ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง : การแก้ปัญหาการคูณสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ด้านคณิตศาสตร์โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลัก ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านสันกำแพง

ผู้ศึกษา : เสาวคนธ์ แสนวิไล

ปีการศึกษา : 2565

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อแก้ปัญหาการคูณสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ด้านคณิตศาสตร์โดยใช้นวัตกรรมชุดฝึกทักษะการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลักของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยชุดฝึกทักษะการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลักสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1.ชุดฝึกทักษะการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลักสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์ 2.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 20 ข้อ เป็นแบบปรนัย 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ คะแนนเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ IOC และการวิเคราะห์เปรียบเทียบ t – test

ผลการศึกษา พบว่า

1. ผลจากการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะ โดยหาค่าดัชนี ความสอดคล้อง (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน พบว่า คะแนนรวมของผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 คน จากรายการประเมินเพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะทั้งสามด้านคือ ด้านเนื้อหา ด้านภาพประกอบ และรูปแบบของหนังสือ รวมทั้งหมด มีจำนวน 20 ข้อ คิดเป็นคะแนนเต็ม 60 คะแนน โดยผลรวมของคะแนนที่ได้จากการพิจารณาของผู้เชียวชาญได้ 54 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70 ซึ่งเกินครึ่งของคะแนนเต็มทั้งหมด 60 คะแนน เมื่อสรุป การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะแล้ว ชุดฝึกทักษะทั้ง 8 เล่มนี้ สามารถนําไปใช้สอนเพื่อแก้ปัญหาการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลัก สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ได้

2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากชุดฝึกทักษะ เรื่อง การคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลัก สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้น จากการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน นักเรียนได้คะแนนทดสอบหลังเรียนมากกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ซึ่งในการทดสอบก่อนเรียนนักเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 2.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ของคะแนนเต็ม และได้คะแนนทดสอบหลังเรียนเฉลี่ย 17.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.00 ของคะแนนเต็ม

3. ผลการประเมินการสังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมระหว่างเรียนของกรณีศึกษา ทั้ง 3 คน มีคะแนนรวมเฉลี่ย 48 คะแนน พบว่า กรณีศึกษามีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมได้คะแนนเฉลี่ย 48 คะแนน เริ่มต้นทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายทันที ได้คะแนนเฉลี่ย 47.33 คะแนน ทำงานเสร็จเรียบร้อยตามเวลาที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 47.00 คะแนน ทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน และเต็มใจ ได้คะแนนเฉลี่ย 46.00 คะแนน มีการซักถามเมื่อไม่เข้าใจในกิจกรรม ได้คะแนน เฉลี่ย 44.00 คะแนน ตอบคำถามครูได้ถูกต้อง ได้คะแนนเฉลี่ย 46.00 คะแนน และสนใจเรียนรู้ชุดฝึกทักษะการคูณหนึ่งหลักกับหนึ่งหลัก เพิ่มด้วยตนเอง ได้คะแนนเฉลี่ย 47.00 คะแนน อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก

เว็บน่าสนใจ