๑. ชื่อผลงานที่เป็นแบบอย่างที่ดี
การพัฒนาทักษะ EF ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๒. วัตถุประสงค์
๑.เพื่อส่งเสริมทักษะ EF ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๒.เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ผ่านกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์
๓.เพื่อพัฒนาให้เด็กมีทักษะพื้นฐานด้านการสังเกต การคิดวิเคราะห์ และการค้นหาคำตอบผ่าน กระบวนการทดลองที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง
๓. กระบวนการดำเนินงาน
ปฏิบัติครบวงจรโดยประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง PDCA มีวิธีการดำเนินงานอย่างชัดเจน ดังต่อนี้
ขั้นที่ ๑ Plan = P
๑. กำหนดเป้าหมาย การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ EF ด้วยกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนระดับอนุบาล 3 ร่างกิจกรรมพัฒนาทักษะ EF เพื่อเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้เรียนสามารถรับรู้ข้อมูลได้ผ่านการมองเห็น ช่วยให้ผู้เรียนเกิดทักษะ กระบวนการคิด ตีความ เปรียบเทียบ สรุป และเชื่อมโยงข้อมูลความรู้เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดความเข้าใจ สาระสำคัญของข้อมูลได้ง่าย
๒. การวางแผนการทำงาน ดำเนินการโดยวิเคราะห์สภาพการจัดประสบการณ์การ เรียนรู้ศึกษาหลักสูตรปฐมวัย สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และตัวบ่งชี้ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านของเด็กปฐมวัย ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง วางแผนการผลิตสื่อ โดยกำหนด จุดมุ่งหมาย และรูปแบบของสื่อให้เหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก
๓. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรม
ขั้นที่ ๒ Do = D
๔. ลงมือปฏิบัติงานตามแผน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ EF ด้วยกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ การดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จผ่านนักเรียนระดับปฐมวัย ลงสู่การปฏิบัติผ่านโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ดังนี้
ทักษะพื้นที่ฐาน
-ความจำเพื่อใช้งาน(Working Memory) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์เดิม นำมาวิเคราะห์ ค้นหาคำตอบกับ คำถามใหม่ๆ หรือสิ่งเด็กสนใจ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในชั้นเรียน
-การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory ControI) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เด็กๆจะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันใน การทดลอง และปฏิบัติตามขั้นตอนในการทดลองวิทยาศาสตร์
-การยืดหยุ่นความคิด (Shift/Cognitive Flexibility) ในการเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กๆจะได้เรียนรู้การเปรียบเทียบและเด็กๆจะต้อง ยอมรับฟังความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่ได้จากเพื่อนๆ หรือจากการทดลองค้นคว้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทดลอง ทักษะกำกับตนเอง
-การจดจ่อใส่ใจ (Focus/Attention) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เด็ก ๆ จะได้ทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการ ทดลอง การสังเกต ดังนั้นเด็กๆ จะได้ฝึกฝนในการจดจ่อ ใส่ใจ เพื่อไม่ให้เสียสมาธิในการทำกิจกรรม
-การควบคุมอารมณ์(Emotional Control) การเรียนรู้ร่วมกัน การทำงานร่วมกัน ทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ที่ควบคุมอารมณ์และความต้องการของ ตนเอง
-การติดตามประเมินตนเอง (Self-Monitoring) การทำงานหรือสร้างสรรค์ชิ้นงานของเด็ก ๆ และพัฒนาชิ้นงานจนเป็นที่พอใจ ทักษะปฏิบัติ
-การริเริ่มและลงมือทำ(lnitiating) การวางแผนจัดระบบดำเนินการ (Planning and Organizing)และ การมุ่งเป้าหมาย (Goal-Directed Persistence) การเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้เด็กริเริ่ม วางแผน และลงมือทดลอง เปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเอง จนเกิดผลสรุปการทดลอง
โดยมีขั้นตอนการจัดประสบการณ์ดังนี้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (10 นาที)
- ทบทวนความรู้เดิมด้วยเกมหรือเพลงที่สนุกสนาน
- กระตุ้นความสนใจด้วยคำถามหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ขั้นสอน (30 นาที)
- ครูแนะนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองวิทยาศาสตร์
- ครูสาธิตการทดลองทางวิทยาศาสตร์
- นักเรียนทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นกลุ่ม และรายบุคคล
ขั้นสรุป (10 นาที)
- ทบทวนกิจกรรมทางวิทศาสตร์ที่ได้เรียนในแต่ละครั้ง
- ประเมินความเข้าใจด้วยการสังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมและผลงานที่เด็กสร้าง
ขึ้น
- นิเทศการสอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
- ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและแก้ไขปัญหา
- บันทึกปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาและปรับปรุงในอนาคต
ทักษะพื้นที่ฐาน
-ความจำเพื่อใช้งาน(Working Memory) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์เดิม นำมาวิเคราะห์ ค้นหาคำตอบกับ คำถามใหม่ๆ หรือสิ่งเด็กสนใจ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในชั้นเรียน
-การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory ControI) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เด็กๆจะต้องทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันใน การทดลอง และปฏิบัติตามขั้นตอนในการทดลองวิทยาศาสตร์
-การยืดหยุ่นความคิด (Shift/Cognitive Flexibility) ในการเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เด็กๆจะได้เรียนรู้การเปรียบเทียบและเด็กๆจะต้อง ยอมรับฟังความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่ได้จากเพื่อนๆ หรือจากการทดลองค้นคว้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทดลอง ทักษะกำกับตนเอง
-การจดจ่อใส่ใจ (Focus/Attention) การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เด็ก ๆ จะได้ทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการ ทดลอง การสังเกต ดังนั้นเด็กๆ จะได้ฝึกฝนในการจดจ่อ ใส่ใจ เพื่อไม่ให้เสียสมาธิในการทำกิจกรรม
-การควบคุมอารมณ์(Emotional Control) การเรียนรู้ร่วมกัน การทำงานร่วมกัน ทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ที่ควบคุมอารมณ์และความต้องการของ ตนเอง
-การติดตามประเมินตนเอง (Self-Monitoring) การทำงานหรือสร้างสรรค์ชิ้นงานของเด็ก ๆ และพัฒนาชิ้นงานจนเป็นที่พอใจ ทักษะปฏิบัติ
-การริเริ่มและลงมือทำ(lnitiating) การวางแผนจัดระบบดำเนินการ (Planning and Organizing)และ การมุ่งเป้าหมาย (Goal-Directed Persistence) การเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้เด็กริเริ่ม วางแผน และลงมือทดลอง เปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเอง จนเกิดผลสรุปการทดลอง
ขั้นที่ ๓ Check = C
๕. ตรวจสอบประเมินผล การเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ และแบบสังเกตพฤติกรรมเด็ก แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครอง โดยการนำผลประเมินดำเนินกิจกรรมไป แก้ไข ปรับปรุง พัฒนา และต่อยอดเป็นกิจกรรมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
ขั้นที่ ๔ Action = A
๖. ปรับปรุงพัฒนาและเผยแพร่ผลงานการดำเนินงาน เพื่อสร้างเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงานให้เกิดความยั่งยืนผ่านช่องทางต่าง ๆ การศึกษาดูงานโรงเรียนที่จัดประสบการณ์โดยใช้กระบวนการ EFศึกษาความสามารถที่ส่งเสริมทักษะทางสมอง EF (Executive Function) ของเด็กปฐมวัย จากกิจกรรมอื่น
ภายใต้กรอบการดำเนินงาน (IPO)
Input ๑) หลักสูตร ๒)ทฤษฎี ๓) ขั้นตอนการสอนโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
Process ๑) การทดลองทางวิทยาศาสตร์
Output ๑)พัฒนาการทักษะ EF ของเด็กปฐมวัยดีขึ้น
๔. การประเมินผล
จากการพัฒนาวิธีปฏิบัติแบบอย่างที่ดี (Best Practice) โดยการประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง (Deming Cycle) ภายใต้กระบวนการ PDCA นั้น การพัฒนาทักษะ EF ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เมื่อนำไปจัดประสบการณ์การเรียนรู้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย พบว่า มีพัฒนาการดีขึ้น
๕. ผลการดำเนินงานที่ส่งผลที่ดีต่อผู้เรียน
- เด็กปฐมวัยมีทักษะ EF ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๖. ปัจจัยหรือสิ่งสนับสนุนที่ให้เกิดความสำเร็จ
ปัจจัยภายใน
- ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วนฝ่ายตั้งแต่ผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาทักษะ EF ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- ครูและบุคลากรเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ยอมรับ คำเสนอแนะชี้แนะจากชุมชน
- ผู้บริหารสถานศึกษานิเทศ กำกับ ติดตาม การทำงานอย่างเป็นระบบ ดำเนินการตามแผน
การนิเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ปัจจัยภายนอก
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๓ โดยกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาเข้ามาให้คำแนะนำสำหรับการใช้สื่อจัดการเรียนการสอน
-ชมรมครูปฐมวัยระดับเครือข่าย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัฒกรรมการสอนและเผยแพร่ผลงาน
-ชมรมครูปฐมวัยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๓ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัฒกรรมการสอนและเผยแพร่ผลงาน
๗. ชื่อบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่ให้การยอมรับ
เครือข่ายโรงเรียนซับใหญ่ เครือข่ายโรงเรียนอำเภอซับใหญ่
๘. การเผยแพร่แบบอย่างที่ดี
สถานศึกษามีการเผยแพร่ผลงานผ่านเว็บไซต์ครูบ้านนอก.คอม เพจ สพป.ชัยภูมิ เขต ๓ ในเพจเฟซบุ๊กโรงเรียนบ้านบุฉนวน สพป.ชย.3 จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ โรงเรียนบ้านบุฉนวน แจ้งข่าวสาร ทางไลน์กลุ่มผู้ปกครอง และโรงเรียนบ้านโนนสะอาด เข้ามาศึกษาดูงานและนำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทักษา EF โดยการสัมภาษณ์ สอบถาม พบว่า นักเรียนระดับปฐมวัยโรงเรียนบ้านโนนสะอาดมีทักษะ EF สูงขึ้น