๑. ความเป็นมาและความสำคัญ
ทักษะภาษาเป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญเด็กปฐมวัยเพราะภาษาเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในด้านอื่นๆและการนําไปใช้ในชีวิตประจำวันทักษะภาษาประกอบไปด้วย การฟังการพูดการอ่านและการเขียนซึ่งในระดับอนุบาลจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมของทักษะภาษาในด้านต่างๆดังกล่าวอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถนําไปต่อยอดการ เรียนรู้ในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไปโดยเฉพาะช่วงเชื่อมต่อของการศึกษา ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 กับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นี้มีการปรับเปลี่ยนในด้านเนื้อหาและการจัดการเรียนรู้เชิงวิชาการที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจทางด้านภาษาเป็นอย่างมากดังนั้นนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในสถานศึกษาปฐมวัยหลายๆแห่งจึงมักถูกคาดหวัง ว่าจะต้องมีความพร้อมเพียงพอสำหรับบการเรียนรู้วิชาการในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และได้เน้น ให้เด็กปฐมวัยมีความรู้ความเข้าใจในด้านการรู้หนังสือมากขึ้น
คลังเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ OBEC Content Center คือ โปรแกรมสำหรับให้บริการเผยแพร่เนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์แก่นักเรียน ครู ศึกษานิเทศก์และบุคลากรทางการศึกษา รองรับการเข้าถึงเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความหลากหลาย ทั้งหนังสือ วิดีโอ รูปภาพ เสียง แอปพลิเคชัน ข้อสอบ เทมเพลต มัลติมีเดีย สามารถใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา(แท็บเล็ต) ซึ่งถือว่าทันสมัยสอดคล้องกับการใช้งานในปัจจุบัน ผู้เรียนสามารถดาวน์โหลดลงอุปกรณ์สมาร์ทโฟนมา ศึกษาเพิ่มเติมได้ หรือสนใจเรื่องใดก็สามารถค้นคว้าได้ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา การนําเทคโนโลยีมาเป็นสื่อการเรียนสอนรายวิชาภาษาไทยนั้นจึงเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาและทำความเข้าใจในเนื้อหาได้มากขึ้น
จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านการอ่านภาษาไทย ของนักเรียน ชั้นอนุบาลที่ 3 โรงเรียนวัดจำปา ปีการศึกษา 2568 พบว่านักเรียนมีปัญหาด้านการอ่านออกเสียง การจดจำพยัญชนะภาษาไทย โดยเมื่อนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 ไป พบปัญหาการจดจำพยัญชนะไทยไม่ได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาการอ่านไม่ออก จากปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ได้แก่ ครูผู้สอน ไม่สามารถหาเทคนิควิธีการสอนที่ดึงดูดและน่าสนใจให้กับนักเรียนได้ และยังไม่มีสื่อที่เหมาะสมและทันสมัย เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยสอน
ครูผู้สอนเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้ศึกษานวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งจะส่งผลให้นัดเรียนพัฒนาทักษะและรู้จักสระ พยัญชนะยิ่งขึ้น โดยนวัตกรรมที่เลือก ใช้ ได้แก่ กระบวนการสอนแบบ Active Learning แบ่งออกเป็น 5 ขั้น ได้แก่ 1. ขั้นกระตุ้นความสนใจ โดยส่วนใหญ่มักจะใช้กระบวนการตั้งคำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้นำไปคิดต่อและเกิดขั้นตอนต่อไป 2. ขั้นสำรวจและค้นหา ในขั้นตอนนี้มีกจะทำให้เกิดการคิดวิเคราะห์จากข้อมูลที่หาได้ว่าควรเชื่อถือแหล่งข้อมูลจากไหน อีกทั้งผู้เรียนยังได้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากการหาข้อมูลอีกด้วย 3. ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป ในขั้นตอนนี้มักจะเกิดการพูดคุยกันซึ่งเป็นรูป แบบ การ เรียน รู้ที่กระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นและช่วยกันสรุปผลข้อมูลซึ่งเป็นการ เรียน แบบ ร่วมมือในชั้นเรียน 4. ขั้นสร้างผลผลิตของความเข้าใจ เป็นการนำความรู้ที่ได้ค้นคว้าและสรุปผลมาใหม่นี้ไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือแนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม ส่งผลให้สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องต่าง ๆ และทำให้เกิดองค์ความรู้ที่กว้างขวางขึ้น 5. ขั้นสะท้อนผลผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ เป็นการประเมินการเรียนรู้ว่าผู้เรียนมีความรู้มากน้อยเพียงใด ในขั้นนี้จะสามารถ นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่ข้อโต้แย้งหรือข้อจำกัดที่ก่อให้เป็นประเด็นคำถาม หรือปัญหา ที่จะต้องสำรวจตรวจสอบต่อไป ทำให้เกิดเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องกันไป เรื่อย ๆ การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียน มีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมที่นำมาใช้ควรช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสื่อสาร/นำเสนอ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม บทบาท ของผู้เรียนนอกจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังต้อง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนและผู้เรียน กับผู้เรียนด้วยกันด้วย ผู้สอนควรลดบทบาทในการถ่ายทอดความรู้แก่ผู้เรียนในลักษณะการบรรยายลง และเพิ่มบทบาทในการกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเรียนรู้ (ศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้)
จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว การใช้กระบวนการสอนแบบ Active Learning ด้านการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงของพยัญชนะไทยของเด็กปฐมวัย โดยใชสื่อและใบงานที่มีความนาสนใจ ดวยระบบ OBEC Content Center รูปแบบสื่อการสอน และใบงาน จะชวยกระตุนความสนใจและทักษะการอ่านออกเสียงของพยัญชนะไทยของเด็กปฐมวัยใหมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. วัตถุประสงค์
1. การพัฒนาทักษะทางภาษาไทยของเด็กปฐมวัยด้านการอ่านออกเสียงของพยัญชนะไทย ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการสอนแบบ Active Learning
2. เพื่อเผยแพรแผนการจัดประสบการณการเรียนรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงพยัญชนะไทย ของเด็กปฐมวัยโดยใชสื่อการสอน ใหกับผู้ที่สนใจ
3. เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาไทยของเด็กปฐมวัยด้านอ่านออกเสียงของพยัญชนะไทย ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังใช้กระบวนการสอนแบบ Active Learning
เป้าหมาย
1. นักเรียนชั้นอนุบาลปที่ 3/2 โรงเรียนวัดจำปา ร้อยละ 80 ได้ใชสื่อและใบงานการอ่านออกเสียงพยัญชนะไทย
2. ผู้ที่มีความสนใจแผนการจัดประสบการณ์กระบวนการสอนแบบ Active Learning เรื่อง การอ่านออกเสียงพยัญชนะไทย ของเด็กปฐมวัยโดยใชสื่อและใบงาน
3. เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปที่ 3/2 จำนวน 20 คน มีทักษะการอ่านออกเสียงพยัญชนะไทยอยูในระดับ ดีมาก จากการใชสื่อและใบงาน