เรื่อง รายงานการประเมินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนบ้านประทุนทอง สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 ปีการศึกษา 2564
ชื่อผู้รายงาน นายครรชิต ปานมุณี
ปีที่ศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนบ้านประทุนทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 ปีการศึกษา 2564 จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการนิเทศภายในของโรงเรียนบ้านประทุนทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2 ด้วยรูปแบบการประเมินแบบ CIPP ประกอบด้วยการประเมิน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต มีผู้ตอบแบบสอบถามเพื่อประเมินโครงการทั้งหมด 111 คน ประกอบด้วยครูผู้สอน จำนวน 6 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 จำนวน 39 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 69 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เป็นแบบสอบถามสำหรับครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนด้วยรูปแบบการประเมินแบบ CIPP จำแนกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต ส่วนฉบับที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 และผู้ปกครองนักเรียน เป็นการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียนด้วยรูปแบบการประเมินแบบ CIPP จำแนกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านสภาวะแวดล้อม
1.1 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ เป็นโครงการที่ช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน รองลงมาคือ ปฏิบัติได้จริงตามความต้องการของสถานศึกษา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินโครงการ
1.2 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ เป็นโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาการเรียนการสอน รองลงมาคือ สามารถพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากร ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ บุคลากรมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการนิเทศภายใน
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้น
2.1 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ห้องเรียนมีเพียงพอกับจำนวนนักเรียน รองลงมาคือ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ
2.2 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ห้องเรียนมีเพียงพอกับจำนวนนักเรียน รองลงมาคือ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ การประสานงานกับบุคคลภายนอกให้มาร่วมแก้ปัญหาการเรียนการสอน
3. ด้านกระบวนการ
3.1 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ มีการศึกษาสภาพความต้องการสำหรับการวางแผนการนิเทศภายในโรงเรียน และใช้เวลาในการดำเนินการนิเทศภายในรายวิชาได้อย่างเหมาะสม รองลงมาคือ มีการให้คำแนะนำเรื่องการนิเทศแก่ครูแต่ละคน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ประเมินผลการดำเนินงานของโครงการทั้ง 3 ระยะก่อนการดำเนินโครงการระหว่างดำเนินโครงการและหลังดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ
3.2 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ใช้เวลาในการดำเนินการนิเทศภายในรายวิชาได้อย่างเหมาะสม รองลงมาคือ ผู้ดำเนินการนิเทศมีการนำเครื่องมือไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้เรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ประชุมสรุปหาข้อแก้ไขที่เกิดจากการปฏิบัติการนิเทศ
3.3 ตามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตามแผนมีความเหมาะสม รองลงมาคือ นำสื่อต่างๆ ไปใช้ในการดำเนินการนิเทศภายใน ส่วนข้อ ที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ การประสานงานเพื่อรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น
3.4 ตามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตามแผนมีความเหมาะสม รองลงมาคือ การวางแผนปฏิบัติงานมีกิจกรรมครอบคลุมทุกด้าน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ โรงเรียนจัดให้มีการยกย่องชมเชยผู้รับผิดชอบโครงการเมื่อประสบผลสำเร็จ
4. ด้านผลผลิต
4.1 ตามความคิดเห็นของครูผู้สอน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ จัดห้องเรียนสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย รองลงมาคือ ใช้แผนงาน/โครงการเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาการเรียนการสอนครอบคลุมภารกิจต่างๆ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ การนำผลการประเมินมาพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
4.2 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ใช้แผนงาน/โครงการเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาการเรียนการสอนครอบคลุมภารกิจต่างๆ รองลงมาคือ จัดห้องเรียนสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ผลสำเร็จในการแก้ปัญหาการเรียนการสอน
4.3 ตามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ บรรยากาศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นกันเอง อบอุ่น เอาใจใส่ดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึง รองลงมาคือ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ใช้ห้องสมุดเป็นแหล่งค้นคว้าในการเรียนรู้
ตามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ บรรยากาศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นกันเอง อบอุ่น เอาใจใส่ดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึง รองลงมาคือ ได้รับความรู้จากสื่อที่เป็นเทคโนโลยี ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ รู้จักสนใจแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน