ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิป (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม ดำเนินการประเมินใน 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านบริบท (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) ด้านผลผลิต (Product) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนทั้งสิ้น 108 คน โดยการกำหนดขนาดตามกลุ่มตัวอย่างของเครซี่และมอร์แกน ผลการประเมินพบว่า

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านบริบท รองลงมา คือ ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต ตามลำดับ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านปัจจัยนำเข้า จำแนกเป็นรายด้าน ดังนี้

1. ด้านบริบทของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ วัตถุประสงค์ของโครงการสามารถนำไปปฏิบัติได้ รองลงมาคือโครงการมีความสอดคล้องกับแผนงานและนโยบายของเขตพื้นที่การศึกษา และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ โครงการได้รับการยอมรับและการสนับสนุนและจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง

2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ผู้บริหาร ครู ชุมชน มีแผนการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ รองลงมาคือ มีหลักสูตร หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้จัดกิจกรรม เช่น คอมพิวเตอร์สืบค้นภายในห้องสมุด

3. ด้านกระบวนการของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดกิจกรรม รองลงมาคือ มีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ และชัดเจน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ การประเมินผลการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม

4. ด้านผลผลิตของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก รายการประเมินด้านคุณภาพ พบว่าคุณภาพผู้บริหาร ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผู้บริหารเป็นผู้นำในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน รายการประเมินด้านคุณภาพครู ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ครูผู้สอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการบูรณาการการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน รายการประเมินด้านคุณภาพนักเรียน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียนใช้เวลานอกเวลาเรียนในการอ่านหนังสือเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 60 นาที และรายการประเมินด้านคุณภาพโรงเรียน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่าน และการเรียนรู้ รายการประเมินด้านนิสัยรักการอ่าน พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ นักเรียนอ่านหนังสือ สิ่งพิมพ์ ประกาศต่าง ๆ อย่างตั้งใจ

ข้อเสนอแนะการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านทุ่งคมบาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ปีการศึกษา 2563 พบว่า ด้านบริบท

ควรศึกษาดูงานโรงเรียนที่มีการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่ประสบความสำเร็จ จัดให้มีการอบรม ให้ความรู้ผู้ปกครอง/ชุมชนเห็นควรสำคัญของการอ่าน ครูทุกคนได้รับการอบรม ประชุม สัมมนา เกี่ยวกับการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และมีแผนการดำเนินงานส่งเสริมนิสัยรักการอ่านที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้านปัจจัยนำเข้า ควรจัดงบประมาณเพียงพอและเหมาะสมในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

มีคอมพิวเตอร์ไว้สืบค้นในห้องสมุดเพิ่มมากขึ้น มีหนังสือใหม่ ๆ เพียงพอกับความต้องการของนักเรียนและบริการชุมชน และจัดหาเจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุดตลอดเวลามากยิ่งขึ้น ด้านกระบวน

การควรประสานขอความร่วมมือและสนับสนุนจากชุมชน/องค์กรต่าง ๆ ส่งเสริมการอ่านทั้งในโรงเรียน ที่บ้าน และชุมชน ให้มีประสิทธิภาพ จัดกิจกรรมที่หลากหลายแปลกใหม่ เพื่อกระตุ้น แรงจูงใจให้อยากอ่าน และสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการอ่านกับทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น และด้านผลผลิต ควรมีคอมพิวเตอร์ช่วยสืบค้น จัดหาแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สร้างสภาพแวดล้อม และบรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่าน และมีกิจกรรมที่นักเรียนสนุกสนาน และกล้าแสดงออก มากยิ่งขึ้น

โพสต์โดย โอ : [26 ก.ย. 2565 เวลา 18:04 น.]
อ่าน [100627] ไอพี : 223.204.243.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,679 ครั้ง
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน

เปิดอ่าน 11,982 ครั้ง
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค

เปิดอ่าน 572 ครั้ง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 111,764 ครั้ง
ครูกับการจัดการเรียนการสอน
ครูกับการจัดการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 19,318 ครั้ง
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรสารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 34,643 ครั้ง
ความสำคัญของวันวิสาขบูชา
ความสำคัญของวันวิสาขบูชา

เปิดอ่าน 17,419 ครั้ง
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่

เปิดอ่าน 21,842 ครั้ง
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)

เปิดอ่าน 31,144 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 118,407 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 14,199 ครั้ง
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่

เปิดอ่าน 19,032 ครั้ง
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.
แฉกลโกง40ขายตรงตุ๋นผู้บริโภคหมื่นล.

เปิดอ่าน 5,647 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

เปิดอ่าน 30,380 ครั้ง
5 เทคนิคการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี และประสบความสำเร็จ
5 เทคนิคการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี และประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 13,461 ครั้ง
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ

เปิดอ่าน 19,010 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
เปิดอ่าน 240,733 ครั้ง
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ
คำอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 10,854 ครั้ง
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เด็กนั่งกลางที่เบาะหลังรถ มีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
เปิดอ่าน 11,360 ครั้ง
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย
เปิดอ่าน 14,118 ครั้ง
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ