ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่อง การส่งเสริมทักษะการสังเกต โดยใช้การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

ชื่อเรื่อง การส่งเสริมทักษะการสังเกต โดยใช้การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

ผู้วิจัย นางวิภาทรงศิริ สิงห์ชัย

ความสำคัญและความเป็นมา

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหา เหตุผล แสวงหา

ความรู้ สามารถแก้ปัญหาได้ตามวัยของเด็ก ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อันเป็นกระบวนการขั้น

พื้นฐานหรือทักษะเบื้องต้นที่ควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนามี 7 ทักษะสำคัญ ซึ่งทักษะทีเด็ก

ปฐมวัยควรมีเป็นอันดับแรก คือ ทักษะการสังเกต เนื่องจากเด็กปฐมวัย เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นต่อ

สิ่งแวดล้อมรอบๆตัวอยู่ตลอดเวลา จึงต้องใช้ทักษะการสังเกตในการแสวงหาคำตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้หรือ

สนใจ การสังเกตจะต้องใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น

และผิวกาย เข้าไปสัมผัสโดยตรงกับสิ่งต่างๆ เพื่อ ค้นหาข้อมูลหรือรายละเอียดของสิ่งต่างๆที่เด็กต้องการรู้ การ

มีทักษะการสังเกตที่ดีจะมีผลต่อการ เรียนรู้สิ่งต่างๆของเด็กปฐมวัย เพราะเป็นวัยที่มีการพัฒนาทางสติปัญญาสูงที่สุดของชีวิต

จากการที่ผู้วิจัยได้ปฏิบัติการฝึกสอนที่โรงเรียนบ้านโนนสังข์ โดยทำการสอนในระดับชั้นอนุบาลปีที่

3/1 มีจำนวนนักเรียนทั้งหมดทั้งหมด 18 คน มีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ 6 กิจกรรมหลัก และ

ส่งเสริมทักษะทางวิชาการให้กับเด็ก ผู้วิจัยได้มีการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ของเด็ก ตลอดระยะเวลาที่ทำ

การการสอน พบว่า เด็กในห้องเรียนส่วนใหญ่ขาดทักษะในการเรียนรู้สิ่ง ต่างด้วยการสังเกต สังเกตได้จากการ

จัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ และการทำผลงานต่างๆ เด็กๆ จะไม่สังเกตสิ่งต่างๆที่คุณครูนำมาให้ดู เมื่อ

คุณครูถามก็จะตอบไม่ได้ จากสาเหตุดังกล่าวผู้วิจัยจึงมี ความประสงค์ที่จะส่งเสริมทักษะการสังเกตให้กับเด็ก

ปฐมวัย

การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะการสังเกตสำหรับเด็กปฐมวัย สามารถจัดได้หลาย กิจกรรมด้วยกัน

ได้แก่ การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ การศึกษาการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต และ การเล่นเกมการศึกษา เป็น

ต้น ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับการส่งเสริมทักษะการสังเกต ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โดย

ใช้การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาที่หลากหลาย คำนึงถึงความเหมาะสมของเด็ก และเป็นแนวทางในการพัฒนา

และส่งเสริมทักษะของเด็กให้มีทักษะการสังเกตมากขึ้น เพื่อเป็นการวางรากฐานการเรียนรู้ให้กับเด็กในอนาคต

ต่อไป

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อให้นักเรียนมีทักษะในการสังเกตสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น

2. เพื่อให้นักเรียนนำทักษะที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

ขอบเขตของการวิจัย

1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชาย – หญิง อายุระหว่าง 5-6ปี ที่กำลังศึกษาในภาค

เรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 18 คน

2. ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาฝึกทักษะการสังเกต

ตัวแปรตาม ทักษะการสังเกตของนักเรียนสูงขึ้น

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

แบบประเมินทักษะการสังเกตการเล่นเกม 3 เกม

1. เกมจับผิดภาพ

2. เกมจับคู่ภาพกับเงา

3. เกมภาพตัดต่อ

ระดับคุณภาพ

3 หมายถึง เด็กเกิดทักษะการสังเกตด้วยตนเอง โดยไม่ได้รับการชี้นำ

2 หมายถึง เด็กเกิดทักษะการสังเกตด้วยตนเองเมื่อได้รับการชี้นำบางครั้ง

1 หมายถึง เด็กเกิดทักษะการสังเกตเมื่อได้รับการชี้นำทุกครั้ง

วิธิีการดำเนินการ

1. คุณครูสังเกตทักษะการสังเกตของเด็กๆในขณะทำกิจกรรมต่างๆ

2. คุณครูพูดคุยชี้แนะให้เด็กๆสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวของตนเองทั้งในห้องเรียนและนอก ห้องเรียน

3. คุณครูจัดกิจกรรมเกมการศึกษา สาธิตวิธีการเล่นเกมให้เด็กๆดู

4. เด็กๆเล่นเกมการศึกษา โดยมีคุณครูคอยชี้นำ และสังเกตวิธีการเล่นเกมของเด็กๆ

5. คุณครูกล่าวชมเชยเด็ก เมื่อสามารถเล่นเกมได้ถูกต้อง

6. เด็กๆเล่นเกมการศึกษา อย่างสม่ำเสมอ

7. คุณครูประเมินเด็กด้วยแบบประเมินทักษะการสังเกต

สรุปผลการวิจัย

ภายหลังจากการส่งเสริมทักษะการสังเกตของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โดยใช้การจัด กิจกรรมเกม

การศึกษา พบว่าเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 ทั้ง 18 คน ที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกม การศึกษามีทักษะการ

สังเกตสูงขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. ควรมีการศึกษาการนำกิจกรรมเกมการศึกษาไปใช้ในการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ ในด้าน

อื่นๆ เช่น การจำแนกประเภท การวัด การลงความเห็นข้อมูล เป็นต้น

2. ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษากับการจัดกิจกรรม รูปแบบ

อื่นๆ เพื่อนา ผลที่ได้มาเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการสังเกต

ประโยชน์ทที่ได้รับจากการทำวิจัย

1. เด็กปฐมวัยมีทักษะการสังเกตมากขึ้น หลังจากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา และ สามารถ

นำไปใช้การดำเนินชีวิตประจำวันได้

2. เป็นแนวทางให้คุณครู และผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำกิจกรรมเกมการศึกษาไปส่งเสริม ทักษะการ

สังเกต ให้กับเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ลงชื่อ...................................................

(นางวิภาทรงศิริ สิงห์ชัย)

ครูผู้สอน

ลงชื่อ....................................................

(นายนภปภน กฤติยาวรรค์)

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนสังข

แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

เกมภาพตัดต่อ

ชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 สัปดาห์ที่ 1,3

เวลา 20 นาที

.............................................................................................................................................................

1. สาระสำคัญ

การเล่นเกมภาพตัดต่อช่วยให้เด็กเกิดทักษะการสังเกต

2. จุดประสงค์

1. เด็กสามารถต่อภาพได้สำเร็จ

2. เด็กสามารถสังเกตรายละเอียดของภาพได้ถูกกต้อง

3. สาระการเรียนรู้

การสังเกตโดยใช้สายตานั้นหากเด็กได้รับการชี้แนะให้รู้จักสังเกตลักษณะของสิ่งต่าง ๆ สังเกตความ

เหมือน ความแตกต่าง รู้จักจำแนก และจัดประเภทก็จะช่วยให้เด็กมีนิสัยในการมองสิ่ง ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ

ตัวอย่างละเอียดรอบคอบ

4. ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเล่านิทาน

ขั้นนำ

1. เด็กและครูร่วมกันท่องคำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

ขั้นสอน

2. เด็กๆดูการสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษาจากคุณครู

3. เด็กๆเล่นเกมการศึกษา โดยมีคุณครูคอยสังเกตและชี้นำ

4. เด็กๆช่วยกันเก็บเกมใส่กล่องให้เรียบร้อย

ขั้นสรุป

5. เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดของเกมการศึกษาที่ได้เล่น

5. สื่อและอุปกรณ์

1. คำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

2. เกมภาพตัดต่อ

6. การวัดและประเมินผล

1. สังเกตการเล่นเกมของเด็ก

2. สังเกตการณ์ตอบคำถามที่เกี่ยวกับภาพในเกม

3. สังเกตการณ์ปฏิบัติตามกฎกติกา

แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

เกมจับคู่ภาพกับเงา

ชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 สัปดาห์ที่ 2,5

เวลา 20 นาที

.............................................................................................................................................................

1. สาระสำคัญ

การเล่นเกมจับคู่ภาพกับเงาช่วยให้เด็กเกิดทักษะการสังเกต

2. จุดประสงค์

1. เด็กสามารถจับคู่ผลไม้กับเงาได้ถูกต้อง

2. เด็กสามารถสังเกตรายละเอียดของภาพได้ถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้

การสังเกตโดยใช้สายตานั้น หากเด็กได้รับการชี้แนะให้รู้จักสังเกตลักษณะของสิ่งต่าง ๆ สังเกตความ

เหมือน ความแตกต่าง รู้จักจำแนก และจัดประเภทก็จะช่วยให้เด็กมีนิสัยในการมองสิ่ง ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ

ตัวอย่างละเอียดรอบคอบ

4. ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเล่านิทาน

ขั้นนำ

1. เด็กและครูร่วมกันท่องคำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

ขั้นสอน

2. เด็กๆดูการสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษาจากคุณครู

3. เด็กๆเล่นเกมการศึกษา โดยมีคุณครูค่อยสังเกตและชี้นำ

4. เด็กๆช่วยกันเก็บเกมใส่กล่องให้เรียบร้อย

ขั้นสรุป

5. เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดของเกมการศึกษาที่ได้เล่น

5. สื่อและอุปกรณ์

1. คำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

2. เกมจับคู่ภาพกับเงาของผลไม้

6. การวัดและประเมินผล

1. สังเกตการเล่นเกมของเด็ก

2. สังเกตการณ์ตอบคำถามที่เกี่ยวกับรายละเอียดของภาพภาพในเกม

3. สังเกตการณ์ปฏิบัติตามกฎ

แผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

เกมจับผิดภาพ

ชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 สัปดาห์ที่ 3,5

เวลา 20 นาที

.............................................................................................................................................................

1. สาระสำคัญ

การเล่นเกมจับผิดภาพช่วยให้เด็กเกิดทักษะการสังเกต

2. จุดประสงค์

1. เด็กสามารจับผิดภาพเหมือนได้ถูกต้อง

2. เด็กสามารถสังเกตรายละเอียดของภาพได้ถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู

การสังเกตโดยใช้สายตานั้น หากเด็กได้รับการชี้แนะให้รู้จักสังเกตลักษณะของสิ่งต่าง ๆ สังเกตความ

เหมือน ความแตกต่าง รู้จักจำแนก และจัดประเภทก็จะช่วยให้เด็กมี นิสัยในการมองสิ่ง ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ

ตัวอย่างละเอียดรอบคอบ

4. ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเล่านิทาน

ขั้นนำ

1. เด็กและครูร่วมกันท่องคำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

ขั้นสอน

2. เด็กๆดูการสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษาจากคุณครู

3. เด็กๆเล่นเกมการศึกษา โดยมีคุณครูค่อยสังเกตและชี้นำ

4. เด็กๆช่วยกันเก็บเกมใส่กล่องให้เรียบร้อย

ขั้นสรุป

5. เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดของเกมการศึกษาที่ได้เล่น

5. สื่อและอุปกรณ์

1. คำคล้องจอง “ดูดีๆ มีเหตุผล”

2. เกมจับผิดภาพ

6. การวัดและประเมินผล

1. สังเกตการเล่นเกมของเด็ก

2. สังเกตการณ์ตอบคำถามที่เกี่ยวกับรายละเอียดของภาพภาพในเกม

3. สังเกตการณ์ปฏิบัติตามกติกา

โพสต์โดย ปิม : [21 ส.ค. 2566 เวลา 09:36 น.]
อ่าน [4607] ไอพี : 101.51.85.67
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,667 ครั้ง
สูตรการคำนวณระดับความสำเร็จ กรณีข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี
สูตรการคำนวณระดับความสำเร็จ กรณีข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี

เปิดอ่าน 23,278 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม

เปิดอ่าน 9,938 ครั้ง
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล

เปิดอ่าน 79,355 ครั้ง
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด

เปิดอ่าน 30,092 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล

เปิดอ่าน 12,599 ครั้ง
บริหารหน้าอย่างไร ให้ดูน่ามอง
บริหารหน้าอย่างไร ให้ดูน่ามอง

เปิดอ่าน 12,217 ครั้ง
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา

เปิดอ่าน 29,601 ครั้ง
ICT2020 Conceptual Framework
ICT2020 Conceptual Framework

เปิดอ่าน 22,502 ครั้ง
Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
Active Learning กำลังจะมา แต่ผล Pisa ของไทยกำลังไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น… : โดย ณรงค์ ขุ้มทอง

เปิดอ่าน 29,923 ครั้ง
แบบฝึกคิดเลขในใจ ระดับ 1 - ระดับ 5
แบบฝึกคิดเลขในใจ ระดับ 1 - ระดับ 5

เปิดอ่าน 302,567 ครั้ง
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔

เปิดอ่าน 17,969 ครั้ง
เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง
เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง

เปิดอ่าน 9,750 ครั้ง
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้
แปลงความยากจน ให้เป็นต้นทุนแห่งการเรียนรู้

เปิดอ่าน 13,655 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 18,808 ครั้ง
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว

เปิดอ่าน 31,544 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): การเตะจากจุดโทษ
ฟุตซอล(Futsal): การเตะจากจุดโทษ
เปิดอ่าน 9,795 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
เปิดอ่าน 435,842 ครั้ง
เอกสาร/แนวทางเตรียมรับการประเมินวิทยฐานะ
เอกสาร/แนวทางเตรียมรับการประเมินวิทยฐานะ
เปิดอ่าน 7,453 ครั้ง
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
เปิดอ่าน 12,898 ครั้ง
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ