ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ ๑) พัฒนารูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ ๒) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น ๔ ระยะ โดยระยะแรกเป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบ ระยะที่สองเป็นการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบโดยครูเสมือนกลุ่มเป้าหมายและผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่สามเป็นการนำรูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้ในสถานการณ์จริง และระยะที่ ๔ เป็นระยะของการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ดำเนินการวิจัยในปีการศึกษา ๒๕๖๕ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างของการดำเนินการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน ๑ คน ครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ จำนวน ๖ คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน ๘ คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๑-๓ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ จำนวน ๑๒๑ คน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนารูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๕ คน ผู้เชี่ยวชาญจำนวน ๕ คน ครูเสมือนกลุ่มเป้าหมาย โรงเรียนเทศบาล ๒ “เชิงชุมอนุชนวิทยา” จำนวน ๖ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัยระยะที่ ๑ คือ ๑) แบบวิเคราะห์เอกสาร ๒) ประเด็นสำหรับการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ๓) แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการที่ส่งผลต่อการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ระยะที่ ๒ ใช้แบบตรวจสอบร่างคู่มือรูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ และแบบตรวจสอบเครื่องมือประเมิน ระยะที่ ๓ เป็นระยะของการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย ๑) แบบทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอน เรื่อง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒) แบบประเมินความสามารถในการเขียนหน่วยการเรียนรู้ ๓) แบบประเมินความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ๔) แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ๕) แบบสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ๖) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๗) แบบประเมินของแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ด้านอยู่อย่างพอเพียง ๘) ประเด็นสนทนากลุ่มเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ๙) แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ ถึงพัฒนาการการจัดการเรียนรู้ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะปฏิบัติ และระยะที่ ๔ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยประเด็นการสนทนากลุ่ม เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อการใช้และปรับปรุงรูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า

๑. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ พบว่า รูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า OADPSAR Model มีองค์ประกอบ ๗ ประการ ได้แก่ ๑) แนวคิด ๒) หลักการ ๓) วัตถุประสงค์ ๔) องค์ประกอบของรูปแบบ ๕) กระบวนการพัฒนา ประกอบด้วย ๗ ขั้นตอน คือ (๑) การวิเคราะห์องค์กร (O: Organization Analysis) (๒) การหาความรู้ สร้างความตระหนัก (A:Acknowledging) (๓) การกำหนดเป้าหมายพัฒนา (D:Defining Goals) (๔) การนำความรู้ไปปฏิบัติ (P:Performing) (๕) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (S:Sharing) (๖) การประเมินผล (A :Assessing) และ (๗) การรายงานผล (R :Results Report) ๖) การวัดผลและประเมินผล และ ๗) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนา พบว่าในภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก ( = ๔.๕๒, S.D.= ๐.๕๐) และความเป็นไปได้ ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๑, S.D.=๐.๕๐) และผลการตรวจสอบคุณภาพของคู่มือการใช้รูปแบบในภาพรวมพบว่ามีความเหมาะสมในระดับมาก ( = ๔.๔๖, S.D.=๐.๕๐) และความเป็นไปได้ในระดับมาก ( = ๔.๔๗, S.D.=๐.๕๐)

๒. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารด้านการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลท่าแร่ พบว่า

๒.๑ ครูมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่อง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลังการอบรมสูงกว่าก่อนการอบรม มีคะแนนความก้าวหน้า ร้อยละ ๓๘.๖๗

๒.๒ ครูมีความสามารถในการเขียนหน่วยการเรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๑, S.D.=๐.๕๒)

๒.๓) ครูมีความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๒, S.D.=๐.๕๑)

๒.๔) ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๗, S.D.=๐.๕๐)

๒.๕) ครูมีความคิดเห็นต่อการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๗, S.D.=๐.๕๑)

๒.๖) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๒.๕๖, S.D.=๐.๔๙)

๒.๗) นักเรียนที่ได้เรียนรู้ โดยการบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านอยู่อย่างพอเพียง ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๑๗ ระดับดี คิดเป็นร้อยละ ๕๙.๘๓

๒.๘) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงว่าสามารถนำไปสอนได้จริงในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ สามารถปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน

โพสต์โดย ผอ.เอ๊าะ : [18 ก.ค. 2566 เวลา 02:25 น.]
อ่าน [3321] ไอพี : 49.228.170.248
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 92,132 ครั้ง
ADSL คืออะไร?
ADSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 21,535 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 36,712 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 80,332 ครั้ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง

เปิดอ่าน 17,527 ครั้ง
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 14,384 ครั้ง
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?

เปิดอ่าน 22,869 ครั้ง
สิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน แก้วมังกร
สิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ใน แก้วมังกร

เปิดอ่าน 14,633 ครั้ง
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ
สารพัดวิธี เบิร์น 100 กิโลแคลอรี่ แค่ไม่ถึงชั่วโมง แบบง่ายๆ

เปิดอ่าน 9,642 ครั้ง
อายุขัยชายเกือบไล่ทันหญิง เพราะปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอยู่เสียใหม่
อายุขัยชายเกือบไล่ทันหญิง เพราะปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอยู่เสียใหม่

เปิดอ่าน 10,802 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 17,265 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก

เปิดอ่าน 81,703 ครั้ง
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม

เปิดอ่าน 9,331 ครั้ง
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี

เปิดอ่าน 1,334,892 ครั้ง
เสียงในภาษาไทย
เสียงในภาษาไทย

เปิดอ่าน 10,580 ครั้ง
กันไว้ดีกว่าแก้ ผู้ใช้งานธนาคารออนไลน์ต้องอ่าน !
กันไว้ดีกว่าแก้ ผู้ใช้งานธนาคารออนไลน์ต้องอ่าน !

เปิดอ่าน 12,538 ครั้ง
วิจัยเผย เฟซบุ๊กทำให้คนมีความอิจฉามากขึ้น
วิจัยเผย เฟซบุ๊กทำให้คนมีความอิจฉามากขึ้น
เปิดอ่าน 28,194 ครั้ง
เกมส์ระบายสี
เกมส์ระบายสี
เปิดอ่าน 34,124 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง! การประชุมชี้แจงการสอบบรรจุครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ประจำปี 2560 [ไม่มีใบอนุญาตฯสมัครสอบได้] เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560
รับชมย้อนหลัง! การประชุมชี้แจงการสอบบรรจุครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ประจำปี 2560 [ไม่มีใบอนุญาตฯสมัครสอบได้] เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560
เปิดอ่าน 11,310 ครั้ง
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน
เปิดอ่าน 18,167 ครั้ง
มะระจีน
มะระจีน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ