Advertisement
ราคาวัตถุดิบยาสมุนไพรรักษามะเร็งตับพุ่งสูง หลังเปิดตัวตำรับ 'เบญจอำมฤตย์' กรมแพทย์แผนไทยฯวอนอย่าฉวยโอกาส ช่วง 20 วันผู้ป่วยขอรับยากว่า 2 พันราย
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบนโยบายทิศทางการขับเคลื่อนงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แก่ผู้บริหารและผู้รับผิดชอบงานแพทย์แผนไทยกว่า 600 คนว่า หลังจากกรมฯเปิดตัวสูตรยาตำรับยาเบญจอำมฤตย์" ซึ่งเป็นสูตรยาในตำรับแพทยศาสตร์สงเคราะห์
ประกอบด้วย รงทอง มหาหิงค์ ยาดำ ตองแตก (ทนดี) พริกไทย ดีปลี ดีเกลือฝรั่ง มะกรูด และขิง ในการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย โดยได้ดำเนินการแจกฟรีให้แก่ผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาลการแพทย์ผสมผสานที่ยศเส ซึ่งผ่านการศึกษาวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าสามารถลดเซลล์มะเร็งในสัตว์ทดลองได้อย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะเซลล์มะเร็งตับ จึงนำมาสู่การทดลองในระดับอาสาสมัคร คือ กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ทั้งฉายแสง คีโม จึงเปิดโอกาสให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายได้รับยาดังกล่าวที่รพ.การแพทย์ผสมผสานที่ยศเส
"หลังเปิดตัวมา 20 วันได้รับความสนใจจากผู้ป่วยจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 80-150 คน โดยรวมยอดถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 มีผู้ป่วยเข้ามาแล้วกว่า2,000 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่สมัครใจเข้ารับการรักษาแบบให้ติดตามผลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีมีจำนวน 50 ราย เป็นผู้ชาย 35 ราย ผู้หญิง 15 ราย จากการติดตามอาการเบื้องต้นพบว่า อาการดีขึ้น ลดอาการแน่นท้อง ท้องอืดได้ และยังลดภาวะท้องมานลงได้ด้วย ซึ่งในอนาคตจะติดตามว่าเซลล์มะเร็งลดลงด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ในโครงการยังเปิดรับสมัครอีก 50 ราย เพื่อให้ได้ผลการติดตามอาการอย่างเป็นทางการ" นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า จากการตอบรับดังกล่าว ทำให้สูตรยาเบญจอำมฤตย์ได้รับความสนใจมาก ปัญหาคือ ประชาชนแห่กันไปซื้อวัตถุดิบและนำมาผสมกันกินแก้โรคเอง ซึ่งอันตรายมาก เพราะปริมาณที่ลดเซลล์มะเร็งตับในการทดลองนั้น พบว่าต้องใช้สูตรยาเพียง 0.22 ไมโครกรัมต่อซีซี แต่ประชาชนนำไปใช้เองย่อมไม่ทราบ จึงถือว่าอันตราย ส่งผลต่อตับและไต ได้โดยตรง และอาจทำลายเซลล์อวัยวะดีส่วนอื่นๆ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม จากจุดนี้ทำให้พ่อค้า แม่ค้าหัวใสขึ้นราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะรงทอง จากเดิมราคา 300บาทต่อกิโลกรัม เป็น 800 บาทต่อกิโลกรัม ยาดำ จากเดิม 400 -500 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 600-800 บาทต่อกิโลกรัม มหาหิงค์จากเดิม 350-450 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 550 บาทต่อกิโลกรัม
ภญ.ดลิชา ชั่งสิริพร หัวหน้างานแพทย์แผนไทย รพ.อู่ทอง กล่าวว่า ขณะนี้รพ.อู่ทองเป็นแหล่งผลิตในภาคกลางที่มีสต๊อกวัตถุดิบ สามารถผลิตได้ประมาณ 200,000 เม็ด ราคาตกเม็ดละ 5 บาท ซึ่งโดยรวมแล้วผู้ป่วยจะทานวันละ3-5 เม็ดต่อหม้อ โดยทานวันละ 2 มื้อ ดังนั้น จะมีราคาไม่เกินวันละ 50 บาท แม้ราคาไม่แพง แต่หากวัตถุดิบยังขึ้นราคา ที่สำคัญปัจจุบันต้องนำเข้าในตัวรงทองจากประเทศกัมพูชา ยาดำจากประเทศแอฟริกา และมหาหิงค์จากอินเดีย ก็จะทำให้วัตถุดิบยิ่งหายาก และสุดท้ายก็จะขาดตลาด ส่งผลต่อผู้ป่วยไม่มียารับประทาน จึงอยากขอให้ผู้ขายเห็นใจ อย่าขึ้นราคา เพราะโครงการนี้ทำเพื่อผู้ป่วย ในส่วนเกษตรกรอยากให้หันมาปลูกพืชสมุนไพร อย่างรงทอง ก็สามารถปลูกได้ในไทย โดยเฉพาะจ.จันทบุรี มีสภาพภูมิประเทศที่ปลูกได้ หากปลูกได้ในประเทศก็จะลดปัญหาวัตถุดิบได้ด้วย
วิตามินอี-เบต้าแคโรทีนไม่ป้องกันมะเร็ง
ขณะที่คณะทำงานเฉพาะกิจด้านบริการเพื่อการป้องกันของสหรัฐฯ ประกาศปรับคำแนะนำฉบับปี 2546 โดยเพิ่มคำเตือนเรื่องการรับประทานวิตามินอี และเบตาแคโรทีนเสริม ว่าไม่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจ แถมเบตาแคโรทีนยังอาจเป็นอันตราย เพราะเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยมะเร็งปอด คำแนะนำนี้ครอบคลุมถึงผู้ใหญ่สุขภาพดีที่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ ส่วนสตรีมีครรภ์ก่อนคลอดควรรับประทานวิตามินที่มีกรดโฟลิค ตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับคนส่วนใหญ่ แนะนำให้รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี นมไขมันต่ำและอาหารทะเล แทนใช้วิตามินเสริม
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557
Advertisement
เปิดอ่าน 350 ครั้ง เปิดอ่าน 11,672 ครั้ง เปิดอ่าน 21,117 ครั้ง เปิดอ่าน 34,855 ครั้ง เปิดอ่าน 12,596 ครั้ง เปิดอ่าน 15,246 ครั้ง เปิดอ่าน 43,713 ครั้ง เปิดอ่าน 41,658 ครั้ง เปิดอ่าน 18,170 ครั้ง เปิดอ่าน 10,746 ครั้ง เปิดอ่าน 12,537 ครั้ง เปิดอ่าน 9,559 ครั้ง เปิดอ่าน 14,905 ครั้ง เปิดอ่าน 15,278 ครั้ง เปิดอ่าน 13,759 ครั้ง เปิดอ่าน 16,830 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 18,003 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 20,574 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 31,170 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 12,720 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 27,879 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 3,921 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 36,550 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 70,969 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,678 ครั้ง |
เปิดอ่าน 54,395 ครั้ง |
เปิดอ่าน 5,143 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,777 ครั้ง |
|
|