ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน ความต้องการและแนวทางในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อสร้างและหาคุณภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ระหว่างก่อน และหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.2) เพื่อประเมินวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดำเนินการโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ซึ่งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบันความต้องการและแนวทางในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัย ในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 84 คน และครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนที่ 3 ศึกษาผลการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัย ในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 30 คน โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ได้มาโดยโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โดยใช้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบประเมินวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เรียนรู้โดยใช้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ สถิติที่ใช้ในการศึกษา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ (t-test Dependent)

ผลการวิจัยและพัฒนาพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน และความต้องการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการออกแบบร่างรูปแบบการกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มาจากการศึกษาและวิเคราะห์นโยบายพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ แนวคิด ทฤษฎี หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และจากการสอบถามนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 เกี่ยวกับ สภาพปัจจุบันของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.48 ) ส่วนความต้องการในการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52) และผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการและแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ครูสังคมศึกษา หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นการจัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และสอดคล้องกับแนวการจัดการศึกษาในศตวรรษ ที่ 21 เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้จะเน้นให้นักเรียน มีปฏิสัมพันธ์ในกลุ่ม ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ได้ลงมือปฏิบัติและสรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสนใจ กระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียน จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เริ่มต้นจากปัญหา และจากการสังเคราะห์รูปแบบการจัดกิจกรรมเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนสังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการสร้างความรู้จากกระบวนการทำงานกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหาหรือสถานการณ์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันที่มีความสำคัญต่อผู้เรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะและกระบวนการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้โดยการชี้นำตนเอง สร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการคิดด้วยการแก้ปัญหา โดยน้อมนำแนวคิดศาสตร์พระราชามาใช้ในขั้นตอนกำหนดปัญหา ร่วมกับการใช้ชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะของนักเรียน แนวทางหรือรูปแบบในการจัดการเรียนรู้ เริ่มจากขั้นที่ 1 กำหนดปัญหานำเสนอสถานการณ์ตัวอย่างศาสตร์พระราชา กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปัญหาสามารถกำหนดสิ่งที่เป็นปัญหาที่ผู้เรียนอยากรู้ อยากเรียนเกิดความสนใจที่จะค้นหาคำตอบ ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจกับปัญหา ขั้นที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า ผู้เรียน จะดำเนินการศึกษาค้นคว้าด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบอภิปัญญาอย่างเป็นระบบร่วมกันโดยมีการกำหนดกติกาวางเป้าหมายและดำเนินกิจกรรมตามระยะเวลาที่กำหนด ขั้นที่ 4 สังเคราะห์ความรู้ ผู้เรียนแต่ละคนสังเคราะห์ความรู้ที่ได้จากการค้นคว้าโดยมีการนำเสนอกันภายในกลุ่ม ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินค่าหาคำตอบผู้เรียนแต่ละกลุ่ม สรุปผลงานของกลุ่มตนเอง และประเมินผลงานว่าข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้ามีความเหมาะสม หรือไม่เพียงใด ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงานการอภิปรายในชั้นเรียน และสุดท้ายเป็นการนำความรู้ จากการเรียนรู้ในประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

2. ผลการพัฒนาและหาคุณภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยรวมมีความเหมาะสมมากที่สุด ( = 4.63, S.D. = 0.15) และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิด ศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่นำไปใช้จริง มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.55/88.75 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด

3. ผลการทดลองใช้กิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้

3.1 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญาเพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก อำเภอสิรินธร องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี มีคะแนน ก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 23.67 คะแนน และมีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย เท่ากับ 35.50 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบทั้งสองครั้ง พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ผลประเมินการวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในการทำกิจกรรมกลุ่มการเรียนทั้ง 8 แผนการจัดเรียนรู้โดยภาพรวมเฉลี่ย 93.19 โดยนักเรียนมีวินัยในตนเองคิดเป็นร้อยละ 91.66 และมีจิตสาธารณะคิดเป็นร้อยละ 94.72 แสดงให้เห็นว่า ผลการประเมินการวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้ แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานเป็นกลุ่มย่อย โดยมีสมาชิกกลุ่มที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน ได้ช่วยเหลือกันในการเรียนไปพร้อมกันและ แสดงว่านักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความอดทนในการเรียน ความซื่อสัตย์ ความตรงต่อเวลา และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ส่วนด้านจิตสาธารณะ นักเรียนในกลุ่มอาสาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในการทำกิจกรรม มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ กับเพื่อน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และมีความเสียสละ เป็นเสริมสร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนับสนุนให้มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะหรือทีม ทำให้สามารถปรับตัวอยู่กับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ทุกคนในกลุ่มต้องมีจิตสาธารณะ อาสาช่วยเหลือเพื่อในกลุ่มให้ประสบผลสำเร็จ และต้องมีวินัยในตนเองมุ่งมั่นในการทำงานอีกด้วย

4. ผลศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัยในตนเองและจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา ร่วมกับชุดการเรียนรู้แบบอภิปัญญา เพื่อส่งเสริมวินัย ในตนเอง และจิตสาธารณะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด คะแนนเฉลี่ย 4.52 โดยมีคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรก เรียงตามลำดับดังนี้ ลำดับที่ 1 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูจัดทำขึ้นทำให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง หาคำตอบได้ด้วยตนเองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.90 ลำดับที่ 2 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูจัดขึ้นทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเรียนรู้ได้ตลอดเวลา และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกชั่วโมงที่นักเรียนเรียนช่วยส่งเสริมวินัยในตนเอง และจิตสาธารณะ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 และลำดับที่ 3 แนวคิดศาสตร์พระราชา สามารถนำมาปรับใช้ ในชีวิตประจำวันของนักเรียนและครอบครัวได้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70

โพสต์โดย นัด : [29 ส.ค. 2565 เวลา 16:37 น.]
อ่าน [1768] ไอพี : 118.174.219.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,626 ครั้ง
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร
เกมส์ลูกตุ้มแดนมังกร

เปิดอ่าน 8,888 ครั้ง
สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต
สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต

เปิดอ่าน 15,249 ครั้ง
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!

เปิดอ่าน 13,796 ครั้ง
สายตาเอียง
สายตาเอียง

เปิดอ่าน 15,214 ครั้ง
การขับเคลื่อนนโยบาย สพฐ.ปี 51
การขับเคลื่อนนโยบาย สพฐ.ปี 51

เปิดอ่าน 13,829 ครั้ง
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน

เปิดอ่าน 10,510 ครั้ง
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก

เปิดอ่าน 33,044 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552

เปิดอ่าน 12,391 ครั้ง
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!
คลิปกัปตันออกมายอมรับ ผมกลับเข้าห้องนักบินไม่ได้ !!

เปิดอ่าน 22,477 ครั้ง
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ

เปิดอ่าน 21,082 ครั้ง
ลิ้น ก็บอกปัญหาสุขภาพได้เหมือนกัน
ลิ้น ก็บอกปัญหาสุขภาพได้เหมือนกัน

เปิดอ่าน 7,942 ครั้ง
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้

เปิดอ่าน 11,836 ครั้ง
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"

เปิดอ่าน 9,440 ครั้ง
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ

เปิดอ่าน 29,652 ครั้ง
การวัดระยะทางบนพื้นราบ
การวัดระยะทางบนพื้นราบ

เปิดอ่าน 35,301 ครั้ง
 ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้สำหรับการกรอกใบสมัครงาน
ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้สำหรับการกรอกใบสมัครงาน
เปิดอ่าน 13,211 ครั้ง
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เปิดอ่าน 13,219 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
เปิดอ่าน 11,520 ครั้ง
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
เปิดอ่าน 10,732 ครั้ง
ความสุขกันมะเร็งได้ ผู้มีความสุขในชีวิตหนีโรคร้ายได้ 1 ใน 4
ความสุขกันมะเร็งได้ ผู้มีความสุขในชีวิตหนีโรคร้ายได้ 1 ใน 4

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ