|
Advertisement
|
ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง การศึกษาก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและพัฒนาการของสมองมนุษย์ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการเรียนรู้ ไม่ใช่เพียงแค่การฟังหรือท่องจำเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ (Bonwell & Eison, 1991)ในบริบทของการศึกษาไทย การจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุกมีความสำคัญเนื่องจากช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการทำงานร่วมกันของนักเรียน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2561) นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้และความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเอง (Prince, 2004)การใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุกยังช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการทางด้านความคิดสร้างสรรค์และการสื่อสารที่ดีขึ้น รวมทั้งช่วยลดความเบื่อหน่ายและเพิ่มความสนุกสนานในการเรียนรู้ (Michael, 2006) ด้วยเหตุนี้ การจัดการเรียนรู้เชิงรุกจึงเป็นแนวทางที่สำคัญในการพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศไทยที่มีบทบาทสำคัญในการอบรมจิตใจ สร้างคุณธรรม และแนวทางการดำเนินชีวิตแก่ประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การเรียนการสอนพระพุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมซึ่งตรงกับมาตฐานตัวชี้วัดส 1.1 ป.4/2 สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีงามแก่ผู้เรียนสาระสำคัญประการหนึ่งของวิชาพระพุทธศาสนา คือเรื่องราวพุทธประวัติ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่การประสูติ การตรัสรู้ ปฐมเทศนา จนถึงปรินิพพาน รวมถึงหลักธรรมที่แฝงอยู่ในแต่ละเหตุการณ์ การเรียนรู้พุทธประวัติไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้แบบอย่างการดำเนินชีวิตที่มีคุณธรรม เช่น ความเพียร ความเมตตา ความเสียสละ และความกตัญญู
การจัดการเรียนรู้โดยใช้ แนวคิดสมองเป็นฐาน (Brain-based Learning: BBL) เป็นแนวทางหนึ่งที่ตอบสนองต่อการพัฒนาสมองของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง มีการใช้ประสาทสัมผัสหลายด้าน เช่น การฟัง การมองเห็น การเคลื่อนไหว การเชื่อมโยงข้อมูลกับอารมณ์ ความสนุก และบริบทที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง นอกจากนี้ยังมีหลักการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวงจรการทำงานของสมอง เช่น การเตรียมสมองให้พร้อมก่อนเรียน (Preparation) การลงมือเรียนรู้ (Engagement) และการสะท้อนผล (Reflection)อีกทั้งการใช้ สื่อเทคโนโลยี OBEC Content Center ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรทางการเรียนรู้ดิจิทัลที่พัฒนาโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังช่วยเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ให้มีความหลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น เกม เปิดแผ่นป้ายพุทธประวัติ สื่อวิดีโอประกอบเสียง ภาพอินโฟกราฟิก ฯลฯ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความตื่นตัวในการเรียนรู้ มีความเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และสามารถจดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผู้เรียนจำนวนหนึ่งมีความเข้าใจในเนื้อหาพุทธประวัติไม่ลึกซึ้ง จำได้เพียงบางตอน และขาดความเชื่อมโยงกับชีวิตจริง อีกทั้งยังขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ เนื่องจากวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการบรรยายหรือท่องจำ ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการเรียนรู้ของเด็กในศตวรรษที่ 21จากที่กล่าวมาข้างต้นครูผู้สอนได้เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ศึกษานวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน โดยเลือกใช้กระบวนการสอน 5 ขั้นแบบ Brain-based Learning (BBL) ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ขั้น ได้แก่ขั้นอุ่นเครื่อง (Warm-up) เพื่อกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ขั้นนำเสนอความรู้ (Presentation) โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจขั้นลงมือเรียนรู้-ฝึกทำ-ฝึกฝน (Practice) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทดลองใช้ความรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆขั้นสรุปความรู้ (Summary) โดยฝึกซ้ำในส่วนที่ทำผิดและสรุปความรู้ร่วมกับนักเรียนขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (Application) ให้นักเรียนนำความรู้ไปสร้างสรรค์และประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ ๆใหม่ๆ (บริษัทธารปัญญา จำกัด, 2562 :2-3)
ดังนั้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พุทธประวัติ โดยใช้กระบวนการสอน 5 ขั้นของ Brain-based Learning (BBL)ร่วมกับการใช้สื่อเทคโนโลยี (OBEC Content Center) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
|
โพสต์โดย kwang : [12 ก.ค. 2568 (17:32 น.)] อ่าน [57456] ไอพี : 171.5.235.227
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,236 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,938 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,928 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 83,461 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,008 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,146 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,655 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,937 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 61,416 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,904 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 51,508 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,001 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,502 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 110,886 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,569 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 19,395 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,675 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 54,384 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,158 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 61,762 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|