ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครู ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร)
ผู้วิจัย นางสาวพจนีย์ กุลกัลยา ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
โรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
ปีที่วิจัย 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัด การเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) 2. เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหาร งานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาล วัดกำแพง (อุดมพิทยากร) 3. เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครู ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) 4. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) โดยใช้กรอบแนวคิดการวิจัยและพัฒนา R&D (Research and Development) พัฒนา ตามหลักการ แนวคิดการพัฒนาครูด้านการสอน (Instruction Coaching) การพัฒนาครูมุ่งเน้นการแก้ปัญหา (Solutions-Focused Coaching) การพัฒนาครูแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (Peer Coaching) การสะท้อนผล (Reflection) และชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (Professional Learning Community) มาประยุกต์ใช้ เป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยพัฒนา ประกอบด้วย 4 ระยะ ระยะที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดของการวิจัย ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครู ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ระยะที่ 3 ศึกษาผลการทดลองใช้ และปรับปรุงรูปแบบการบริหาร งานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) และระยะที่ 4 ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย ประกอบด้วย พนักงานครูเทศบาล 15 คน ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน ผู้นิเทศ จำนวน 2 คน และนักเรียน จำนวน 650 คน โดยการเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) พบว่า รูปแบบมี 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ องค์ประกอบหลักที่ 1 ขอบข่ายงานวิชาการที่ต้องพัฒนา มี 5 ด้าน ประกอบด้วย (1) การบริหารหลักสูตร (2) การจัดกระบวนการเรียนรู้ (3) การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา (4) การพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (5) การนิเทศการศึกษา องค์ประกอบหลักที่ 2 กระบวนการบริหารงานวิชาการ มี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย (1) การวางแผน (2) การดําเนินงาน และ (3) การประเมินผล
2. ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) กับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.83, S.D. = 0.39) เมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุดทั้ง 2 องค์ประกอบหลัก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยขององค์ประกอบหลักจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ กระบวนการบริหารงานวิชาการ ( = 4.84, S.D.=0.37) และขอบข่ายงานวิชาการที่ต้องพัฒนา ( = 4.82, S.D. = 0.39) ตามลำดับ และผลการพัฒนาคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) พบว่า คู่มือการใช้รูปแบบมีความเหมาะสมในการนําไปใช้บริหารงานวิชาการ โดยมีเนื้อหาประกอบด้วยคําชี้แจง ความเป็นมาและความสำคัญของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) วัตถุประสงค์ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบก่อนนำไปใช้จริง ดังนี้ 1) ผลการเปรียบเทียบทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูกลุ่มทดลองทั้ง 6 คน พบว่า ภายหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ทุกคน โดยภาพรวม ก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) อยู่ระดับน้อย และหลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ครูมีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก อยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัด การเรียนรู้เชิงรุก นักเรียนของครูกลุ่มทดลอง พบว่า มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก สูงกว่าคะแนนก่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัด การเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ดังนี้ ผลจากการส่งเสริมทักษะการจัด การเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้รับการชี้แนะสรุปผลได้ ดังนี้ 1) ผลการประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 15 คน มีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ได้แก่ ทักษะการวางแผน ทักษะการออกแบบการเรียนรู้ TPCK ทักษะการสะท้อนผล และทักษะการเรียนรู้เป็นทีม : PLC สูงขึ้นทุกคน 2) ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 15 คน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลจากการสังเกตการสอนครูผู้รับการชี้แนะมีการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงขึ้น และผลการตรวจสอบรายการปฏิบัติทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทั้ง 4 ทักษะ ครูผู้รับการชี้แนะ มีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยรวม อยู่ในระดับปฏิบัติมากทุกคน 4) ผลการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (AAR) พบว่า สิ่งที่ครูผู้รับการชี้แนะได้รับจากรูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก คือ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง การปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยเทคนิควิธีการสอนใหม่ ๆ การสะท้อนผลก่อนการจัดการเรียนรู้ ระหว่างการจัดการเรียนรู้ และได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาภายหลังการจัดการเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน และจากการเรียนรู้เป็นทีม : PLC นำมาปรับปรุงการเขียนแผนทุกครั้ง ทำให้แผนการจัดการเรียนรู้มีความสมบูรณ์ สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนได้ 5) ผลการสะท้อนผลการเรียนรู้เป็นทีม : PLC พบว่า การใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) สามารถส่งเสริมให้ครูผู้รับการชี้แนะมีทักษะในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะการออกแบบการเรียนรู้ TPCK ทักษะในการสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ และทักษะในการทำงานเป็นทีม : PLC โดยมีผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ดังนี้
4.1 ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 15 คน พบว่า หลังการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครู ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ครูผู้รับการชี้แนะมีทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนเทศบาลวัดกำแพง (อุดมพิทยากร) ทุกคน
4.2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนของครูผู้รับการชี้แนะทั้ง 15 คน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสูงกว่าก่อนการจัด การเรียนรู้เชิงรุกทุกคน โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01