ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

วิจัยในชั้นเรียน การแก้ปัญหาเด็กไม่รู้จักการรอคอย โดยการเล่านิทาน

วิจัยในชั้นเรียน

เรื่อง การแก้ปัญหาเด็กไม่รู้จักการรอคอย โดยการเล่านิทาน

ชื่อผู้วิจัย ครูมานิดา จันทรา

ระดับชั้น อนุบาลปีที่ 2/1

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

จะเห็นได้ว่าแนวทางการจัดการศึกษาของรัฐ มุ่งเน้นให้เห็นความสำคัญของการมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม ตั้งแต่ช่วงปฐมวัยการจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาทักษะทางภาษา จึงเป็นสิ่งจำเป็นทั้งนี้ ครูจะคอยคำนึงถึงวุฒิภาวะ หรือความพร้อมทางพัฒนาการต่างๆ ของเด็กไปด้วยจากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กชั้นอนุบาล 2/1 ที่ตนรับผิดชอบพบว่า เด็กส่วนใหญ่ยังขาดคุณธรรมจริยธรรม จิตใจที่ดีงาม ไม่รู้จักการรอคอย อาจเกิดจากการที่เด็กไม่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่แรกเริ่ม เด็กจึงขาดการปฏิสัมพันธ์ด้านคุณธรรม จริยธรรม หากไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลให้เด็กอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีความสุขใจอนาคต เด็กจะมีปัญหาทั้งด้านการเรียนและการดำเนินชีวิต การที่ครูผู้สอนจะนำเอากิจกรรมการเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรม ที่มีสาระที่ช่วยพัฒนาคุณธรรมด้านนี้ในเด็กที่มีปัญหาให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะการที่เด็กได้มีโอกาสได้รับฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรมบ่อยๆ เด็กจะเกิดการคล้อยตามหรือมีจินตนาการตามนิทานที่ได้ยินได้ฟัง และปฏิบัติตามได้ในที่สุดจะทำให้เด็กเหล่านั้นเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง สุดท้ายก็พัฒนาแสดงออกทางด้านความอดกลั้นอดทนต่อสิ่งยั่วยุ เด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ทีละน้อยจนในที่สุดเด็กจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับการเรียนรู้ตลอดไป

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. รอนานหน่อยนะ

2. ช้างน้อยคอยได้

3. หิ่งห้อยและการรอคอย

สมมุติฐานของการวิจัย

กิจกรรมเล่นนิทานส่งเสริมคุณธรรม 3 เรื่อง สามารถพัฒนาความอดกลั้น อดทนของเด็กปฐมวัยได้ดียิ่งขึ้น

ขอบเขตของการวิจัย

1. กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือเด็กนักเรียนชายและหญิงที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล2/1จำนวน19 คน

2. ตัวแปรที่ศึกษา

2.1 ตัวแปรต้น ได้แก่ นิทานส่งเสริมคุณธรรม 3 เรื่อง

2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ เทคนิคการเล่านิทานของครู

3. ระยะเวลาในการศึกษาวิจัย ใช้เวลา 2 เดือน มิถุนายน - กรกฎาคม 2566

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. เด็กชั้นอนุบาล 2/1 มีความอดทนมากขั้น

2. ได้แนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจสำหรับเด็กปฐมวัย

3. เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจมากขึ้น

วิธีการวิจัย

นำนิทานส่งเสริมคุณธรรมไปเล่าให้เด็กฟังหลังการดื่มนมและเริ่มกิจกรรมในตอนเช้าโดยเล่านิทานสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักการรอคอยในการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้ใช้เครื่องมือในการวิจัยดังนี้

1. หนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จำนวน 3 เรื่อง

2. แบบสังเกตพฤติกรรมมาตรฐานที่ 5 มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม

การเก็บรวบรวมข้อมูล

ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ระหว่างเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม2566 โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรม

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

วิเคราะห์คะแนนการมีความอดกลั้นอดทนก่อนและหลังการใช้กิจกรรมจากแบบสังเกตพฤติกรรมมีคุณธรรม จริยธรรม และจิตใจที่ดีงามโดยการหาค่าร้อยละ และเมื่อพิจารณาหลังการใช้กิจรรมเล่านิทานคะแนนการมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงามของเด็กปฐมวัย ดังนี้

รายการที่ 1 การรู้จักขอโทษและให้อภัย คิดเป็นร้อยละ 89.4

รายการที่ 2 การรอคอยตามลำดับก่อน – หลัง คิดเป็นร้อยละ 100

รายการที่ 3 การแสดงความรักเพื่อน คิดเป็นร้อยละ 89.4

รายการที่ 4 การร่าเริงแจ่มใสอารมณ์ดี คิดเป็นร้อยละ 94.7

ส่วนในภาพรวม คิดเป็นร้อยละ 78.94

อภิปรายผลการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาความอดทน อดกลั้นของเด็กปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมเล่านิทาน ซึ่งผลการใช้กิจกรรมดังกล่าว เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ กล่าวคือ การใช้กิจกรรมเล่านิทานส่งเสริมคุณธรรมสามารถพัฒนาความอดกลั้น อดทนของเด็กปฐมวัยได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากกิจกรรมการเล่นนิทานเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมคุณธรรมบ่อยๆ เด็กจะเกิดความคล้อยตามหรือมีจินตนาการตามนิทานที่ได้ยินได้ฟัง และปฏิบัติตามในที่สุดจะทำให้เด็กเหล่านั้นเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง สุดท้ายก็พัฒนาการแสดงออกทางด้านพัฒนาการด้านความอดกลั้น อดทนต่อสิ่งยั่วยุเด็กก็จะเกิดการเรียนรู้ทีละเล็กทีละน้อย จนที่สุดเด็กจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับการเรียนรู้ตลอดไป ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า สามารถศึกษาและใช้เป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย อันจะเป็นการปูพื้นฐานการมีคุณธรรม จริยธรรมมีจิตใจที่งามให้เกิดกับเด็กจะช่วยให้เด็กกล้าคิด กล้าทำสิ่งต่างๆ ด้วยความมั่นใจ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมหรือเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยความมั่นใจสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมหรือเหตุการณ์ต่างๆ และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขทั้งในปัจจุบันและอนาคต

โพสต์โดย ปิม : [7 ส.ค. 2566 เวลา 07:01 น.]
อ่าน [66253] ไอพี : 101.51.81.252
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,180 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง

เปิดอ่าน 12,099 ครั้ง
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่

เปิดอ่าน 35,310 ครั้ง
พืชที่ใช้ทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน
พืชที่ใช้ทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 128,122 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal):  กติกาข้อ 8  ระยะเวลาของการแข่งขัน
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน

เปิดอ่าน 53,860 ครั้ง
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม

เปิดอ่าน 28,751 ครั้ง
งูพิษกัด
งูพิษกัด

เปิดอ่าน 71,252 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560

เปิดอ่าน 485,927 ครั้ง
สมรรถนะของครู
สมรรถนะของครู

เปิดอ่าน 25,773 ครั้ง
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล

เปิดอ่าน 27,175 ครั้ง
คุณรู้ไหมว่า 25 มกราคม2556 ! เกิด "กรม"ใหม่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย
คุณรู้ไหมว่า 25 มกราคม2556 ! เกิด "กรม"ใหม่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย

เปิดอ่าน 13,241 ครั้ง
คลิปข่าว ผลสอบ o-net ป.6 พบคะแนนเฉลี่ยโอเน็ต ต่ำกว่าครึ่งถึง 6 วิชา
คลิปข่าว ผลสอบ o-net ป.6 พบคะแนนเฉลี่ยโอเน็ต ต่ำกว่าครึ่งถึง 6 วิชา

เปิดอ่าน 32,459 ครั้ง
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่

เปิดอ่าน 18,422 ครั้ง
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?
กินไข่ต้ม ช่วยให้หลับง่าย จริงหรือ?

เปิดอ่าน 83,716 ครั้ง
จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง
จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง

เปิดอ่าน 6,289 ครั้ง
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 6,032 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณให้โทษ และสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณให้โทษ และสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ
เปิดอ่าน 15,431 ครั้ง
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
เปิดอ่าน 4,563 ครั้ง
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
เปิดอ่าน 21,702 ครั้ง
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
เปิดอ่าน 14,320 ครั้ง
คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)
คู่มือและแนวทางปฎิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2560)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ