ชื่อเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน นางลัญชนา อุทสาร
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนโพธิ์ทองวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 27
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับบทเรียนสาเร็จรูป มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของบทเรียนสาเร็จรูป วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน ในด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนโพธิ์ทองวิทยาคาร ปีการศึกษา 2562 จานวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการดาเนินการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับการใช้บทเรียนสาเร็จรูป วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรมด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และแบบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ หาค่าประสิทธิภาพของบทเรียนสาเร็จรูป โดย E1/ E2 ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐาน โดยการเปรียบเทียบความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ ก่อนเรียน และหลังเรียนด้วยสถิติ t - test (t - test Depentdense)
ผลการวิจัย
1. บทเรียนสาเร็จรูป วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.27/81.11 ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป มีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กาหนด ดังนี้
2.1 ด้านความรู้ พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ
81.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 70 ขึ้นไป โดยมีคะแนนสูงสุด เท่ากับ 90 คะแนนและมีคะแนนต่ำสุด เท่ากับ 60 คะแนน จากผลการศึกษาจึงสรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหา เป็นฐานร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
2.2 ด้านทักษะกระบวนการ พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็น
ฐานร่วมกับบทเรียนสาเร็จรูป ทั้ง 23 คน มีคะแนนเฉลี่ยทักษะกระบวนการ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 และมีร้อยละคะแนนเฉลี่ยของทักษะกระบวนการทั้งหมด เท่ากับร้อยละ 90.27
2.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พบว่า นักเรียนที่เรียนซึ่งใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหา
เป็นฐาน ร่วมกับบทเรียนสาเร็จรูป ทั้ง 23 คน มีผลการประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับคุณภาพดีเยี่ยมทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่ตั้งไว้
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียน วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ร่วมกับบทเรียนสาเร็จรูป มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และมีคะแนนเฉลี่ย 35.18 คิดเป็นร้อยละ 97.72