ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สูคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นางสาวสุวรรณษา เหมะรักษ์

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท

ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง

ปีการศึกษา 2564 2) ระดับประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของครูโรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 3) ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองต่อการจัดการเรียนการสอนของครู โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 4) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 5) คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น 5.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (GPA) ปีการศึกษา 2564 5.2) สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2564 5.3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564

โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง ครูผู้สอน จำนวน 103 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน กลุ่มตัวอย่างนักเรียน จำนวน 338 คน และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง จำนวน 338 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ จำนวน 10 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถาม

ที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.87- 0.96 และแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะนักเรียน

ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง แบบบันทึกการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน

ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทของโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครู มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.14) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.14) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่าน เกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครู มีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.31, S.D.=0.44) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( = 4.37, S.D.=0.12) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการประเมินข้อมูลด้านกระบวนการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.37, S.D.=0.12) สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดแต่ละด้าน พบว่า ด้านการติดตามและประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.46, S.D.=0.37) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านการดำเนินงาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

( = 4.41, S.D.=0.32) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ด้านการวางแผน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.37, S.D.=0.37) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการนำผลไปปรับปรุงพัฒนามีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก ( = 4.36, S.D.=0.41) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D.=0.13)

ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า รายการการส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียนและห้องเรียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.76, S.D.=0.42) รองลงมา ได้แก่ การส่งเสริมให้ครูมีเวลาหรืออำนวยความสะดวกให้ครูได้พบปะเพื่อสะท้อนผลการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน ซึ่งกันและกัน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70, S.D.=0.45) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือคณะครูมีการรวบรวม

ความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.31, S.D.=0.67) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและรายตัวชี้วัด

4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตเกี่ยวกับประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของครูโรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62, S.D.=0.13) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า รายการครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้และประเมินผลการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.78, S.D.=0.41) รองลงมา ได้แก่ เครื่องมือการวัดและประเมินผลมีความหลากหลาย

มีคุณภาพตรงตามตัวชี้วัดและมีความเหมาะสมกับผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.77, S.D.=0.41) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือครูนำผลการประเมินผู้เรียนมาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของตนเอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.35, S.D.=0.71) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและรายตัวชี้วัด

4.3 ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองต่อการจัดการเรียนการสอนของครู โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียนและผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมินและเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า นักเรียน มีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D.=0.31) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนผู้ปกครองมีความพึงพอใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D.=0.31) เช่นกัน ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.4 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 พบว่า

โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = 0.17) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า การประสานความร่วมมือในการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.76, S.D.=0.42) รองลงมา คือ การกำหนดค่านิยมร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเรียนการสอนของครู มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69, S.D.=0.46) ส่วนรายการที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การแสวงหาและพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

( = 4.37, S.D.=0.71) ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4.5 คุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็น

4.5.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวม พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 มีคะแนนเฉลี่ย GPA ร้อยละ 3.49 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 4 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5.2 สมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 84.14 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2564 ตามสภาพจริง โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับดี-ดีเยี่ยม ร้อยละ 99.90 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

สรุปผลการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์

(CIPP Model) มีค่าน้ำหนัก 100 ได้คะแนนเฉลี่ย 100 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการพัฒนาโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ควรจัดให้มีโครงการพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ปีการศึกษา 2564 เป็นโครงการต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีการศึกษา

3. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

4. โรงเรียนควรพัฒนาศักยภาพครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจนกลายเป็นวิถีของโรงเรียนที่มีความเด่นชัดและมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองสามารถเป็นแบบอย่างของโรงเรียนอื่นได้

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการหรือการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรนำรูปแบบการประเมินโครงการของ CIPP Model ไปปรับใช้กับการประเมินโครงการอื่น ๆ ในโรงเรียน เนื่องจากสารสนเทศที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อไป

2. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ในระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานย่อยทุกโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

โพสต์โดย Phai : [8 พ.ย. 2565 เวลา 17:50 น.]
อ่าน [1755] ไอพี : 118.172.124.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,270 ครั้ง
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว

เปิดอ่าน 43,608 ครั้ง
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค

เปิดอ่าน 17,112 ครั้ง
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1
การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 ตอน1

เปิดอ่าน 9,458 ครั้ง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง

เปิดอ่าน 15,590 ครั้ง
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)
Gen Y วายร้ายจริงหรือ (จบ)

เปิดอ่าน 31,160 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

เปิดอ่าน 15,789 ครั้ง
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก

เปิดอ่าน 25,258 ครั้ง
วิธีลดน้ำหนักขั้นเทพ! ค่อยๆ ลด แต่ลดได้จริง
วิธีลดน้ำหนักขั้นเทพ! ค่อยๆ ลด แต่ลดได้จริง

เปิดอ่าน 30,049 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 41,649 ครั้ง
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล
มิติของเทคโนโลยีการศึกษากับการสอนทางไกล

เปิดอ่าน 22,969 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ

เปิดอ่าน 774 ครั้ง
เบญจศีล
เบญจศีล

เปิดอ่าน 47,446 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน

เปิดอ่าน 27,202 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 59,384 ครั้ง
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก

เปิดอ่าน 9,586 ครั้ง
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย
Animator vs Animation ภาค 4 กลับมาแล้ว สุดยอดมาก ชมคลิปกันเลย
เปิดอ่าน 24,728 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐
เปิดอ่าน 21,690 ครั้ง
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)
บิดาอีเลิร์นนิ่งไทย (Father of Thai E-learning)
เปิดอ่าน 9,808 ครั้ง
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
ประกาศสงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
เปิดอ่าน 19,230 ครั้ง
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ