|
Advertisement
|
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแก่น 2) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 3) เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และ 4) เพื่อศึกษาผลการพัฒนารูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้
เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น การดำเนินการวิจัย มี 4 ระยะ ประกอบด้วยระยะที่ ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยการวิเคราะห์สังเคราะห์องค์ประกอบและตัวชี้วัดจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยอาศัยการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 ท่าน ระยะที่ 2 ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของรูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 155 คน ระยะที่ 3 การพัฒนารูปแบบการพัฒนารูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยอาศัยการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 ท่าน และระยะที่ 4 ผลการพัฒนารูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยปรากฏดังนี 1. องค์ประกอบและตัวชี้วัดของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 33 ตัวชี้วัด ดังนี้ 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มี 8 ตัวชี้วัด 2) การคัดกรองนักเรียน มี 6 ตัวชี้วัด 3) การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน มี 7 ตัวชี้วัด 4) การป้องกัน
และแก้ไขปัญหานักเรียน มี 6 ตัวชี้วัด และ 5) การส่งต่อ มีตัวชี้วัด 2. สภาพปัจจุบัน ของรูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน รองลงมา คือ ด้านการส่งต่อ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การคัดกรองนักเรียน ตามลำดับ เมื่อพิจารณาสภาพที่พึงประสงค์ของรูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน รองลงมา คือ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล และข้อที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับครูในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ด้านการคัดกรองนักเรียนเรียงลำดับความต้องการจำเป็นได้ดังนี้ ด้านที่มีค่าความต้องการจำเป็น มากที่สุด คือ การคัดกรองนักเรียน(PNI = 0.35) รองลงมา การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล (PNI = 0.35) และข้อที่มีค่าความต้องการจำเป็นน้อยที่สุด คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน (PNI = 0.32) ตามลำดับ3. ผลการพัฒนารูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นได้องค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ 35 ตัวชี้วัด ดังนี้ 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มี 10 ตัวชี้วัด 2) การคัดกรองนักเรียน มี 6 ตัวชี้วัด 3) การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน มี 7 ตัวชี้วัด 4) การป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน มี 6 ตัวชี้วัด และ 5) การส่งต่อ เมื่อพิจารณผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด4. ผลการนำรูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ไปใช้พบว่าผลการดำเนินงานก่อนใช้อยู่ในระดับปานกลาง หลังใช้อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการประเมินระดับความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย เต้ย วิเศษชาติ : [7 มี.ค. 2567 (08:54 น.)] อ่าน [63317] ไอพี : 27.145.141.71
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,710 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,076 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,303 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,483 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,046 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,094 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,286 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,898 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,044 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,624 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 102,563 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,175 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 3,525 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,551 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,102 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 27,157 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 906 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,821 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 52,708 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,119 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|