ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์

หัวข้อการวิจัย กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์

ปีการศึกษา 2564

ชื่อผู้วิจัย นางเพ็ชชรี อ้นทองทิม ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนพนมมาศพิทยากร อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา การดำเนินงานส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน การดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู และแนวทางในการพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ 2) เพื่อพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ 3) เพื่อทดลองใช้กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ และ 4)เพื่อประเมินคุณภาพกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยดำเนินการวิจัย ใน 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา การดำเนินงานส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน การดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู และแนวทางในการพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครูโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โดยการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสอบถาม การสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 451 คน ประกอบด้วย นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารระดับนโยบาย ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนโดยใช้ตารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) แล้วจึงสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) และใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารระดับนโยบายเป็นการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) พบว่า 1) ระดับการดำเนินงานส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (1) ด้านนโยบาย มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (x = 3.32, S.D. = 0.66) และการกำหนดนโยบาย กลยุทธ์หรือแผนงาน มีความสำคัญมากต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ (2) ด้านปัจจัยการดำเนินงาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (x = 3.30, S.D. = 0.58) และหน่วยงานต้นสังกัดและผู้บริหารสถานศึกษาต้องสนับสนุน ทั้งงบประมาณและระบบที่จะเอื้ออำนวยให้ครูมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานในการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยอาจใช้เครือข่ายความร่วมมือจากภายนอก ทั้งในรูปแบบของความร่วมมือด้านวิชาการและการเปิดโอกาสให้ครูแสดง ผลงานเพื่อการปรับปรุงการปฏิบัติงานของตนให้ดียิ่งขึ้น (3) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (x= 3.39, S.D. = 0.68) และควรมีการเสริมสร้างสมรรถนะการปฏิบัติงานเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเร่งด่วน ในด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และ (4) ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (x= 3.47, S.D. = 0.64) และผลคะแนนการทดสอบระดับชาติด้านการคิดวิเคราะห์ คิดคำนวณ ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศทุกรายการ 2) สภาพปัจจุบันในการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู (1) ด้านนโยบาย มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (μ = 3.41, σ = 0.63) และโรงเรียนมีการกำหนดเป้าหมาย ในการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครูได้อย่างเหมาะสม (2) ด้านปัจจัยการดำเนินงาน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (μ = 3.44, σ = 0.56) และรัฐบาลและหน่วยงานต้นสังกัดต้องสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาสมรรถนะครู (3) ด้านกระบวนการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (μ = 3.41, σ = 0.62) และครูได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนในการพัฒนาตนเอง และ (4) ด้านสมรรถนะในการปฏิบัติงานของครู มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง (μ = 3.45, σ = 0.65) และครูนําผลการวิจัยมาใช้และแก้ไขปรับปรุงพัฒนาด้านการเรียนการสอน 3) สภาพปัญหา การดำเนินการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ข้อมูลดังนี้ (1) ด้านนโยบาย พบว่า รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานต้นสังกัด และโรงเรียน ล้วนกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการวิเคราะห์อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม แต่ขาด ความชัดเจนในแนวการดำเนินการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (2) ด้านปัจจัยการดำเนินงาน พบว่า ครูขาดโอกาสการอบรม ทบทวน เพิ่มศักยภาพในการวิเคราะห์หลักสูตร หน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ (3) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ พบว่า ครูผู้สอนไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอน เน้นให้นักเรียนท่องจำ มิได้ปลูกฝังให้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา (4) ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน พบว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 4) สภาพปัญหาการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู ของโรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ข้อมูลดังนี้ (1) ด้านนโยบาย พบว่า การพัฒนาครูในปัจจุบัน ยังไม่มีเอกภาพด้านนโยบายและมาตรฐานที่ชัดเจน แม้ว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะจัดโครงการพัฒนาครูเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังซ้ำซ้อน ไม่เป็นระบบ ขาดประสิทธิภาพและขาดความต่อเนื่อง (2) ด้านปัจจัยการดำเนินงาน พบว่า ขาดงบประมาณในการสนับสนุนให้ครูได้รับการพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงาน (3) ด้านกระบวนการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะครู พบว่า กระบวนการพัฒนาสมรรถนะของครูขาดความต่อเนื่อง และขาดความจริงจัง ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน (4) ด้านสมรรถนะในการปฏิบัติงานของครู พบว่า สมรรถนะในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 5) แนวทางในการพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน พบว่า ควรพัฒนาสมรรถนะครูในด้านความรู้ ด้านทักษะในการปฏิบัติงาน ด้านความเป็นครู และด้านการพัฒนาตนเอง โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูควบคู่กันไปด้วย

ระยะที่ 2 การพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ดำเนินการออกแบบและพัฒนากระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู ตรวจสอบความถูกต้องครอบคลุมของรูปแบบการบริหาร โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 17 คน ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติมีประสบการณ์เกี่ยวกับบริหารสถานศึกษา ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง โดยใช้แบบสอบถามและเทคนิคเดลฟาย พบว่า 1) กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน มี 4 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 สมรรถนะในการปฏิบัติงานของครู ประกอบด้วยสมรรถนะ 4 ด้าน ได้แก่ สมรรถนะด้านความรู้ สมรรถนะด้านทักษะในการปฏิบัติงาน สมรรถนะด้านความเป็นครู และสมรรถนะด้านการพัฒนาตนเอง องค์ประกอบที่ 2 กระบวนการพัฒนาสมรรถนะ แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 สำรวจความต้องการจำเป็นในการพัฒนา (Exploring Needs) ขั้นที่ 2 วางแผนการพัฒนา (Designing Program) ขั้นที่ 3 ดำเนินการตามแผนพัฒนา (Taking Action) และขั้นที่ 4 ติดตาม และประเมินผลการพัฒนา (Evaluate Program) องค์ประกอบที่ 3 ชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพครู โดยแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอน ดังนี้ (1) กำหนดเป้าหมายในการพัฒนา (Goal setting) (2) ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้/กิจกรรม (Lesson planning) (3) วิพากษ์แผนการจัดการเรียนรู้/กิจกรรม (Debate) (4) การปฏิบัติ (Learning activities) (5) สะท้อนผลการปฏิบัติงานเพื่อการพัฒนา (Reflection) และ (6) สร้างเครือข่าย ขยายผล (Network) องค์ประกอบที่ 4 ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ประกอบด้วย 5 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการจำแนก ทักษะการจัดหมวดหมู่ ทักษะการเชื่อมโยง ทักษะการสรุปความ และทักษะการประยุกต์ 2) ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นสอดคล้องกัน ว่าองค์ประกอบของกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครูที่กำหนด สมควรใช้เป็นองค์ประกอบของกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน และมีความถูกต้องครอบคลุมมากที่สุด ทุกองค์ประกอบ

ระยะที่ 3 การทดลองใช้กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ จากนั้นสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับการดำเนินงานตามกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู และวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย ปัญหาและอุปสรรค ของกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยการสอบถาม การสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารระดับนโยบาย จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง พบว่า 1) ระดับการดำเนินงานตามกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู อยู่ในระดับมากที่สุด (μ = 4.62, σ = 0.51) 2) ผลลัพธ์ที่เกิดจากการดำเนินงานตามกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู มีดังนี้ (1) ครูได้รับการดำเนินการพัฒนาสมรรถนะ ในรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการ การเรียนรู้ขณะปฏิบัติงาน การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการจัดการความรู้ คิดเป็นร้อยละ 100 (2) ระดับสมรรถนะใน การปฏิบัติงานของครู ในภาพรวมมีทักษะอยู่ในระดับมากที่สุด (x= 4.63, S.D. = 0.47) (3) ครูทุกคนจัดทำงานวิจัยในชั้นเรียนจากกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครู เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (4) ผลการประเมินทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 อยู่ในระดับมีทักษะมากที่สุด (5) ผลคะแนนการทดสอบระดับชาติด้านการคิดวิเคราะห์ คิดคำนวณ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศทุกรายการ 3) จุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหาและอุปสรรค ของกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู (1) จุดเด่น คือ มีกระบวนการในพัฒนาสมรรถนะครูด้วยรูปแบบที่หลากหลาย และเป็นไปตามความต้องการจำเป็นของครูจากการสอบถามความเห็นของครู อาทิ การอบรมเชิงปฏิบัติการ การเรียนรู้ขณะปฏิบัติงาน การเรียนรู้ผ่านกิจกรรม การเรียนรู้ด้วยตนเอง การจัดการความรู้ จึงเป็นกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครูที่ตรงตามความต้องการ สภาพปัจจุบัน ปัญหา และบริบทของโรงเรียน (2) จุดด้อย คือ การที่พัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของครูให้ยั่งยืน ต้องอาศัยการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารสถานศึกษาควรส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตนเอง ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทุกปีการศึกษา (3) ปัญหาและอุปสรรค คือ สมรรถนะในการปฏิบัติงานและศักยภาพของครูและบุคลากรมีความหลากหลาย ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะในการปฏิบัติงาน ด้านความเป็นครู และด้านการพัฒนาตนเอง ที่มาจากพื้นฐานและบริบทที่หลากหลายและแตกต่างกัน เป็นปัจจัยที่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนการพัฒนาให้ตรงตามศักยภาพของครูและบุคลากรให้มีสมรรถนะเท่าเทียมกัน

ระยะที่ 4 กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพครูเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โรงเรียนพนมมาศพิทยากร จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารระดับนโยบาย จำนวน 283 คน ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนโดยใช้ตารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) แล้วจึงสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) และใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารระดับนโยบาย เป็นการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ที่มีต่อกระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู ในด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ พบว่า กระบวนทัศน์การพัฒนาสมรรถนะครู มีคุณภาพในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย doreing : [17 ม.ค. 2566 เวลา 10:12 น.]
อ่าน [1686] ไอพี : 49.228.108.42
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 3,012 ครั้ง
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"

เปิดอ่าน 13,052 ครั้ง
คืนนี้ชมจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่ และสว่างที่สุดในรอบปี
คืนนี้ชมจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่ และสว่างที่สุดในรอบปี

เปิดอ่าน 15,769 ครั้ง
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์
Best of Web เด็ดๆโดนๆ คลิปบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 12,037 ครั้ง
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ
วิธีขับสารพิษด้วยการหายใจ

เปิดอ่าน 14,723 ครั้ง
นาคเล่นน้ำ
นาคเล่นน้ำ

เปิดอ่าน 5,052 ครั้ง
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022
10 อันดับเทรนด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ปี 2022

เปิดอ่าน 15,685 ครั้ง
สรรพคุณของพืชผัก
สรรพคุณของพืชผัก

เปิดอ่าน 10,393 ครั้ง
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ

เปิดอ่าน 133,137 ครั้ง
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา

เปิดอ่าน 20,038 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 14,387 ครั้ง
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว

เปิดอ่าน 9,430 ครั้ง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง

เปิดอ่าน 23,643 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ

เปิดอ่าน 17,099 ครั้ง
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี

เปิดอ่าน 19,528 ครั้ง
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท

เปิดอ่าน 12,894 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559
เปิดอ่าน 16,378 ครั้ง
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ
ประวัติการสร้างพระมหาพิชัยราชรถ และเวชยันตราชรถ
เปิดอ่าน 16,946 ครั้ง
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
เปิดอ่าน 860,573 ครั้ง
ประมวลศัพท์ คำพ้องรูป ในภาษาไทย ที่ควรรู้
ประมวลศัพท์ คำพ้องรูป ในภาษาไทย ที่ควรรู้
เปิดอ่าน 14,578 ครั้ง
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ