ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2564

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของ

นักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นายจรัส สีสายทอง

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ามะปราง

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) คุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง 2) ทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน 3) การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง และ 4) ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วยประชากร และกลุ่มตัวอย่างดังนี้ 1) ประชากรครู จำนวน 6 คน 2) กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 24 คน 3) กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษา และผู้แทนครู จำนวน 7 คน และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามแนวคิดของ ลิเคิร์ท (Likert) ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .92-.99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

1. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสภาพแวดล้อม โครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (=3.79, = 0.36) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ผ่านเกณฑ์การประเมินและ รองลงมา คือ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.63, S.D. = 0.52) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้า โครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.69, = 0.47) ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการในการดำเนินโครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์ การประเมินเมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ผู้ปกครองมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.71, S.D. = 0.45) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน และรองลงมา คือครูมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก (= 3.69, =0.42) ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนนักเรียน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.68, S.D. = 0.46) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมต่ำสุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิตโครงการ

4.1 ผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยในภาพรวมสูงสุด ( = 3.72, S.D. = 0.44) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน ( = 3.72, S.D. = 0.44) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.65, = 0.47) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินเช่นกัน

4.2 ผลผลิตเกี่ยวกับทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของ ครู และผู้ปกครอง โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่ากลุ่มผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 3.61, S.D. = 0.17) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู (= 3.58, = 0.14) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลผลิตเกี่ยวกับระดับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.33, S.D. = 0.40) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู ( = 3.73, = 0.39) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สำหรับกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.68 S.D. = 0.46) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์ การประเมินเช่นกัน

4.4 ผลผลิตเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินอยู่ในระดับมาก ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( =3.69, S.D.= 0.46) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง ( = 3.68, S.D. = 0.45) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สำหรับ กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 3.58, S.D. = 0.39) อยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

จากการรายงานการประเมินโครงการ การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะปราง ปีการศึกษา 2564 มีข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการรายงานการประเมินโครงการไปใช้ ดังนี้

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการประเมินไปใช้

1. การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน ให้ประสบผลสำเร็จและเกิดความยั่งยืน สถานศึกษาควรมีการสร้างความตระหนักเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ครูและผู้เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรม มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่างครูและผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนและควรใช้หลักการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน อีกทั้งส่งเสริมพัฒนาครูให้ใช้การวิจัยเป็นฐานในการพัฒนา ให้ค้นหารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในการพัฒนาเน้นทักษะวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ตามศักยภาพของผู้เรียนก่อเกิดผลสัมฤทธิ์มากมายเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชนเป็นแบบอย่างแก่หน่วยงานอื่นได้

2. หลังการพัฒนาโรงเรียนควรมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โรงเรียนปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้และเป็นโรงเรียนรักการอ่าน นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น มีทักษะการอ่าน การคิด และการเขียน สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างเหมาะสมกับวัย อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ครูผู้สอนเป็นครูมืออาชีพในการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนและส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน มีนวัตกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ตรงตามความจำเป็นของสังคมปัจจุบัน

3. ผู้บริหารเป็นที่ปรึกษา หรือให้คำแนะนำให้ความรู้ตลอดจนส่งเสริมในการจัดกิจกรรมในโครงการอย่างต่อเนื่องและสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคคล มีความยุติธรรม มีความเป็นกลางเป็นที่ยอมรับตลอดการดำเนินโครงการ มีการนิเทศ ติดตาม กำกับดูแล ช่วยเหลือและการประเมินผล เกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการทั้งเป็นกลุ่มบริหารหัวหน้ากลุ่มสาระและเป็นรายบุคคล แบบกัลยาณมิตรโดยเน้นการมีส่วนร่วม

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินครั้งต่อไป

1. ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการใฝ่รู้ใฝ่เรียนและทักษะการอ่าน การคิด และการเขียนของนักเรียน

2. ควรมีการประเมินโครงการต่าง ๆ ทุกโครงการที่โรงเรียนดำเนินการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินอื่นๆ ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และสารสนเทศที่ต้องการคำตอบ

3. ควรมีการประเมินโครงการในระดับองค์รวมของสถานศึกษา โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินของซิปป์ (CIPP Model)

 

โพสต์โดย Jaras : [30 พ.ย. 2565 เวลา 07:43 น.]
อ่าน [1378] ไอพี : 118.173.79.105
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,767 ครั้ง
คลิปลูกสาวจัดวิวาห์ที่ รพ. เพื่อให้ได้เต้นรำกับพ่อก่อนตาย
คลิปลูกสาวจัดวิวาห์ที่ รพ. เพื่อให้ได้เต้นรำกับพ่อก่อนตาย

เปิดอ่าน 392,161 ครั้ง
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก

เปิดอ่าน 24,048 ครั้ง
รามเกียรติ์
รามเกียรติ์

เปิดอ่าน 20,432 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 9,335 ครั้ง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง

เปิดอ่าน 5,907 ครั้ง
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์

เปิดอ่าน 15,117 ครั้ง
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ

เปิดอ่าน 11,853 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 14,880 ครั้ง
รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายงานประจำปี 2558 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 28,972 ครั้ง
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์

เปิดอ่าน 13,395 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์

เปิดอ่าน 12,971 ครั้ง
เทคนิคการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 16,053 ครั้ง
กรมอนามัยแนะ4ขั้นตอนออกกำลังกายให้ปลอดภัย
กรมอนามัยแนะ4ขั้นตอนออกกำลังกายให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 74,640 ครั้ง
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์
การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์

เปิดอ่าน 20,506 ครั้ง
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF

เปิดอ่าน 17,668 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า "ชมพู่" เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ
รู้หรือไม่ว่า "ชมพู่" เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ
เปิดอ่าน 21,510 ครั้ง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง
เปิดอ่าน 37,633 ครั้ง
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 9,805 ครั้ง
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
เปิดอ่าน 19,266 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ