ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี

บทคัดย่อ

รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียนโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน 1) ด้านสภาวะแวดล้อม 2) ด้านปัจจัยเบื้องต้น 3) ด้านกระบวนการ และ 4) ด้านผลผลิตของโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ประชากรที่ให้ข้อมูลในการประเมิน ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี ประจำปีการศึกษา 2564 รวมทั้งสิ้น 71 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม จำนวน 2 ฉบับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.973 และ0.979 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมิน พบว่า

ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านกระบวนการ ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านผลผลิต และ ด้านสภาวะแวดล้อม ตามลำดับ

1. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านสภาวะแวดล้อม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การกำหนดระยะเวลาในการดำเนินโครงการมีความเหมาะสม รองลงมา คือ หลักการของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและนโยบายของโรงเรียน และหลักการของโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหาการอ่านการเขียนของนักเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ สถานศึกษามีการเตรียมการภายในเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามโครงการ

2. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านปัจจัยเบื้องต้น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ผู้ปกครองของนักเรียนให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ รองลงมา คือ มีอาคารสถานที่ที่ใช้ในการดำเนินโครงการอย่างเพียงพอ และมีวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการดำเนินโครงการอย่างเพียงพอ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มีจำนวนครูที่สามารถดำเนินงานโครงการได้อย่างเพียงพอ

3. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านกระบวนการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ มีการนิเทศ ติดตาม กำกับและตรวจสอบการดำเนินงาน รองลงมา คือ มีการประชุมคณะทำงานเพื่อวางแผนในการดำเนินงาน และมีการกำหนดปฏิทินในการดำเนินงาน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มีการสรุปรายงานผลการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรม

4. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านผลผลิต โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ผลการดำเนินงาน 4 กิจกรรม ความสามารถด้านการอ่านการเขียนของนักเรียน ความพึงพอใจต่อกิจกรรมตามโครงการ และพฤติกรรมในการเรียนของนักเรียน

4.1 ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านผลผลิตของการดำเนินงาน 4 กิจกรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ กิจกรรมอ่านออกเขียนได้ลายมือสวย กิจกรรมธนาคารการอ่านการเขียน กิจกรรมสอนเสริม เพิ่มทักษะอ่านเขียน และกิจกรรมรักการอ่านสื่อสารการเขียน

4.2 ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านผลผลิตเกี่ยวกับความสามารถด้านการอ่านการเขียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน รองลงมา คือ นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรื่องที่อ่านได้ และนักเรียนสามารถอ่านออกเสียงคำ ประโยคและข้อความ ได้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนสามารถเขียนเรื่องจากภาพหรือหัวข้อที่กำหนดตามจินตนาการได้

4.3 ผลการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน ด้านผลผลิตเกี่ยวกับพฤติกรรมในการเรียนของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ นักเรียนเขียนตัวบรรจงอ่านง่าย สะอาดเรียบร้อย รองลงมา คือ นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด/ตอบคำถามที่ครูกำหนด และนักเรียนใช้การอ่าน การเขียนเป็นกิจวัตรประจำวัน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนสามารถเข้าใจใบความรู้ ใบงานจากการอ่านได้

4.4 ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากรทาง การศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน ต่อกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมการอ่านการเขียนของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ รองลงมา คือ ความพึงพอใจกิจกรรมสอนเสริม เพิ่มทักษะอ่านเขียน และโครงการสามารถแก้ปัญหา พัฒนาและส่งเสริมทักษะในด้านการอ่าน การเขียนของนักเรียนได้ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ จำนวนของกิจกรรมมีความเหมาะสม

โพสต์โดย อมรา โพธิ์ทอง : [23 ธ.ค. 2565 เวลา 19:44 น.]
อ่าน [1830] ไอพี : 1.2.189.2
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,941 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.

เปิดอ่าน 17,701 ครั้ง
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project

เปิดอ่าน 29,663 ครั้ง
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!
คอลัมน์: การศึกษา: ถึงคิว...พักงาน(ยาว) "ผอ.สมศ." ปลดล็อก..."ประเมินภายนอกรอบ 4"!!

เปิดอ่าน 9,663 ครั้ง
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน

เปิดอ่าน 15,231 ครั้ง
ปลูกมะนาว 10 ไร่ รายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี
ปลูกมะนาว 10 ไร่ รายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี

เปิดอ่าน 11,111 ครั้ง
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด

เปิดอ่าน 10,513 ครั้ง
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้

เปิดอ่าน 75,460 ครั้ง
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เปิดอ่าน 1,221 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"

เปิดอ่าน 2,876 ครั้ง
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT
แนะนำแนวทางสำหรับครูรุ่นใหม่ ในการเตรียมเด็กสอบ TGAT

เปิดอ่าน 9,324 ครั้ง
แค่เครียด ก็ป่วยแล้ว
แค่เครียด ก็ป่วยแล้ว

เปิดอ่าน 26,384 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 26,275 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 40,899 ครั้ง
ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"
ไขคำตอบ "โรงเรียน ครู อยู่อย่างไรในยุค4.0?"

เปิดอ่าน 9,733 ครั้ง
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น

เปิดอ่าน 27,693 ครั้ง
ผักชีล้อม
ผักชีล้อม
เปิดอ่าน 15,410 ครั้ง
เพราะเหตุใดขณะที่ต้มไข่ จึงมีฟองอากาศลอยออกมา
เพราะเหตุใดขณะที่ต้มไข่ จึงมีฟองอากาศลอยออกมา
เปิดอ่าน 19,248 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
เปิดอ่าน 11,682 ครั้ง
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2551
เปิดอ่าน 13,815 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ