ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา)

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่องประเมิน : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา)

ชื่อผู้ประเมิน : นางสาวมนธิชา วงวิภาค

สถานศึกษา : โรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา)

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2

ปีที่ประเมิน : ปีการศึกษา 2564

การประเมินโครงการครั้งนี้ผู้ประเมินได้ใช้รูปแบบประยุกต์ของรูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP) ของแดเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (D.L. Stufflebeam) (พิสณุ ฟองศรี. 2553 : 84) ในการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินบริบทโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) 3) เพื่อประเมินกระบวนการโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) 4) เพื่อประเมินผลผลิตโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา)

กลุ่มตัวอย่างในการประเมินโครงการครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน ครูผู้สอน จำนวน 8 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 6 คน โดยคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) สำหรับผู้ปกครอง จำนวน 80 คน นักเรียน จำนวน 80 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้ตารางประมาณขนาดของกลุ่มตัวอย่างของเครจซีและมอร์แกน (Krejcie and Morgan) ของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ปีการศึกษา 2564 รวมทั้งสิ้น จำนวน 175 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม จำนวน 4 ฉบับ เป็นแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับของลิเคิร์ท (Likert’s Rating Scale)

ผลการประเมินโครงการสรุป ได้ดังนี้

1. ผลการประเมินด้านบริบทโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 คือ ผู้บริหารสถานศึกษากำหนดนโยบายชัดเจนในการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) อันดับที่ 2 คือ โรงเรียนสามารถบริหารจัดการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) ได้ตามวัตถุประสงค์ อันดับที่ 3 คือ โรงเรียนมีระบบการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) ชัดเจนและเหมาะสม

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 มีการกำหนดปฏิทินการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) อันดับที่ 2 ครูที่ปรึกษามีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ในภาระงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน อันดับที่ 3 งบประมาณเพียงพอต่อการจัดซื้อ วัสดุ ครุภัณฑ์ในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมตามโครงการสำหรับการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา)

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อันดับที่ 1 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีความชัดเจน และปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้ อันดับที่ 2 มีการใช้แบบเยี่ยมบ้านสัมภาษณ์ผู้ปกครองตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) อันดับที่ 3 มีการคัดกรองนักเรียนแยกกลุ่ม เป็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มมีปัญหา ในแต่ละห้องเรียน และภาพรวมของโรงเรียน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวัดวงฆ้อง(ราษฎร์สุริยศึกษา) ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าอันดับที่ 1 นักเรียนเข้าใจตนเองว่าเป็นคนอย่างไร ต้องการอะไร มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต อันดับที่ 2 นักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้านความประพฤติ ด้านการเรียน ด้านความปลอดภัย อันดับที่ 3 นักเรียนได้พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น ด้านการเรียน ความสามารถด้านดนตรี ด้านกีฬา

โพสต์โดย mon : [7 ก.พ. 2567 (09:44 น.)]
อ่าน [2840] ไอพี : 182.53.169.127
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,507 ครั้ง
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน

เปิดอ่าน 14,056 ครั้ง
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน

เปิดอ่าน 79,375 ครั้ง
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด

เปิดอ่าน 13,171 ครั้ง
ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป
ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป

เปิดอ่าน 62,887 ครั้ง
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"

เปิดอ่าน 13,901 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย

เปิดอ่าน 8,614 ครั้ง
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2

เปิดอ่าน 5,173 ครั้ง
พืชเศรษฐกิจ
พืชเศรษฐกิจ

เปิดอ่าน 49,217 ครั้ง
ความหมายของคำว่า แม่
ความหมายของคำว่า แม่

เปิดอ่าน 4,619 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 12,121 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน

เปิดอ่าน 10,239 ครั้ง
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น

เปิดอ่าน 31,751 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 26,196 ครั้ง
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 21,767 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!

เปิดอ่าน 23,853 ครั้ง
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า
เปิดอ่าน 11,087 ครั้ง
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
เปิดอ่าน 15,297 ครั้ง
ทำไมราคายางจึงร่วงหล่น?
ทำไมราคายางจึงร่วงหล่น?
เปิดอ่าน 33,012 ครั้ง
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
เปิดอ่าน 11,988 ครั้ง
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ
คลิปฮ็อต "พลเมืองดี" รุมล็อกตัวหนุ่มเขมรวิ่งราวมือถือสาวเกาหลี-ตบสั่งสอนกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ