|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา หาสาเหตุของปัญหา และแนวทางการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา 2) เพื่อยกร่างกระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลการใช้กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษาที่พัฒนาขึ้น
กลุ่มผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ ตัวแทนจากกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ พระสงฆ์ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำชุมชนในท้องถิ่น สถานประกอบการ และผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวทางการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา สาเหตุ และแนวทางการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา แบบบันทึกการศึกษาเอกสารหลักฐาน แบบบันทึกผลการสังเกตแบบบันทึกผลการสัมภาษณ์ระดับลึกผู้บริหารสถานศึกษา แบบบันทึกผลการสังเคราะห์เอกสาร ร่างกระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา แบบบันทึกผลการพิจารณาร่าง แบบตรวจสอบความถูกต้องของร่าง แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และประโยชน์ของร่างคู่มือ แบบประเมินพฤติกรรม แบบประเมินความพึงพอใจ มีลักษณะเป็นแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ รวมทั้งสิ้น 11 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบทดสอบ T-test Dependent Samples
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 สภาพปัญหา หาสาเหตุของกระบวนการบริหาร และการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา พบว่า ความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าผู้เรียนบางส่วนยังขาดการพัฒนาค่านิยมหลัก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของท้องถิ่นการจัดกิจกรรมการอบรมสั่งสอนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่หลากหลาย และขาดความต่อเนื่อง โรงเรียนควรมีแนวทางการดำเนินการจัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนหรือท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาให้มากขึ้น และจากการศึกษาดูงานโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) พบว่า การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และควรมีหลากหลายแนวทางในการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 การยกร่างและตรวจสอบคุณภาพกระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา พบว่ากระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การร่วมวางแผน (Planning) 2) การร่วมปฏิบัติตามแผน (Action) 3) การร่วมสังเกต (Observation) 4) การร่วมสะท้อนผล (Reflection) และการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา 4 แนวทาง ประกอบด้วย 1) การบูรณาการเข้ากับการจัดการเรียนรู้ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 2) การบูรณาการในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3) การสอดแทรกในกิจวัตรประจำวันของโรงเรียน และ4) การจัดทำโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา โดยสรุป กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และประโยชน์ สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษาได้
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 การศึกษาผลการใช้กระบวนการบริหาร
แบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา พบว่า ร้อยละของผู้เรียนมีผลการประเมินระดับดีเยี่ยม หลังการพัฒนา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนทั้งหมด ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดไว้ กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจต่อกระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อพัฒนาค่านิยมหลักของผู้เรียนระดับประถมศึกษา โดยรวมทั้ง 6 ด้าน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการเผยแพร่การใช้กระบวนการบริหาร มีผลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ร้อยละของผู้เรียนมีผลการประเมินระดับดีเยี่ยม หลังการพัฒนา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของผู้เรียนทั้งหมด
|
โพสต์โดย นางอรพินธุ์ โสมภีร์ : [13 มิ.ย. 2565 เวลา 12:51 น.] อ่าน [3572] ไอพี : 159.192.136.47
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,848 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,136 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,539 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,242 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,688 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,677 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,734 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,607 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,335 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,064 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,755 ครั้ง
| เปิดอ่าน 42,950 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,680 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 17,825 ครั้ง
| เปิดอ่าน 112,963 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,750 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,315 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,575 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|