ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2

ผู้รายงาน นายโยธิน ตาน้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง

ปีการศึกษา 2564

การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินบริบท (Context Evaluation: C) ของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียนบ้าน นาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกประถมศึกษาแพร่ เขต 2 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I) โครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกประถมศึกษาแพร่ เขต 2 3) เพื่อประเมินกระบวนการ (Process Evaluation: P) โครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 4) เพื่อประเมินผลผลิต (Product Evaluation: P) โครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 โดยกลุ่มตัวอย่าง ในการประเมินโครงการนี้ ได้แก่ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียน จำนวน 126 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม แบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ รวม 40 ข้อคำถามและดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการประเมิน สรุปได้ดังนี้

จากการประเมินผลการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 สรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการประเมินผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.51 , S.D. = .52) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด เป็นลำดับแรก คือ ด้านผลผลิต ( = 4.69, S.D. =.75) รองลงมา คือ ด้านบริบท ( = 4.65, S.D. =.34) ด้านกระบวนการ ( = 4.60, S.D. =.56) และด้านปัจจัยนำเข้า ( = 4.08, S.D. =.41) ตามลำดับ และเมื่อพิจารณารายละเอียดแต่ละด้าน ปรากฎดังนี้

1.1 ด้านบริบทของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน บ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.65, S.D. = .34) เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ทั้ง 3 ด้าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความสอดคล้องของวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.76, S.D. =.23) รองลงมา คือ ด้านความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ ( = 4.63, S.D. =.32) และด้านความเป็นไปได้ของโครงการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.52, S.D. = .52) เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยรายข้อจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรกได้แก่ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการเป็นไปเพื่อช่วยเหลือ นักเรียน ให้เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข ( = 4.89, S.D. = .10) รองลงมาคือ หลักการและเหตุผลของโครงการสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานต้นสังกัด ( = 4.83, S.D. = .14) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากันกับ โครงการมีความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ( = 4.83, S.D. = .14) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดได้แก่ เจตคติ ความรู้ ความเข้าใจ ของบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่ตาม ( = 4.33, S.D. = .67)

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน บ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D. = .41) เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านบริหารจัดการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.55, S.D. =.36) รองลงมาได้แก่ ด้านการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก ( = 4.39, S.D. =.49) ด้านงบประมาณ อยู่ในระดับมาก ( = 3.88, S.D. = .40) และ ด้านบุคลากร อยู่ในระดับมาก ( = 3.80, S.D. = .43) ด้านวัสดุอุปกรณ์ อยู่ในระดับมาก ( = 3.76, S.D. = .39) เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยรายข้อจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรกได้แก่ โรงเรียนดำเนินโครงการอย่างเป็นระบบ ( = 4.56, S.D. = .39) รองลงมาคือ โรงเรียนตระหนักและเห็นความสำคัญของโครงการ ( = 4.54, S.D. = .33) การมีส่วนร่วมผู้ปกครองนักเรียนในการดำเนินโครงการ ( = 4.43, S.D. = .47) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ งบประมาณเหมาะสม เพียงพอ ต่อการดำเนินโครงการ ( = 3.67, S.D. = .44)

1.3 ด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60, S.D. = .56) เมื่อพิจารณาแต่ละด้าน พบว่า ด้านกระบวนการปรับปรุง พัฒนา อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. =.54) รองลงมาได้แก่ ด้านกระบวนการดำเนินงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61, S.D. =.55) ด้านกระบวนการวางแผน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, S.D. = .60) และ ด้านกระบวนการตรวจสอบ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ( = 4.57, S.D. = .58) เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยรายข้อจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรก ได้แก่ ประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขั้นตอนการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ( = 4.76, S.D. = .46) รองลงมาคือ วิเคราะห์นำผลการประเมินเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงพัฒนา สู่การดำเนินการในระยะต่อๆ ไป ( = 4.69, S.D. = .54) วางแผนบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเหมาะสม เป็นระบบครบวงจร ( = 4.67, S.D.=.53) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขั้นตอนการส่งต่อ ( = 4.47, S.D. = .60)

1.4 ด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน บ้านนาปลากั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2 ตามความคิดเห็นของ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D. = .75) เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรก ได้แก่ นักเรียนได้รับการพิทักษ์ปกป้อง คุ้มครอง และดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ถูกวิธี และทันเวลา ( = 4.89, S.D. = .67) รองลงมาคือ นักเรียนได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพและตรงตามความสามารถ ( = 4.80, S.D. = .71) นักเรียนมีทักษะชีวิต คุณภาพชีวิตที่ดี ( = 4.78, S.D. =.72) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดได้แก่ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระฯ เพิ่มขึ้น ( = 4.46, S.D. = .78)

โพสต์โดย Tanoi Tanoร : [11 ก.ย. 2565 เวลา 10:25 น.]
อ่าน [2755] ไอพี : 182.53.234.250
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,144 ครั้ง
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหล เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร?
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหล เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร?

เปิดอ่าน 15,074 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นหาปี 59

เปิดอ่าน 13,602 ครั้ง
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ

เปิดอ่าน 12,577 ครั้ง
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ

เปิดอ่าน 142,839 ครั้ง
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik's Cube

เปิดอ่าน 12,209 ครั้ง
เห็ดหลินจือแดง
เห็ดหลินจือแดง

เปิดอ่าน 57,577 ครั้ง
“ครูเอฟฟี่” คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
“ครูเอฟฟี่” คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)

เปิดอ่าน 12,421 ครั้ง
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้

เปิดอ่าน 68,612 ครั้ง
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 4,161 ครั้ง
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT

เปิดอ่าน 16,396 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

เปิดอ่าน 13,502 ครั้ง
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 26,681 ครั้ง
คำศัพท์ OOP
คำศัพท์ OOP

เปิดอ่าน 12,139 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 22,561 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 13,494 ครั้ง
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ
เปิดอ่าน 19,685 ครั้ง
ผลจากการเปลี่ยนแปลงความกดบรรยากาศ
ผลจากการเปลี่ยนแปลงความกดบรรยากาศ
เปิดอ่าน 25,538 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
เปิดอ่าน 35,962 ครั้ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
เปิดอ่าน 33,227 ครั้ง
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ