ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามรถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริม

ความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1

ผู้รายงาน นางสาวบุญบุษกร รอดคง

ปี 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมืองสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันเกี่ยวกับความสามารถด้านการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 2) เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อทดลองรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่สร้างขึ้นมาใช้ในการศึกษาคือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test Dependent)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันเกี่ยวกับความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 พบว่า

1.1 ผลการวิเคราะห์สภาพผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test: RT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 พบว่า ผลการประเมินด้านการอ่านออกเสียงเรื่องมาตราตัวสะกด และการอ่านรู้เรื่องประโยคและข้อความ ต่ำกว่าด้านอื่นๆ นอกจากนี้ ผลการเรียนรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในปีการศึกษา 2565 มีค่าเฉลี่ย ร้อยละ 78.33 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนตั้งไว้ที่ร้อยละ 80.00

1.2 สภาพปัจจุบันเกี่ยวกับในการจัดการเรียนการสอนและปัญหาที่เกิดขึ้นของผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ครูผู้สอนผู้เข้าร่วมงานวิจัยครั้งนี้ ร้อยละ 80 จบการศึกษาไม่ตรงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ครูมีประสบการณ์สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระหว่าง 1-5 ปี ร้อยละ 80 และสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นของผู้สอน ทั้ง 4 ด้าน พบว่า ด้านที่ 3 ด้านเทคนิคการจัดการเรียนรู้ มีปัญหามากที่สุด

2. ผลการสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 มีประสิทธิภาพ 81.93/80.83 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. สรุปผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต พบว่าคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดบันไดอ่าน 5 ขั้น เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 พบว่ามี ความพึงพอใจ คิดเป็นค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.93 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.07 หมายถึงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย บุ : [11 เม.ย. 2568 (12:14 น.)]
อ่าน [64198] ไอพี : 1.47.19.198
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,797 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม

เปิดอ่าน 14,804 ครั้ง
ขั้วโลกเหนือจะหมดสิ้นทะเลน้ำแข็ง ใน 20-30 ปีหน้า
ขั้วโลกเหนือจะหมดสิ้นทะเลน้ำแข็ง ใน 20-30 ปีหน้า

เปิดอ่าน 2,789 ครั้ง
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS

เปิดอ่าน 15,467 ครั้ง
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google

เปิดอ่าน 14,795 ครั้ง
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย

เปิดอ่าน 256 ครั้ง
Invoice คืออะไร? ใช้เมื่อไรและต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
Invoice คืออะไร? ใช้เมื่อไรและต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 88,956 ครั้ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง

เปิดอ่าน 12,775 ครั้ง
ชมคลิป ยอดคุณพ่อเวียดนามจับลูกใส่ถุงพลาสติก พาลุยน้ำท่วมไปโรงเรียน
ชมคลิป ยอดคุณพ่อเวียดนามจับลูกใส่ถุงพลาสติก พาลุยน้ำท่วมไปโรงเรียน

เปิดอ่าน 9,622 ครั้ง
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา

เปิดอ่าน 20,687 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1

เปิดอ่าน 34,808 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548

เปิดอ่าน 1,047 ครั้ง
"ร้านขายยาใกล้ฉัน" ตัวช่วยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามในยุคดิจิทัล
"ร้านขายยาใกล้ฉัน" ตัวช่วยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 33,087 ครั้ง
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน

เปิดอ่าน 16,456 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 24,618 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม

เปิดอ่าน 10,124 ครั้ง
มหัศจรรย์อาหารไทย
มหัศจรรย์อาหารไทย
เปิดอ่าน 9,721 ครั้ง
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
กรมวิทย์ยัน ตรวจขวดน้ำพลาสติกทิ้งกลางแดดร้อน ไม่พบสารพิษไดออกซิน
เปิดอ่าน 9,515 ครั้ง
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
เปิดอ่าน 17,801 ครั้ง
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย
"อะเจย์ ปุริ" เด็กอัจฉริยะไอทีระดับโลกในเมืองไทย
เปิดอ่าน 10,915 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ