บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1.)พัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 2.)สร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 3.)ศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงการเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 4.)ประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงการเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นครูผู้สอนกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 ประจำปีการศึกษา 2564 ที่กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือรูปแบบการนิเทศเพื่อการส่งเสริมจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 2) แบบประเมินตนเอง ก่อนและหลังใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 3) แบบประเมินความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน และ4) แบบประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนต่อการดำเนินงานรูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเพื่อการพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1การนิเทศกระบวนการและกิจกรรมของการนิเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโดยเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ที่นำการนิเทศ 3 แบบ ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ส่งเสริม ปรับปรุงในการสอนของครู ดังนี้
1.1. การนิเทศแบบคลินิก โดยที่ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศร่วมปรึกษาหารือ วางแผนวิเคราะห์ สังเกตการสอน ลงมือปฏิบัติ และให้ข้อมูลย้อนกลับจนประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย
1.2. การนิเทศแบบชี้แนะทางปัญญา ซึ่งผู้นิเทศจะให้คำชี้แนะแก่ผู้รับการนิเทศเพื่อให้เกิดการพัฒนาได้ด้วยตนเอง มีความเป็นเลิศในการพัฒนาความก้าวหน้าทางวิชาชีพ และมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
1.3. การนิเทศแบบพี่เลี้ยง ซึ่งผู้นิเทศจะให้คำปรึกษา คำแนะนำแก่ผู้รับการนิเทศที่มีประสบการณ์น้อย หรือเพิ่งเริ่มทำงานให้ได้รับการพัฒนา และส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานให้เกิดประสิทธิภาพ
โดยมีการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูด้วยการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีวัตถุประสงค์คลอบคลุม มีการติดตามต่อเนื่อง อย่างเหมาะสม ผู้นิเทศ และผู้รับการนิเทศร่วมเรียนรู้ด้วยกัน และให้คำชี้แนะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้นิเทศต้องตระหนักถึงความสำคัญ ความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน และปัจจัยด้านบุคลากรด้านการนิเทศที่มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ ด้านกระบวนการที่มีรูปแบบ แนวทาง กระบวนการ และแผนการนิเทศที่ชัดเจน ด้านทรัพยากรที่ให้ความสำคัญและให้การส่งเสริม สนับสนุนอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง
2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
1. จากการศึกษารูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ได้รูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้น 1 การวางแผนกำหนดทิศทาง (D: Directional planning) ขั้น 2 สร้างความรู้ความเข้าใจ (B: Building a cognition) ขั้น 3.การปฏิบัติการนิเทศ (S: Supervisory Management) ขั้น 4 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนา (E:Exchanging knowledge for development) เป็นเอกสารประกอบการนิเทศเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ที่มีความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทในการจัดการเรียนรู้ และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน คือ 1) ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 3) เจตคติที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
2. ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน มีความเห็นว่า รูปแบบการนิเทศ ในภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก (X ̅ = 3.90, S.D.= 0.44) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุดได้แก่ การนำแนวคิดมาพัฒนารูปแบบมีความเหมาะสม (X ̅ = 4.56, S.D.= 0.53) มีความเหมาะสมมากที่สุด
3. คู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานสำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน ในภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับมาก (X ̅ = 4.11, S.D.= 0.37) เมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุดได้แก่ แนวทางการศึกษาเอกสารแสดงถึงสิ่งที่เกิดกับผู้สนใจ และศึกษาคู่มืออย่างชัดเจน (X ̅ = 4.33, S.D.= 0.50) มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด
3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
1. ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน พบว่า ก่อนการอบรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานมีค่าเฉลี่ย 10.73 หลังการอบรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน มีค่าเฉลี่ย 18.17 และทำการทดสอบโดยใช้ค่าสถิติทดสอบที (t-test dependent) พบว่า ความรู้ความเข้าใจของครูหลังการอบรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานสูงกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05
2. ความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X ̅= 4.62, S.D.= 0.57) และเมื่อพิจารณารายการประเมินด้านการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ พบว่า การกำหนดกิจกรรมเน้นการเรียนรู้เชิงรุก และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด(X ̅= 4.68, S.D.= 0.47) และด้านทักษะการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน พบว่า จัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅= 4.73, S.D.= 0.45)
3. เจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครู พบว่า รายการเจตคติ ที่มีระดับเจตคติมากที่สุด ได้แก่การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานช่วยพัฒนาการคิดระดับสูง ด้วยการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่ามีเจตคติระดับมากที่สุด (X ̅= 4.50, S.D. = 0.55)
4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการนิเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูกลุ่มโรงเรียนเมืองพะเยา 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x ̅= 4.53) และเมื่อพิจารณารายการประเมิน พบว่า รายการที่มีความพึงพอใจมากที่สุด ได้แก่ การนิเทศที่ส่งเสริม และพัฒนาความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครู (x ̅= 4.73) มีความพึงพอใจมากที่สุด