ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุบลราชธา

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อศึกษาความต้องการในการส่งเสริมสร้างความสามารถการจัด

ประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริม

พลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของ

ครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 3) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบ

การนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์

สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ดำเนินการวิจัย

โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and development) กำหนดขั้นตอนดำเนินการวิจัยเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่1 ศึกษาความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์

สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย โดยใช้แบบสอบถามความต้องการจำเป็น กลุ่มตัวอย่างได้แก่ครูปฐมวัยสังกัดสำนักงาน

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ได้มาโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่

และมอร์แกน (Krejcie and Morgan)จำนวน 208คน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบและตรวจสอบรูปแบบการนิเทศด้วย

การสนทนากลุ่ม (Focus Group) โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษานำร่อง (Pilot Study) ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลัง

ครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของ

ครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ได้แก่ ครูปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3ผู้บริหารโรงเรียน

และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 2

ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนในเครือข่ายที่รับผิดชอบ เครือข่ายที่ 6 จำนวน 1 โรงเรียน และเครือข่ายที่ 8 จำนวน1 โรงเรียน

รวมจำนวน 2 โรงเรียน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลาก(Lottery) ได้แก่

ครูปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3จำนวน 2 คน ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 2 คน และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 55คน

รวมทั้งสิ้นจำนวน 59 คน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริม

ความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย สังกัดสำนักงาน

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ครูปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3ผู้บริหารโรงเรียน

และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 1

ปีการศึกษา 2565 จำนวน 5 อำเภอ อำเภอละ4 โรงเรียน รวม 20 โรงเรียน ได้มาจากการสมัครใจเต็มใจในการพัฒนาร่วมกัน

ได้แก่ครูปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 20 คน ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 20 คน และเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3

จำนวน 418 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 458 คน โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงทดลองแบบแผนการทดลองที่ใช้เป็นแบบ

(One-group pretest – posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูล มีทั้งหมด 7 ชนิดได้แก่

1)คู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2

2)แบบสอบถามความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมความสามารถการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

ของครูปฐมวัย3)แบบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของ

ครูปฐมวัย4)แบบประเมินความสามารถการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย

ด้านทักษะ5)แบบประเมินเจตคติที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของครูปฐมวัย6)แบบสอบถาม

ความพึงพอใจของผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัด

ประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

อุบลราชธานี เขต 27) แบบสังเกตพฤติกรรมความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยในการทำกิจกรรมการทดลอง

และโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้t-test (Dependent sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลศึกษาความต้องการในการส่งเสริมสร้างความสารถการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับ

เด็กปฐมวัยของครูปฐมวัยพบว่า ครูปฐมวัยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต2 มีความต้องการ

จำเป็นในการส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์เรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย

ในด้านความรู้เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับมาก(

−

X =4.39) และด้านทักษะ

เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับมาก(

−

X

=4.37)

2. ผลการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์

การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัยสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2

พบว่า รูปแบบการนิเทศแบบเสริมพลังครูร่วมคิดพาทำเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทาง

วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 มีทั้งหมด

6 องค์ประกอบ ได้แก่1) หลักการ2)วัตถุประสงค์3) กระบวนการนิเทศ มี 7 ขั้นตอน (Co -7STEP Model) ดังนี้ ขั้นที่ 1

ร่วมสร้างแรงจูงใจ(Co -Motivation) ขั้นที่ 2 ร่วมสร้างความเข้าใจ (Co - Understanding)ขั้นที่ 3ร่วมวางแผนการนิเทศ

(Co -Planning) ขั้นที่ 4 ร่วมเรียนรู้ความสัมพันธ์อย่างเข้าถึง (Co - learning and Connecting)ขั้นที่ 5 ร่วมคิดร่วมพัฒนา

(Co -Development Activities)ขั้นที่ 6 ร่วมสะท้อนและสรุปผล (Co-Reflection and Summarization) ขั้นที่ 7 ร่วมชื่นชมและ

ให้กำลังใจ(Co -Proudly) 4)การวัดและประเมินผล5) ระยะเวลาการนิเทศ6) ปัจจัยความสำเร็จและผลการประเมินรูปแบบ

การนิเทศด้วยการสนทนากลุ่ม (Focus Group)ของผู้เชี่ยวชาญและการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบนิเทศโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า

รูปแบบการนิเทศที่พัฒนาขึ้น มีความถูกต้องเหมาะสม เป็นได้ในการปฏิบัติและเป็นประโยชน์เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก

ทุกด้าน (

−

X =4.34) ดังนี้ ด้านความถูกต้องชัดเจน (

−

X =4.25 ) ด้านความเหมาะสม (

−

X = 4.49) ด้านความเป็นไปได้

(

−

X = 4.32 )และด้านความเป็นประโยชน์(

−

X =4.33

โพสต์โดย Dr.ning : [4 ก.ค. 2567 (23:13 น.)]
อ่าน [1224] ไอพี : 27.145.120.126
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,294 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"

เปิดอ่าน 15,876 ครั้ง
โรคตาแดง
โรคตาแดง

เปิดอ่าน 13,900 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ

เปิดอ่าน 30,275 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 141,705 ครั้ง
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์

เปิดอ่าน 12,266 ครั้ง
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"

เปิดอ่าน 17,437 ครั้ง
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?

เปิดอ่าน 18,494 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา

เปิดอ่าน 16,616 ครั้ง
บทความพิเศษ "เมื่อระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว"
บทความพิเศษ "เมื่อระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว"

เปิดอ่าน 11,082 ครั้ง
คลิปสะเทือนวงการข่าว! "เตเต้-ปันปัน" นร.ศรีสะเกษ สวมบทผู้ประกาศ เป๊ะ ปังมาก
คลิปสะเทือนวงการข่าว! "เตเต้-ปันปัน" นร.ศรีสะเกษ สวมบทผู้ประกาศ เป๊ะ ปังมาก

เปิดอ่าน 23,211 ครั้ง
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?
สเตียรอยด์ (Steroids) คืออะไร ?

เปิดอ่าน 31,341 ครั้ง
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 114,041 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal):  กติกาข้อ 8  ระยะเวลาของการแข่งขัน
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน

เปิดอ่าน 64,606 ครั้ง
กฏอัยการศึก ถูกประกาศใช้มาแล้ว 8 ครั้ง ประกาศโดย ผบ.ทบ.และสถานการณ์ใดบ้าง
กฏอัยการศึก ถูกประกาศใช้มาแล้ว 8 ครั้ง ประกาศโดย ผบ.ทบ.และสถานการณ์ใดบ้าง

เปิดอ่าน 7,751 ครั้ง
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่

เปิดอ่าน 11,386 ครั้ง
5 วิธีดี ๆ ที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก
5 วิธีดี ๆ ที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก
เปิดอ่าน 9,125 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
เปิดอ่าน 4,896 ครั้ง
วิธีกำจัดแมลงเม่า
วิธีกำจัดแมลงเม่า
เปิดอ่าน 70,259 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
เปิดอ่าน 16,121 ครั้ง
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ