ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำเพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ ของสถานศึกษา ยิ้มง่าย ไหว้สวย กราบงาม เป็น Soft Power โดยใช้ WATPRACHA MODEL ”

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติถือว่า ทรัพยากรมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดกว่าบรรดาทรัพยากรทุกอย่างคือ การศึกษาถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำมนุษย์ไปบรรลุสู่เป้าหมาย

และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และความในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ปีพุทธศักราช 2542 หมวดที่ 1 กล่าวถึงความมุ่งหมายและหลักการสำคัญของการจัดการศึกษาให้เป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยบูรณการมาตรฐานการจัดการเรียนรู้การวัดและการประเมินผลที่เหมาะสม ตลอดการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ตลอดชีวิต (ระพีพัฒน์ หาญโสภา และคณะ, 2563) ล่าสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจ

และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 (2555 – 2559) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาคนไว้ว่า “ยุทธศาสตร์

การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน มุ่งเตรียมคนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพคนไทยทุกช่วงวัยให้มีภูมิคุ้มกันเพื่อเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเสริมสร้างศักยภาพของคนในทุกมิติให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงมีสติปัญญาที่รอบรู้ และมีจิตใจที่สำนึกในคุณธรรม จริยธรรม มีความเพียร และรู้คุณค่าความเป็นไทยมีโอกาสและสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิต ควบคู่กับการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในสังคม และสถาบันทางสังคมให้เข้มแข็งและเอื้อต่อการพัฒนาคน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน

ให้คนในชุมชน และเป็นพลังทางสังคมในการพัฒนาประเทศ” (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546)โดยสถานศึกษา

ให้การสนับสนุนการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสอดแทรกเข้าไปในกระบวนการเรียนรู้ให้เด็กพึ่งตนเอง จนสามารถเป็นที่พึ่งของคนอื่นในสังคมต่อไป (เกียรติศักดิ์ สุทธิ และคณะ, 2563)

โรงเรียนวิถีพุทธเป็นโรงเรียนที่มีรูปแบบที่จะช่วยผลักดันให้เด็กและเยาวชน สามารถพัฒนาตนตามศักยภาพให้เป็นคนดีของสังคม และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไร้ขีดจำกัดในขณะนี้ ซึ่งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทยได้รับการกล่อมเกลาจากคำสอนของพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ยุคแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย จนกล่าวได้ว่า วิถีพุทธคือ วิถีวัฒนธรรมของชาวไทยส่วนใหญ่ จนมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกตระหนักและเกิดการยอมรับ ด้วยคุณค่าอันอนันต์ขององค์ความรู้ในพุทธธรรมและระบบไตรสิกขาที่ชัดเจนในการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีวินัยเป็นผู้ปฏิบัติตนตามระเบียบ กฎเกณฑ์ และข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน (บุญส่ง ทองเอียง, 2563)หน่วยงานการศึกษาจึงมีแนวคิดที่ส่งเสริม สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา

ส่งเสริมและประสานงานการศาสนานำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามาจัดการการศึกษาของพุทธธรรม วิถีพุทธ

ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 31 กระทรวงมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและกำกับดูแลการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และการอาชีวศึกษา แต่ไม่รวมถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอื่น ที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ กำหนดนโยบาย

แผนและมาตรฐานการศึกษาสนับสนุนทรัพยากร เพื่อการศึกษาส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการกีฬา ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษา รวมทั้งการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล

การจัดการศึกษา และราชกาอื่น ๆ ตามที่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงหรือส่วนราชการ

ที่สังกัดกระทรวง เพื่อสนับสนุนนักเรียนในสถานศึกษาให้เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคม

และประเทศชาติ(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562, 2562) เห็นได้ว่า โรงเรียนวิถีพุทธ

จึงต้องมีแนวทางส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมที่เป็นระบบและชัดเจนให้ผู้เรียนเป็นคนดีโรงเรียนวิถีพุทธเป็นโรงเรียน

ที่ดำเนินการพัฒนาการผู้เรียนโดยใช้หลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นการสร้างกติกาหรือวินัยทั้งพฤติกรรมทางกาย และวาจา เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และจิตสำนึก (พระมหาโยธิน โยธิโก และคณะ, 2563)

เป็นการพัฒนาตามหลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมให้เกิดความเจริญงอกงามตามลักษณะแห่งปัญญาวุฒิธรรมให้เกิดขึ้น

กับผู้เรียนโดยมีผู้บริหาร ครู พระภิกษุและชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนให้บรรลุตามเจตนารมณ์โดยระยะแรกมีโรงเรียน

เข้าร่วมโครงการเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 จำนวน 80 โรงเรียน ซึ่งมีทั้งระดับประถม มัธยมศึกษากระจาย

อยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ นับถึงปัจจุบันมีจำนวนถึง 22,796 โรงเรียน (โรงเรียนวิถีพุทธ, 2563) และยังมี

การพัฒนายกระดับเป็นโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ จำนวน 10 รุ่นและวิถีพุทธพระราชทาน จำนวน 3 รุ่น

ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ และคณะทำงานได้ไปกราบขอคำแนะนำเรื่องการจัดโรงเรียนวิถีพุทธจากพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2547) มีพระภิกษุและฆราวาส ผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมประชุม ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับหลักสำคัญของการจัดโรงเรียนวิถีพุทธคือ กรอบความคิดแบบโรงเรียนวิถีพุทธให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ กำหนดให้คุณสมบัติของการเป็นคนดี เก่ง มีความสุขอย่างแท้จริง (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2543) รวมถึงการฝึกความรับผิดชอบต่อสังคมด้านจริยธรรมของนักเรียน

เช่น 1) มุมมองที่ถือเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ 2) มุมมองบทบาทและหน้าที่ 3) มุมมอง ค่านิยมในการเป็นคนดี และ 4) มุมมองการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม (พัชฎาภรณ์ กลับส่ง รัตนบุรี และคณะ, 2563) เพื่อให้สอดคล้องนโยบายตามความมุ่งหมายและหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่กล่าวไว้ว่า

การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้

และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข จะเห็นได้ว่า

มีความสอดคล้องกับเป้าหมายโดยแท้ของพุทธธรรมโดยผ่านการดำเนินงานของโรงเรียนวิถีพุทธ โดยมีการบริหาร

ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ซึ่งจะเป็นแนวทางให้ผู้บริหาร ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง

ใช้ในการจัดกิจกรรมหรือจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเป็นรูปแบบการบริหารโรงเรียน

วิถีพุทธ (กรกมล หนูจันทร์ และคณะ, 2561)ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา

ของประเทศไทยโดยเริ่มจากกระแสการปฏิรูปการศึกษา ที่ได้รับความร่วมมือทั้งในภาครัฐและเอกชนปรับระบบการเรียนการสอนให้มีความหลากหลายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ได้รับการกล่อมเกลาจากคำสอนของพระพุทธศาสนาตั้งแต่ยุคแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย จนกล่าวได้ว่าวิถีพุทธคือ วิถีวัฒนธรรมของชาวไทยส่วนใหญ่ จนมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกตระหนักและให้การยอมรับ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546) พุทธธรรมหรือพุทธศาสตร์เป็นองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้ศึกษาเข้าใจธรรมชาติของโลกและชีวิตที่แท้จริงและฝึกฝนให้ผู้ศึกษาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (พระธรรมปิฏก

(ป.อ. ปยุตฺโต), 2546)ดังนั้น การศึกษาทำให้มนุษย์เกิดความรู้และพัฒนาตนได้แล้ว ยังสามารถเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศอีกด้วย เพราะหากประเทศมีการส่งเสริมการศึกษาที่ถูกทิศทาง ตลอดมีการวางแผนผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพย่อมทำให้ประเทศมีต้นทุนของทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการร่วมกันสร้างประเทศให้มีความเจริญก้าวไกล ในการปฏิรูปการศึกษาตามหลักวิถีพุทธเป็นการเปิดมุมมองหรืออีกมิติหนึ่งของการศึกษา โดยจะนำหลักการวิธีการทางพระพุทธศาสนามาอธิบายและประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการศึกษาและสังคมไทยในศตวรรษที่ 21 เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการศึกษาให้เกิดความสำเร็จและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

รวมถึงสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามความต้องการของสังคมโดยผ่านกระบวนการศึกษาแบบพุทธบูรณาการ พระอนุสรณ์ กิตฺติวณฺโณ (เรืองปัญญารัตน์), 2561)

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าสนใจและเห็นความสำคัญของการศึกษาแนวคิดการดำเนินงาน

โรงเรียนวิถีพุทธในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ เพื่อพัฒนาจรรยาบรรณครูผู้สอน

และพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนเป็น Soft Power ผู้เรียน ให้เป็นคน ดี เก่ง และมีความสุข

เรียนดี มีความสุข โดยใช้ WATPRACHA Model เพื่อพัฒนาการศึกษาให้อย่างยั่งยืนต่อไป

โพสต์โดย ติ๊ก : [26 ก.พ. 2568 (10:34 น.)]
อ่าน [59913] ไอพี : 125.27.214.143
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 257,445 ครั้ง
สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร
สารปรุงแต่งอาหารและสารพิษในอาหาร

เปิดอ่าน 52,713 ครั้ง
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี
เเนะ 7 วิธีมี "เงินเก็บ" เพิ่มมากขึ้นภายใน 1 ปี

เปิดอ่าน 12,184 ครั้ง
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค

เปิดอ่าน 20,122 ครั้ง
ผักกระเฉด
ผักกระเฉด

เปิดอ่าน 12,946 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : เด็กจะกระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียนเมื่อใด......ภาพนี้มีคำตอบ
ตูนส์ศึกษา : เด็กจะกระตือรือร้นและมีความสุขในการเรียนเมื่อใด......ภาพนี้มีคำตอบ

เปิดอ่าน 18,778 ครั้ง
การจับจอภาพโดยใช้ความสามารถ Clipboard
การจับจอภาพโดยใช้ความสามารถ Clipboard

เปิดอ่าน 13,785 ครั้ง
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ

เปิดอ่าน 17,630 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 24,446 ครั้ง
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"
หมอเตือนอย่ากิน"แมลงทอด"กับ"เหล้า-เบียร์"

เปิดอ่าน 22,880 ครั้ง
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล

เปิดอ่าน 21,820 ครั้ง
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?
รู้ไว้ใช่เสียหาย "กัญชง" ต่างจาก "กัญชา" อย่างไร?

เปิดอ่าน 13,557 ครั้ง
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต

เปิดอ่าน 36,581 ครั้ง
xDSL คืออะไร?
xDSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 51,562 ครั้ง
เทคนิคเก่งอังกฤษ
เทคนิคเก่งอังกฤษ

เปิดอ่าน 21,790 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 3,998 ครั้ง
8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ
8 วิธี กินปลอดภัย ป้องกันอาหารติดคอ
เปิดอ่าน 2,586 ครั้ง
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า
เปิดอ่าน 17,086 ครั้ง
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 3,075 ครั้ง
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
เปิดอ่าน 31,511 ครั้ง
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ