ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการ การสอน

แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อ

พัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางสาวพิมพ์ชนก มณีทัพ

สังกัด โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ปีที่วิจัย 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 46 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ 5) แบบประเมินความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบสมมุติฐานใช้ t-test (Pair) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณา การการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้มาจากการศึกษาและวิเคราะห์นโยบายแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560-2579 แนวคิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-NET) ปีการศึกษา 2562-2564 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสังคมศึกษา โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563-2564 และศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ความต้องการของผู้เรียน ศึกษาความต้องการของครูผู้สอน พบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ มีความจำเป็นสำหรับผู้เรียน และสามารถช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย และส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้น ได้แก่ 1) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจและการตั้งคำถามทางภูมิศาสตร์ 2) ขั้นที่ 2 สำรวจและการรวบรวมข้อมูล 3) ขั้นที่ 3 อธิบายและการจัดการข้อมูล 4) ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ การวิเคราะห์และแปลผลข้อมูล และ 5) ขั้นที่ 5 ประเมินผล การสรุปและตอบคำถาม พบว่า มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.03/81.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และมีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6870 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.70

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า

1) ผลการทดลองเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.75/81.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และมีดัชนีประสิทธิผล มีค่าเท่ากับ 0.7114 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.14 ซึ่งมีค่าสูงกว่ากว่าเกณฑ์ ที่กำหนด คือ 0.50

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ .05

3) ความสามารถทางภูมิศาสตร์ เมื่อเทียบจากเกณฑ์ให้คะแนนระดับคุณภาพ ในภาพรวมอยู่ในระดับดี โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.95 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.37

4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณาการการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) กับการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.21 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.60

โพสต์โดย นก : [3 ก.ย. 2566 เวลา 14:05 น.]
อ่าน [64485] ไอพี : 58.11.25.60
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 252,124 ครั้ง
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา

เปิดอ่าน 13,302 ครั้ง
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้
ซดชา 3 ถ้วยช่วยต้านมะเร็ง ป้องกันโรคเนื้อร้ายของรังไข่สตรีได้

เปิดอ่าน 28,914 ครั้ง
บุญบั้งไฟ
บุญบั้งไฟ

เปิดอ่าน 16,642 ครั้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง

เปิดอ่าน 48,522 ครั้ง
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI  สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้

เปิดอ่าน 31,153 ครั้ง
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย
การนวดท้องแบบ"ชิเนซัง"(Shi-Nei-Tsang) ปลดปล่อยสารพิษในร่างกาย

เปิดอ่าน 72,722 ครั้ง
วงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้า

เปิดอ่าน 17,829 ครั้ง
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา
มนุษย์เป็นพวกกับลิงอุรังอุตัง ยิ่งกว่าเป็นกับลิงชิมแปนซีและกอริลลา

เปิดอ่าน 21,648 ครั้ง
วันจักรี วันแห่งการระลึกถึงราชวงศ์จักรี 6 เมษายนของทุกปี
วันจักรี วันแห่งการระลึกถึงราชวงศ์จักรี 6 เมษายนของทุกปี

เปิดอ่าน 34,554 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 4,179 ครั้ง
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์
เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก อาการเริ่มปัญหาของหัวใจ อย่ารอช้ารีบพบแพทย์

เปิดอ่าน 11,462 ครั้ง
ไฮพาเทียแห่งอเล็กซานเดรีย และ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก
ไฮพาเทียแห่งอเล็กซานเดรีย และ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก

เปิดอ่าน 15,808 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

เปิดอ่าน 17,078 ครั้ง
"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้
"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้

เปิดอ่าน 15,162 ครั้ง
การประยุกต์ใช้ ADSL
การประยุกต์ใช้ ADSL

เปิดอ่าน 10,180 ครั้ง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
วิธีใช้สายตาอย่างถูกต้อง
เปิดอ่าน 8,393 ครั้ง
อะโดบีเผยผลการศึกษาชี้ นักเรียนรุ่น Gen Z และครูในไทยมองว่าความคิดสร้างสรรค์คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
อะโดบีเผยผลการศึกษาชี้ นักเรียนรุ่น Gen Z และครูในไทยมองว่าความคิดสร้างสรรค์คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
เปิดอ่าน 33,196 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
เปิดอ่าน 16,253 ครั้ง
น้ำผึ้งจากดอกลำไย
น้ำผึ้งจากดอกลำไย
เปิดอ่าน 15,715 ครั้ง
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ