่อ 3s Model (School, Strategy, Success) ผลการประเมินรูปแบบตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยภาพรวม มีความเหมาะสม ความถูกต้อง และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารในปีการศึกษา 2562 พบว่า คุณภาพด้านนักเรียน อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 84.69 คุณภาพครู อยู่ในระดับการดำเนินงานมาก คุณภาพการบริหารจัดการ อยู่ในระดับการดำเนินงานมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ทำให้การพัฒนาของโรงเรียน ในปีการศึกษา 2563 มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2562 ในทุกด้านทั้งด้านผู้เรียน ด้านครูและด้านการบริหารจัดการศึกษา และ 4) ผลการประเมินรูปแบบการบริหาร พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ อยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ : การพัฒนารูปแบบ, การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
Abstract
This study was aimed to develop the school-Based management model for the quality improvement of Ban Dalam School. The study included 3 phrases : the background information study phrase, the model-building phrase, the experimentation phrase, and the evaluation phrase
Findings from this study indicated that 1) The implementation of school-based management model at Ban Dalam School was generally at a high level. When every aspect considered, it was found that school-based management model was applied from the most to the least in the following order of aspects : the participative management aspect, the decentralization aspect, the whole-school transform aspect, the supporting leadership aspect and the self-management aspect. 2) School-based management model for the quality improvement of Ban Dalam School consists of 5 main parts : 1. the concept of the model 2. The objectives of the model 3. work system and mechanism of the 4 components : Planning , Organizational Management, Leading and Monitoring 4. Operation Process and
5. The Conditions of Model Implementation. This experimental management was conducted using 3S Model <School, Strategy, Success>. According to evaluations by qualified professionals, in general, the accuracy, suitability and the possibility of the model implementation were at a highest level 3) The result of the experimental implementation of the model showed that the student quality was at a high level of 84.69 percent, the teacher quality was at a high level and the administration quality was at a highest level. Compared to that in Academic Year 2562, it was found that the implementation of school-based management model resulted in better quality improvement of the school in Academic Year 2563 considered in all aspects : students, teachers , and educational administration. 4) The evaluation of the management model indicated that the satisfaction of the students and the parents toward the implementation of school-based management model for the quality improvement of Ban Dalam School was at a highest level.
Keywords : Development a Model, School - Based Management
บทนำ
การพัฒนาการศึกษาคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 จึงกำหนดบทบาทยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนและสังคมไทยให้เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศ มีความพร้อมทางกาย ใจ สติปัญญา เป็น คนดี คนเก่ง มีคุณภาพพร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 (สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ. 2561 : 31-37) และการที่จะทำให้การจัดการศึกษามีคุณภาพ การร่วมมือกันของสถาบันสังคม ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ศาสนา การศึกษา และสื่อ ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญ ด้วยเหตุนี้ การจัดการศึกษาจึงเป็นภารกิจของหลายฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ ทำหน้าที่อย่างประสานสัมพันธ์กัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษา แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดการศึกษาในระบบสถานศึกษา ก็ยังมีบทบาทสำคัญและเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้สามารถดำเนินภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 5 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้กระทรวงกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาทั้งด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไปไปยังคณะกรรมการ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง ให้มีคณะกรรมการสถานศึกษาทำหน้าที่ในการบริหารโดยทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางของการบริหาร มีหน้าที่กำกับ สนับสนุน และส่งเสริม ผู้บริหารโรงเรียนซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการสถานศึกษา
จากข้อมูลข้างต้น การบริหารสถานศึกษา จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารให้ความสำคัญกับการพัฒนา ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ต้องรู้และเข้าใจจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาและร่วมมือกันการนำองค์การไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องมีความรู้ ความเข้าใจใฝ่รู้และพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นระบบ เพื่อมุ่งพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มุ่งเน้นความเป็นเลิศทางการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดีมีปัญญาและก่อให้เกิดความสุขตามศักยภาพ และที่สำคัญผู้บริหารจะต้องเข้าใจนโยบายของการจัดการศึกษาให้ชัดเจนและคิดหาแนวทางกระบวนการที่จะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล จึงมีความสนใจที่จะพัฒนารูปแบบการบริหารขึ้น อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา เป็นโรงเรียนที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มีสมรรถภาพในการจัดการความรู้ ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีระบบการจัดการที่เอื้อต่อการพัฒนาสถานศึกษา มีแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย มีบรรยากาศการเรียนรู้และวัฒนธรรมการทำงานที่มีคุณภาพ จากการศึกษาค้นคว้าพบว่า ได้มีแนวคิดและวิธีการบริหารหลากหลายรูปแบบที่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อมุ่งให้การบริหารการศึกษาเกิดผลดีและบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ อาทิเช่น การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Results Based Management : RBM) การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management: SBM) และการบริหารแบบมุ่งคุณภาพทั้งองค์การ (Total Quality Management ) เป็นต้น การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เป็นกลยุทธ์การบริหารและการจัดการศึกษาอีกแนวคิดหนึ่งที่จะทำให้โรงเรียนสามารถบริหารจัดการด้วยตนเองและสามารถตอบสนองในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สันติ บุญภิรมย์. 2553 : 9)
รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เป็นแนวทางในการบริหารที่ผู้วิจัยได้ออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้กระบวนการบริหารงาน มีการทำงานเชิงระบบ มีทิศทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ของจังหวัดสตูล และของชุมชนเป็นหลัก เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลที่ได้จะเป็นแนวทางแก่ผู้บริหารโรงเรียนในการบริหารจัดการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทหรือโรงเรียนของตนโดยเฉพาะการบริหารแบบมีส่วนร่วมในรูปของคณะกรรมการสถานศึกษาในการใช้อำนาจ หน้าที่ ความรับผิดชอบ การตัดสินใจเพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
2. เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
3. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
4. เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
กรอบแนวคิดในการวิจัย
ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
1. ทราบถึงปัญหาการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านดาหลำ
2. ได้แนวทางแก่ผู้บริหารโรงเรียนในการบริหารจัดการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทหรือโรงเรียนของตนโดยเฉพาะการบริหารแบบมีส่วนร่วมในรูปของคณะกรรมการสถานศึกษาในการใช้อำนาจ หน้าที่ ความรับผิดชอบ การตัดสินใจเพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
วิธีดำเนินการวิจัย
วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบการบริหาร ดำเนินการ ดังนี้
1. ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
โดยการศึกษาจากผู้บริหารโรงเรียนและศึกษานิเทศก์ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล จำนวน 10 คน แบ่งเป็น ผู้บริหาร จำนวน 8 คน และศึกษานิเทศก์ จำนวน 2 คน เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ด้านการบริหารการศึกษา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหาร เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่าระดับ (Rating Scale) กำหนดประเด็นการสอบถาม 5 ด้าน คือ ด้านการกระจายอำนาจ ด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม ด้านการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ด้านการบริหารตนเอง และด้านการมีภาวะผู้นำแบบเกื้อหนุน
2. การวิเคราะห์แบบสอบถามโดยใช้โดยการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียง
ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ดำเนินการ ดังนี้
1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบ ขั้นตอนการพัฒนารูปแบบ แนวคิดการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของ Briggs, อุทัย บุญประเสริฐ และธีระ รุญเจริญ
2. นำผลการวิเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบ มาร่างรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน จากนั้นตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบด้านความถูกต้อง ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบโดยสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เพื่อท่านได้พิจารณาประเด็นความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการนำไปใช้ประโยชน์ของรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง
3. สร้างคู่มือการใช้รูปแบบ และเสนอผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ตรวจสอบคุณภาพ เพื่อประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ
ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ดำเนินการ ดังนี้
1. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ทดลองรูปแบบ ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 2 คน ครูผู้สอน จำนวน 16 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 187 คน ของโรงเรียนบ้านดาหลำ ปีการศึกษา 2562 และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 187 คน รวม 212 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 2. นำรูปแบบการบริหารที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้โดยเริ่มต้นจากการ 2.1) สร้างความเข้าใจและชี้แจงให้บุคลากรในโรงเรียนทราบถึงการใช้รูปแบบตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน 2.2) ดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดในคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานตามขั้นตอน 3s Model (School, Strategy, Success) เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ตลอดทั้งปีการศึกษา 2562 (ดำเนินการช่วงพฤษภาคม 2562 ถึงมีนาคม 2563) 2.3) ประเมินผลลัพธ์ที่ได้ในด้านคุณภาพสถานศึกษา ได้แก่ ด้านผู้เรียน ด้านครู และด้านคุณภาพการบริหารจัดการของโรงเรียนบ้านดาหลำ
ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ เพื่อประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ ดำเนินการ ดังนี้
1. ผู้วิจัยนำรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 1 คน ครูผู้สอน จำนวน 15 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 178 คน ของโรงเรียนบ้านดาหลำ ปีการศึกษา 2563 และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 178 คน ปีการศึกษา 2563 รวม 379 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
โดยดำเนินการตามขั้นตอนการใช้รูปแบบในปีการศึกษา 2562
2. สอบถามความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ นำข้อมูลจากแบบสอบถามความพึงพอใจมาหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วนำไปเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด
รายละเอียด ดังภาพ
ขั้นตอนการพัฒนารูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
สรุปผลการวิจัย
1. สภาพปัจจุบันมีการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีการดำเนินงาน มากที่สุดในด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม รองลงมาคือ ด้านการกระจายอำนาจ ด้านการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ด้านการมีภาวะผู้นำแบบเกื้อหนุน และด้านการบริหารตนเอง ตามลำดับ
2. รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 แนวคิดและหลักการของรูปแบบ ส่วนที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ส่วนที่ 3 ระบบงานและกลไก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ประกอบด้วย การวางแผน การจัดองค์การ การนำ และการควบคุม ส่วนที่ 4 กระบวนการดำเนินงาน และส่วนที่ 5 เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการดำเนินงาน มีขั้นตอนการดำเนินงานตามชื่อ 3s Model (School, Strategy, Success) ผลการประเมินรูปแบบตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยภาพรวม มีความเหมาะสม ความถูกต้อง และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ พบว่า 1) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารในปีการศึกษา 2562 คุณภาพด้านนักเรียน อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 84.69 คุณภาพครู อยู่ในระดับการดำเนินงานมาก คุณภาพการบริหารจัดการ อยู่ในระดับการดำเนินงานมากที่สุด 2) ผลการเปรียบเทียบการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ระหว่างปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ทำให้การพัฒนาของโรงเรียนในปีการศึกษา 2563 มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2562 ในทุกด้านทั้งด้านผู้เรียน ด้านครูและด้านการบริหาร จัดการศึกษา
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ในปีการศึกษา 2563 พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ อยู่ในระดับมากที่สุด
อภิปรายผลการวิจัย
1. สภาพปัจจุบันมีการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีการดำเนินงาน มากที่สุดในด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม รองลงมาคือ ด้านการกระจายอำนาจ ด้านการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ด้านการมีภาวะผู้นำแบบเกื้อหนุน และด้านการบริหารตนเอง ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องมาจาก รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ครั้งนี้ เป็นรูปแบบที่ชัดเจนที่ ลงสู่ระดับสถานศึกษา และส่งเสริมสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรให้สถานศึกษาได้พัฒนาตนเองตามแนวทางแห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หลักการบริหาร ให้ความสำคัญกับหลักการมีภาวะผู้นำและความพร้อมของสถานศึกษารวมทั้งความร่วมมือของคณะกรรมการสถานศึกษาเป็นสำคัญ กระบวนการดำเนินงานมีการประชุม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทุกฝ่ายมีความรู้ เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตน
2. รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 แนวคิดและหลักการของรูปแบบ ส่วนที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ส่วนที่ 3 ระบบงานและกลไก จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ประกอบด้วย การวางแผน การจัดองค์การ การนำ และการควบคุม ส่วนที่ 4 กระบวนการดำเนินงาน และส่วนที่ 5 เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการดำเนินงาน มีขั้นตอนการดำเนินงานตามชื่อ 3s Model (School, Strategy, Success) การวิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน (School Potential Analysis) การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ (Strategy Implementation) และการประเมินผลสำเร็จ (Success) ผลการประเมินรูปแบบตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยภาพรวม มีความเหมาะสม ความถูกต้อง และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีลักษณะเด่นชัดในหลักการคือ การกระจายอำนาจและการบริหารจัดการตนเอง หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม หลักการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ และหลักการบริหารจัดการที่ดี เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือคณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนร่วมในการบริหารตามบทบาทหน้าที่ มีการควบคุมคุณภาพและตรวจสอบได้ มีความเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ผู้บริหารหรือผู้อำนวยการมีภาวะผู้นำแบบเกื้อหนุน คือเน้นการสนับสนุน ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกมากกว่าการตรวจตรา มีการให้กำลังใจพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง และประกันคุณภาพให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ จึงส่งผลให้รูปแบบการบริหารสอดคล้องกับสภาพและบริบทของชุมชน ทำให้การบริหารโรงเรียนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สอดคล้องกับงานวิจัยของชญานี ภัทรวารินทร์ (2556 : 299-307) ) ได้ศึกษาเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเอกชน เอกชน ผลการวิจัยพบว่า ได้รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเอกชน ที่เหมาะสมและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 วัตถุประสงค์ แนวคิด และหลักการ ส่วนที่ 2 องค์ประกอบของรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเอกชน ประกอบด้วย สภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจัยป้อนเข้ากระบวนการ ผลผลิต/ผลลัพธ์ และข้อมูลป้อนกลับ ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ และส่วนที่ 4 เงื่อนไขความสำเร็จ
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ พบว่า 1) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารในปีการศึกษา 2562 คุณภาพด้านนักเรียน อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 84.69 คุณภาพครู อยู่ในระดับการดำเนินงานมาก คุณภาพการบริหารจัดการ อยู่ในระดับการดำเนินงานมากที่สุด 2) ผลการเปรียบเทียบการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ระหว่างปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ทำให้การพัฒนาของโรงเรียนในปีการศึกษา 2563 มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2562 ในทุกด้านทั้งด้านผู้เรียน ด้านครูและด้านการบริหาร จัดการศึกษา ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากองค์ประกอบและกระบวนการดำเนินงานของรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นในครั้งนี้ มีขั้นตอนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เป็นไปตามขั้นตอนการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเขตจังหวัดภาคใต้ตอนบนของบรรจง เจริญสุข (2552 : 92 - 93) ซึ่งได้แบ่งรูปแบบการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาและสำรวจข้อมูลเบื้องต้น โดยศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับทฤษฎี หลักการแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาและหลักธรรมาภิบาล สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมาภิบาล โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และระยะที่ 3 ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลทีได้สอดคล้องกับงานวิจัยของอีแวนด์ (Evans. 2008 : 2120 - A) ได้ทำการวิจัยเรื่องการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานกรณีศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา ผลการวิจัยพบว่า การนำระบบการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานนั้นจะช่วยพัฒนาโรงเรียนให้เป็นไปในทางบวก หากการดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการที่ทุกฝ่ายเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของบุคลากรในองค์กรนั้นด้วย
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ในปีการศึกษา 2563 พบว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยครูผู้สอนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ อยู่ในระดับมากที่สุด ในประเด็นที่ว่าผู้บริหารให้กำลังใจและสนับสนุนความคิดริเริ่มและการคิดค้น นวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บังคับบัญชา รองลงมาคือ มีการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ที่ชัดเจน ปฏิบัติได้ เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมส่วนคณะกรรมการสถานศึกษา สอดคล้องกับงานวิจัยของงานวิจัยของวชิราภรณ์ วงค์ธี (2556 : 136 -137) ได้ทำการวิจัยและศึกษาเปรียบเทียบการดำเนินงานในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 พบว่า 1) ครูและผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 มีความคิดเห็นต่อมีการดำเนินงานในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วมด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ หลักการบริหารตนเอง 2) ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานโดยรวมแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมากกว่าผู้บริหาร
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะจากการวิจัย
การนำรูปแบบการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ไปใช้ ควรมีการศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบการบริหารอย่างละเอียดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้ไปวางแผนปฏิบัติในทุกด้านอย่างเป็นระบบ จึงจะส่งผลให้การบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนประสบผลสำเร็จ และส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน
2. ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อติดตามผลของการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ ที่พัฒนาขึ้น
2.2 ควรมีการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลความสำเร็จของการบริหารตามแนวคิดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดาหลำ
บรรณานุกรม
ชญานี ภัทรวารินทร์. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเอกชน. วิทยานิพนธ์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยสยาม.
ธีระ รุญเจริญ. (2550). การบริหารโรงเรียนยุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : ธนาเพรส.
______. (2553). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษา ยุคปฏิรูปการศึกษา
(ฉบับปรับปรุง) เพื่อปฏิรูปรอบ 2 และประเมินภายนอกรอบ 3. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : นวสาส์น.
บรรจง เจริญสุข. (2552). การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล
ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เขตจังหวัดภาคใต้ตอนบน. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วชิราภรณ์ วงค์ธี. (2556). การดำเนินงานในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ตามความเห็น ของครู และผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา ในสังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 22. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษ). นครพนม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนครพนม.
สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561- 2580. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขานุการฯ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ.
สันติ บุญภิรมย์. (2553). นวัตกรรมการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ : บุ๊คพอยท์.
อุทัย บุญประเสริฐ. (2543). รายงานการวิจัยการศึกษาแนวทางการบริหารและจัดการศึกษา
ในรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
_______. (2545). การบริหารจัดการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .
Dubrin, A. J. (2003). Essentials of Management (5th ed.). New York: SouthWestern
College.
Evans, D. (2008). Site Based Management : A Case Study of An Urban high School. Columbia : University Teadners College.