ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของ ครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 และ 2) ศึกษาผลการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 โดยใช้วิจัยเชิงปฏิบัติการ 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การวางแผน (Planning) 2) การปฏิบัติ (Action) 3) การสังเกต (Observation) และ 4) การสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย และกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้มาทั้งการสุ่มแบบง่าย และการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เอกสารประกอบ แบบวัดความรู้ครู แบบประเมินความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามผู้เกี่ยวข้องและแบบสัมภาษณ์นักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1

จากการศึกษาเอกสาร วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า การนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 มี 2 องค์ประกอบ คือ 1) การนิเทศแบบบูรณาการ (แบบ DOR ; ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้-Design a learning management plan ; สังเกตการสอน -Observe teaching ; สะท้อนผล-R-reflect) และแบบ SEDOR : วิเคราะห์ตนเอง-Self analysis ; ศึกษาหาความรู้-Educate knowledge ; ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้-Design a learning management plan ; สังเกตการสอน -Observe teaching ; สะท้อนผล-R-reflect) 2) การพัฒนาครู ผ่าน 3 กิจกรรม ได้แก่ การประชุมเชิงปฏิบัติการผ่าน PLC การอบรมเชิงปฏิบัติการและการเป็นโค้ช (Coaching) หรือการเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) และ 3) การนำสู่ปฏิบัติ มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตและการสะท้อนผล หลังจากนั้นสนทนากลุ่มผู้วิจัยและเครือข่ายผู้วิจัย จำนวน 4 คน เพื่อกำหนดแนวทางการนำสู่การปฏิบัติผ่าน 4 ขั้นตอน (การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตและการสะท้อนผล) และสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย (เอกสารประกอบ แบบวัดความรู้ครู แบบประเมินความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามผู้เกี่ยวข้องและแบบสัมภาษณ์นักเรียน) มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ

2. ผลการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1

1) ผลการเปรียบเทียบความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก วงรอบที่ 1-2 พบว่า

วงรอบที่ 1 ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 17 ชั่วโมง และวงรอบที่ 2 ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 30 ชั่วโมง

2) ผลการศึกษาผลการจัดกิจกรรมพัฒนาครู

2.1) ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 จากข้อมูลการสัมภาษณ์และบันทึกการสังเกตทำให้ผู้ร่วมการศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานต่างๆ สามารถกำหนดกระบวนการดำเนินงานตามแผนงาน มีหลักการแนวทางและวิธีการที่ชัดเจนและนำข้อมูลที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้มาประชุมปรึกษาหารือวิเคราะห์วิจารณ์ร่วมกันสรุปรายงานต่อที่ประชุมเพื่อวางแผนพัฒนาต่อไป ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าผู้ร่วมวิจัยได้รับการพัฒนาจนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีกระบวนการในการปฏิบัตินำไปสู่ความมั่นใจในการพัฒนาครู

2.2) ผลการเปรียบเทียบความรู้ของครูผู้สอนก่อนและหลังการพัฒนาตามกระบวนการ

ที่พัฒนาขึ้น พบว่า ครูผู้สอนทั้ง 6 คน เข้าร่วมการอบรมปฏิบัติการครบทั้ง 2 วัน สามารถทำใบงานหน่วยที่ 1-9 ได้ถูกต้องและคะแนนวัดความรู้ของครูหลังการพัฒนาด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.00 คิดเป็นร้อยละ 80.00 และเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนวัดความรู้ของครูก่อนการพัฒนาและหลังพัฒนา พบว่า มีค่าเท่ากับ 38.89/80.00 แสดงว่า หลังการพัฒนาครูมีความรู้เพิ่มขึ้น

2.3) ผลการเปรียบเทียบการนิเทศ ติดตามผลครูในการนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียน

วงรอบที่ 1-2 พบว่า วงรอบที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.38 ครูทำไม่ได้หรือต้องการพัฒนามากและวงรอบที่ 2 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.60 ครูทำได้ดีมากและเมื่อเปรียบเทียบกับผลการนิเทศ ติดตามผลครูในการนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียนวงรอบที่ 1 และวงรอบที่ 2 พบว่า มีค่าเท่ากับ 1.38/2.60 แสดงว่า วงรอบที่ 2 ครูนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น

3) ผลการศึกษาการนำสู่การปฏิบัติ

3.1) ผลการประเมินความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ครั้งที่ 1/2 เท่ากับ

38.70/80.68 แสดงว่า หลังรับการนิเทศแบบบูรณาการครูมีความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพิ่มขึ้น

3.2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน วงรอบที่ 1-2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ครั้งที่ 1/2 เท่ากับ 38.95/81.40 แสดงว่า หลังการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนที่ได้รับการนิเทศแบบบูรณาการแล้วส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

4) ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องต่อการนิเทศแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด และผลการสังเคราะห์ความต้องการให้มีการนิเทศบ่อยครั้งเพียงใด ตามความคิดของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ต้องการให้นิเทศการสอนครูให้มีความถี่มากที่สุด โดยดูจากการทำงานร่วมกันของครูผู้สอนกับศึกษานิเทศก์เริ่มจากการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ทีมสังเกตชั้นเรียนและศึกษานิเทศเพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน วางแผนการทำงานร่วมกัน หลังจากนั้นร่วมกันออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ นัดหมายสังเกตการสอน สะท้อนผล และมีการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันเมื่อออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาต่อไปอีก นัดวันสังเกตการสอน สะท้อนผล ซึ่งการทำงานร่วมกันครูผู้สอนคนหนึ่งๆ จะใช้วงรอบในการทำงานร่วมกันมากหรือน้อยครั้ง ขอให้ศึกษานิเทศ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและทีมสังเกตชั้นเรียนร่วมกันสรุปผลว่า พฤติกรรมการสอนของครู การบริหารจัดการชั้นเรียนดีมากน้อยเพียงใด หากครูมีพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้และการบริหารจัดการชั้นเรียนผ่านเกณฑ์ สามารถหยุดวงจรการนิเทศกับครูผู้สอนรายนั้นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศ ครูผู้สอนและทีมสังเกตชั้นเรียน และนักเรียนต้องการให้มีผู้สังเกตการสอนในชั้นเรียน เพราะทำให้บรรยากาศของการเรียนดีขึ้น ครูสอนได้ดีขึ้น ครูมีสื่อ มีแผนภูมิ มีบัตรภาพ มีบัตรคำ ครูมีการสอนผ่านสื่อหรือจอคอมพิวเตอร์ ครูใช้สื่อการสอนอย่างหลากหลาย ทำให้เข้าใจบทเรียนยิ่งขึ้น ครูมีใบงาน/ใบกิจกรรมให้ทำ มีเกม มีเพลงให้ร้อง ได้ทำท่าประกอบเพลง ส่วนนักเรียนจะนั่งอยู่กับที่ ไม่เดินเพ่นพ่าน ได้ทำงานกลุ่ม ได้ช่วยเหลือกันในการทำงาน ได้แก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้นำเสนอหน้าชั้นเรียน ได้ฝึกพูดนำเสนอผ่านไมโครโฟน นักเรียนจะรู้สึกเกร็งและตื่นเต้นบ้างเมื่อมีคนอื่นมานั่งสังเกตการสอน เมื่อมีคนอื่นมาเดินดูขณะเด็กทำงาน บางครั้งก็รู้สึกกดดันกลัวทำไม่ได้ กลัวทำให้ผู้ปกครองขายหน้าเวลานำเสนองานแล้วไม่ได้ผลดี ครูจัดการเรียนรู้สนุก นักเรียนได้แสดงออก ทำให้มีความสุข อยากให้มีคนมานั่งหลังห้อง ดูครูสอน เพราะทำให้นักเรียนไม่เล่น ไม่คุยกัน นักเรียนได้เรียนรู้เต็มที่ และอยากศึกษานิเทศก์มานั่งหลังห้องบ่อยครั้งขึ้นและมาอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย ชนกกาญจน์ ตุไตลา : [25 ก.ย. 2565 เวลา 02:23 น.]
อ่าน [100684] ไอพี : 124.122.37.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,226 ครั้ง
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์
บิดซ้ายยืดขวา หยุดปวดจากคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 14,913 ครั้ง
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก

เปิดอ่าน 22,451 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (กัมพูชา)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (กัมพูชา)

เปิดอ่าน 19,302 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร

เปิดอ่าน 13,108 ครั้ง
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย

เปิดอ่าน 24,490 ครั้ง
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์

เปิดอ่าน 52,882 ครั้ง
กบข.เผยขั้นตอนการบันทึกไฟล์ e-Statement เพื่อยื่นภาษีอากรออนไลน์
กบข.เผยขั้นตอนการบันทึกไฟล์ e-Statement เพื่อยื่นภาษีอากรออนไลน์

เปิดอ่าน 16,946 ครั้ง
วลีเด็ดแห่งปี 2555
วลีเด็ดแห่งปี 2555

เปิดอ่าน 14,242 ครั้ง
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society

เปิดอ่าน 12,548 ครั้ง
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 16,699 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30

เปิดอ่าน 11,500 ครั้ง
มาดูแลรักษาระบบเบรกกันเถอะ
มาดูแลรักษาระบบเบรกกันเถอะ

เปิดอ่าน 27,790 ครั้ง
ไม่ฟัง ไม่ได้แล้ว "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ " ทำไมประเทศไทย เปลี่ยนไม่ทันโลก ?
ไม่ฟัง ไม่ได้แล้ว "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ " ทำไมประเทศไทย เปลี่ยนไม่ทันโลก ?

เปิดอ่าน 12,026 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 16,721 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

เปิดอ่าน 16,462 ครั้ง
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ
เปิดอ่าน 10,464 ครั้ง
ป้องกันนร.ลอกข้อสอบ โรงเรียนจีนจัดที่สอบเเนวใหม่ ให้นั่งกลางเเจ้ง
ป้องกันนร.ลอกข้อสอบ โรงเรียนจีนจัดที่สอบเเนวใหม่ ให้นั่งกลางเเจ้ง
เปิดอ่าน 37,256 ครั้ง
การดองผลไม้
การดองผลไม้
เปิดอ่าน 26,417 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
เปิดอ่าน 14,125 ครั้ง
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน
10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ