ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกระบุรีวิทยา ปีการศึกษา 2564

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกระบุรีวิทยา ปีการศึกษา 2564

ผู้ประเมิน นางสาวศริณทิพย์ มิตรพัฒน์ รองผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนกระบุรีวิทยา

ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2564

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกระบุรีวิทยา ปีการศึกษา 2564 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ใน 4 ด้านคือ 1)เพื่อประเมินด้านบริบทของโครงการ 2)เพื่อประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ 3)เพื่อประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการ และ 4)เพื่อประเมินด้านผลผลิตของโครงการ รูปแบบที่ใช้ในการประเมินใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และผู้ปกครองนักเรียน รวมทั้งสิ้น 305 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วยแบบสอบถาม 4 ฉบับ และแบบบันทึก 2 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ซึ่งได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป มีผลการประเมิน และข้อเสนอแนะ ดังนี้

ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนกระบุรีวิทยา ปีการศึกษา 2564 พบว่า ในภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด และผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด ส่วนผลของการประเมินในภาพรวมของแต่ละด้าน และรายตัวชี้วัด มีดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนรายตัวชี้วัดมีผลการประเมินดังนี้

1.1 ความต้องการจำเป็นของการดำเนินโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด

1.2 ความสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก สำหรับรายตัวชี้วัด มีผลการประเมิน ดังนี้

2.1 ความเหมาะสมของทรัพยากร พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

2.2 ความรู้ความเข้าใจของครูในการดำเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด

2.3 ความเพียงพอของเอกสาร เครื่องมือในการดำเนินโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และในส่วนของรายตัวชี้วัด มีผลการประเมิน ดังนี้

3.1 การบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

3.2 ความสามารถของครูในการดำเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

3.3 การนิเทศ กำกับ ติดตาม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนรายตัวชี้วัดมีผลการประเมิน ดังนี้

4.1 จำนวนนักเรียนที่ได้รับการดูแลช่วยเหลือ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด

4.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก

4.3 ความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด

4.4 ความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะสำหรับงานวิจัยครั้งต่อไป

1.1 ควรนำวิธีการประเมินรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ไปใช้ในการประเมินโครงการอื่น ๆ ของโรงเรียน เพื่อให้ทราบถึงผลการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการ ทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิตที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้การปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนนำผลการประเมินใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และแนวทางการดำเนินงานโครงการของโรงเรียน

1.2 ควรส่งเสริมให้ครูนำวิธีการประเมินโครงการรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ไปใช้ในการประเมินโครงการที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การประเมินผลในแต่ละโครงการเป็นไปอย่างเป็นระบบ และทำให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมทุกด้านในการนำมาใช้พัฒนาการดำเนินงานโครงการให้เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนทุกคน

2. ข้อเสนอแนะทั่วไป

2.1 ควรดำเนินงานโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามสภาพปัญหา เพื่อให้นักเรียนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

2.2 ควรมีการวางแผนการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น

2.3 ควรมีการจัดระบบการนิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง และใช้กระบวนการนิเทศที่หลากหลาย

2.4 ควรมีการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ โดยครูควรจัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่หลากหลายใช้สื่อการเรียนการสอนที่เอื้อต่อผู้เรียน และควรจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมนักเรียนที่เรียนอ่อน สอนเสริมสำหรับนักเรียนเก่งเพื่อให้นักเรียนทุกคนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ

2.5 ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียนอย่างหลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือนักเรียนทั้งกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มมีปัญหา

โพสต์โดย วัล : [23 ต.ค. 2565 เวลา 08:09 น.]
อ่าน [1673] ไอพี : 125.25.180.60
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,921 ครั้ง
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ
ช็อกโกแลต ช่วยให้สมองกระปรี้กระเปร่าจริงหรือ

เปิดอ่าน 9,904 ครั้ง
หญิงไทยยังเมินเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำไอคิวเด็กไทยต่ำ
หญิงไทยยังเมินเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำไอคิวเด็กไทยต่ำ

เปิดอ่าน 9,413 ครั้ง
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน

เปิดอ่าน 12,929 ครั้ง
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi

เปิดอ่าน 13,917 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 79 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถึงเวลาจัดทัพใหม่ด้านคุณภาพการศึกษา
จดหมายฉบับที่ 79 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถึงเวลาจัดทัพใหม่ด้านคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 137,625 ครั้ง
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

เปิดอ่าน 50,236 ครั้ง
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)

เปิดอ่าน 13,395 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์

เปิดอ่าน 26,125 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 12,242 ครั้ง
8 วิธีปราบสภาวะกินอาหารตามอารมณ์ให้อยู่หมัด
8 วิธีปราบสภาวะกินอาหารตามอารมณ์ให้อยู่หมัด

เปิดอ่าน 9,976 ครั้ง
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"

เปิดอ่าน 12,679 ครั้ง
คลิปอุกกาบาตตกถล่มเมืองรัสเซีย บาดเจ็บกว่า 400 คน
คลิปอุกกาบาตตกถล่มเมืองรัสเซีย บาดเจ็บกว่า 400 คน

เปิดอ่าน 56,782 ครั้ง
ห้องสมุด 3 ดี
ห้องสมุด 3 ดี

เปิดอ่าน 77,710 ครั้ง
ความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็น

เปิดอ่าน 443,826 ครั้ง
     กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ

เปิดอ่าน 66,899 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
เปิดอ่าน 11,226 ครั้ง
4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม
4 พัฒนาการที่แม่ควรส่งเสริม
เปิดอ่าน 1,665 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล
เปิดอ่าน 695,853 ครั้ง
บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง
บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง
เปิดอ่าน 1,578 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ