ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การศึกษาผลของกระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 โรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี

การวิวัยเรื่อง การศึกษาผลของกระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู

โรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของการดำเนินงานการนิเทศภายในของโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี 2) เพื่อศึกษากระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อกระบวนการนิเทศภายใน

ของโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี การศึกษาผลของกระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี ศึกษาจากกลุ่มประชากร 1 กลุ่ม ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของการนิเทศภายในโรงเรียน แบบสอบถามการกระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน และ แบบสอบถามความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อกระบวนการนิเทศภายในโรงเรียน ผลจการศึกษาพบว่า สภาพปัจจุบันของการดำเนินการนิเทศภายในโรงเรียน ได้แก่ สภาพปัจจุบันครูผู้สอนมีความพึงพอใจของครูต่อสภาพปัจจุบันของการดำเนินการนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยรวมอยู่ในระดับปานนกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.81 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.29 และ สภาพที่ต้องการ ครูผู้สอนมีความพึงพอใจของครูต่อสภาพความต้องการในการดำเนินการนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.27 ด้วยการนิเทศด้วยกระบวนการนิเทศ GORA ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 วางแผน (G – Goal) ขั้นที่ 2 สังเกตการจัดการเรียนรู้ (O – observe) ขั้นที่ 3 สะท้อนผล (R – reflect) ขั้นที่ 4 ปรับประยุกต์ (A – apply) ผลการศึกษากระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน

ส่วนที่ 1 ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ มีผลการประเมินความครบถ้วนขององค์ประกอบที่สำคัญของแผนการจัดการเรียน โดยครูผู้สอนจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยมีองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบที่โรงเรียนกำหนด 2) ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ มีผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนอยู่ในระดับดี จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 100 และ 3) ความสอดคล้ององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้กับจุดประสงค์การเรียนรู้ของครูผู้สอน มีค่าความสอดคล้อง 0.5 ขึ้นไป จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 100

ส่วนที่ 2 คุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูผุ้สอนส่วนใหญ่มีผลการประเมินคุณภาพ การจัดการเรียนรู้อยู่ใน ระดับดีเยี่ยม จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 57.00 รองลงมาคือระดับดีมาก จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 36.84 และระดับดี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 5.26 คน สำหรับด้านคุณภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ครูผู้สอนทุกคนดำเนินการดังนี้ 1) การเตรียมการสอน มีการเตีรยมการสอน โดยการวิเคราะห์มาตรฐาน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตร จัดทำหน่วยการเรียนรู้/แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์การเรียนรู้ และ เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ สื่อ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ก่อนเข้าห้องสอน 2) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการนำเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ ทบทวน ดึงความสนใจ เชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ และการให้ความรู้ถ่ายทอดเนื้อหา ส่วนใหญ่แล้วครูจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ เน้นมีส่วนร่วมของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เน้นกระบวนการคิด ใช้คำถามกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน เลือกใช้กิจกรรมเชื่อมโยงกับชีวิตจริงและนำไปใช้ในชีวิต สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม เสริมแรงเมื่อนักเรียนปฏิบัติ ตอบคำถาม หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของนักเรียน และ ดูแลเอาใจใส่ดูแลนักเรียน อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ครูจัดการเรียนรู้โดยการตัวอย่างให้ดูฝึกปฏิบัติโดยครูเป็นผู้แนะนำ ให้นักเรียนฝึกโดยอิสระ ครูและนักเรียนมีการร่วมกันสรุปบทเรียน การตรวจสอบความเข้าใจในบทเรียน และการ ระบุ ย้ำประเด็นสำคัญ พฤติกรรมที่ควรมุ่งเน้นและให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น คือการให้นักเรียนสืบค้นความรู้ด้วยตนเองและให้นักเรียน ฝึกปฏิบัติเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม 3) สื่อ/นวัตกรรม มีการใช้สื่อ/ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลายที่เหมาะสมกับกิจกรรมและศักยภาพของนักเรียน สามารถกระตุ้นความสนใจให้นักเรียนอยากเรียนรู้และลงมือ ปฏิบัติกิจกรรมอย่างหลากหลายทั้งในและ นอกชั้นเรียน 4) การวัดและประเมินผล สนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) ร่วมประเมินผลโดยครู นักเรียน ผู้ปกครอง หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง และ สะท้อนผลการประเมินและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ปรับปรุงพัฒนาผลการเรียนรู้ ด้านการส่งเสริม กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม ใช้สื่อการเรียนรู้กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม และครูบางคนมีอารมณ์ขันที่ทำให้นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข ด้านการวัดและประเมินผล ครูส่วนใหญ่วัดและประเมินผลนักเรียนโดยใช้การถามตอบปาก เปล่า ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติจริง ครูทุกคนมีการมอบหมายชิ้นงานและตรวจสอบจากชิ้นงานที่ สะท้อนตัวชี้วัดตามมาตรฐานการเรียนรู้ และพฤติกรรมที่พบเป็นส่วนน้อยคือการใช้แบบทดสอบวัด และประเมินผลนักเรียน 5) สำหรับเทคนิค วิธีสอน และรูปแบบการสอนที่ครูใช้ในการจัดการเรียนรู้ พบว่า ครูส่วนใหญ่ใช้เทคนิคใช้ คำถามกระตุ้นการคิด โดยใช้การถามคำถาม รอคำตอบของนักเรียนและกระตุ้นให้ นักเรียนถาม ครูใช้ภาษาท่าทางประกอบการสอนเทคนิคการจัดกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ และเทคนิคระดมสมอง วิธีสอนที่ครู ใช้ ได้แก่ การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-share) การเรียนรู้แบบวิเคราะห์วิดิโอ การเรียนรู้แบบอธิบาย สาธิต การเรียนรู้แบบอภิปรายกลุ่ม ย่อยการเรียนรู้แบบใช้เกม การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด การเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก การเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่าง การเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ การเรียนรู้โดยใช้ สถานการณ์จำลอง เป็นต้น รูปแบบการสอนที่ครูใช้ในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รูปแบบการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน รูปแบบการเรียนการสอนมโนทัศน์ และ รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน

ส่วนที่ 3 พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ สำหรับพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมีพฤติกรรมการใช้คำพูดของครูผู้สอบพบว่า ครูผู้สอนจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ใช้คำถามที่มุ่งเน้นการถามให้คิดวิเคราะห์ เช่น การใช้คำถามปลายเปิด 5W1H มีการชื่นชมให้กำลังใจเสริมแรงเชิงบวก เช่น เก่งมาก เก่งจ้า เยี่ยมมาก น่ารัก ตบมือ สุดยอดไปเลย เก่งจังเลยลูก ไม่ปรากฎพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ มีการสรุปสาระสำคัญแต่ละตอนสอดคล้องกับเนื้อหาสาระ เชื่อมโยงสู่จุดประสงค์การเรียนรู้ และมีการสะท้อนกลับการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนเพื่อประเมินผลการเรียนรู้ ปรับปรุงการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยใช้สถานการณ์ และต้องการให้ผู้เรียนได้รับการเติมเต็มประสบการณ์ใหม่

ผลการสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการนิเทศภายในที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนอนุบาลสิงห์บุรี มีผลการประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.32 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านผลของการนิเทศการสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34 รองลงมา คือด้านกระบวนการนิเทศภายในมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.30 และด้านผู้นิเทศ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.32 ตามลำดับ

โพสต์โดย aho : [27 ก.ย. 2565 เวลา 21:56 น.]
อ่าน [65020] ไอพี : 125.26.233.45
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,326 ครั้ง
"ไผ่ร้อยกอ" เป็นไผ่แบบไหน มีลักษณะอย่างไร
"ไผ่ร้อยกอ" เป็นไผ่แบบไหน มีลักษณะอย่างไร

เปิดอ่าน 36,193 ครั้ง
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q

เปิดอ่าน 14,411 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 34,400 ครั้ง
หนึ่งศตวรรษผ่านไป "เวลา" ของ "ไอน์สไตน์" ยังถูกต้อง
หนึ่งศตวรรษผ่านไป "เวลา" ของ "ไอน์สไตน์" ยังถูกต้อง

เปิดอ่าน 14,293 ครั้ง
เจาะข่าวเด่น "ศัลยกรรมเถื่อน พริตตี้ช็อก"
เจาะข่าวเด่น "ศัลยกรรมเถื่อน พริตตี้ช็อก"

เปิดอ่าน 23,307 ครั้ง
 ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์
ปิดเทอมนี้ให้ลูกวัยรุ่นทำอะไรดีนะ/ดร.แพง ชินพงศ์

เปิดอ่าน 11,014 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 38,588 ครั้ง
กินแอปเปิ้ล ลดไข้
กินแอปเปิ้ล ลดไข้

เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด
เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด

เปิดอ่าน 11,323 ครั้ง
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้

เปิดอ่าน 18,134 ครั้ง
คนทึ่ง ชมคลิปวาดภาพเหมือน "มอร์แกน ฟรีแมน" บนไอแพด 9 ล้านวิว
คนทึ่ง ชมคลิปวาดภาพเหมือน "มอร์แกน ฟรีแมน" บนไอแพด 9 ล้านวิว

เปิดอ่าน 13,274 ครั้ง
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด

เปิดอ่าน 4,328 ครั้ง
สูตร "วิธีทำข้าวซอย"
สูตร "วิธีทำข้าวซอย"

เปิดอ่าน 9,755 ครั้ง
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 5,869 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 11,760 ครั้ง
กลั้นปัสสาวะ เรื่องธรรมดาที่น่ากลัว
กลั้นปัสสาวะ เรื่องธรรมดาที่น่ากลัว
เปิดอ่าน 12,469 ครั้ง
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์
เปิดอ่าน 22,184 ครั้ง
มหัศจรรย์ความลับของร่างกาย ได้รู้แล้วทึ่งสุด ๆ
มหัศจรรย์ความลับของร่างกาย ได้รู้แล้วทึ่งสุด ๆ
เปิดอ่าน 43,516 ครั้ง
หน้าที่ชาวพุทธ
หน้าที่ชาวพุทธ
เปิดอ่าน 17,149 ครั้ง
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ