|
Advertisement
|
การนิเทศภายในสถานศึกษาด้วยวิธีการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นกัลยาณมิตร ด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1)เพื่อศึกษาพัฒนาการสอนของครูระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้และระดับโรงเรียน ระหว่างภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 2) เพื่อศึกษาผลการนิเทศการสอนผ่านวิธีการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นกัลยาณมิตร 3) เพื่อสร้างคู่มือการนิเทศผ่านวิธีการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นกัลยาณมิตร กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา คือ ครูทุกคนในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี จำนวน 147 คน ศึกษาในระหว่างเดือนพฤษภาคม 2565 กุมภาพันธ์ 2566 โดยใช้วิธีการ/รูปแบบการนิเทศแบบมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations Supervision) และการทำงานร่วมกันของผู้เกี่ยวข้อง เช่น ในกลุ่มสาระเดียวกันหรือกลุ่มงานเดียวกัน การแนะนำและการสร้างกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) โดยการนิเทศการสอน(การเยี่ยมชั้นเรียน) และการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในสถานศึกษา ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการนิเทศการสอนของครูระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยภาคเรียนที่ 2 สูงกว่าภาคเรียนที่ 1 มีจำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพ และกลุ่มงานแนะแนว และผลการนิเทศการสอนของครูระดับโรงเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 มีคะแนนเฉลี่ย 4.81 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.23 ซึ่งมากกว่าภาคเรียนที่ 1 ที่มีคะแนนเฉลี่ย 4.80 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.27 2) ผลการนิเทศการสอนของครูระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ย 4.50 (ดีเยี่ยม) ขึ้นไป ในภาคเรียนที่ 1 มีจำนวน 8 กลุ่มสาระ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพ และภาษาต่างประเทศ คิดเป็นร้อยละ 88.89 ส่วนในภาคเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ย 4.50 (ดีเยี่ยม) ขึ้นไปมีทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 100 และผลการนิเทศของครูในภาพรวมระดับโรงเรียนมีคะแนนเฉลี่ยภาคเรียนที่ 2 สูงกว่าภาคเรียนที่ 1 และทั้ง 2 ภาคเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า 4.50 (ดีเยี่ยม) คิดเป็นร้อยละ 100 และ 3) โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำคู่มือการนิเทศผ่านวิธีการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วมอย่างเป็นกัลยาณมิตร ตามขั้นตอนและวิธีการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กำหนด จากผลการนิเทศการสอนของครูระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยภาคเรียนที่ 2 สูงกว่าภาคเรียนที่ 1 มีจำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมากยิ่งขึ้น และจากการนิเทศที่ใช้เทคนิคการสร้างมนุษยสัมพันธ์หรือการเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน มีการพูดคุยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน และที่สำคัญคือการสะท้อนผลการนิเทศผ่านชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ด้วย ซึ่งถือว่าเทคนิคและวิธีการดังกล่าวช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ถึงแม้การพัฒนาไม่ได้เกิดขึ้นทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวมระดับโรงเรียนแล้วนั้น พบว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้น เป็นไปตามที่ ภัณฑิรา สุปการ (2557) ได้ศึกษาและสรุปว่า รูปแบบการนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ที่เน้นมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศที่สามารถทำงานร่วมกันได้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ผู้นิเทศอาจจะเป็นผู้แนะนำ ชี้แนะ ให้คำปรึกษากับผู้รับการนิเทศและอาจจะต้องรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้รับการนิเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยคำนึงถึง บริบท สถานการณ์ และจุดมุ่งหมายที่จะต้องทำการนิเทศการศึกษาด้วย ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1. ควรศึกษาเทคนิควิธีการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศเพิ่มเติม 2. ในขั้นตอนการดำเนินการจัดตารางนิเทศ หรือการลงข้อมูลผู้นิเทศให้แก่ผู้รับการนิเทศ ควรกำหนดข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับการจับคู่นิเทศให้อะเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น และ 3. ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ควรได้รับโอกาสจากฝ่ายบริหารในการนิเทศการสอน
|
โพสต์โดย กัณญภัทธ พลพาล : [28 ส.ค. 2567 (14:44 น.)] อ่าน [61282] ไอพี : 125.25.40.176
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,407 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,445 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,655 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 453,545 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,853 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,118 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 48,639 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,871 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,871 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,389 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,101 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,425 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,708 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,984 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,824 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 1,040 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,839 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,266 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,968 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,884 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|