ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาสมรรถนะครูในการใช้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือคลองโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน

ความสำคัญของนวัตกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่นำเสนอ

ความเป็นมาและสภาพปัญหา

สมรรถนะ (Competency) เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานที่เพิ่มขีดความสามารถให้กับบุคลากร ในหน่วยงานต่างๆ เพราะสมรรถนะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้พัฒนาศักยภาพของบุคลากรเพื่อส่งผลไปสู่การพัฒนาหน่วยงาน ทุกหน่วยงานจำเป็นต้องหาแนวทางเสริมสร้างสมรรถนะเพื่อคุณภาพของบุคลากร โดยเฉพาะในส่วนของการศึกษา เพื่อให้มีคุณภาพตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. 2547: 1-3) การพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษานั้น บุคคลที่มีบทบาทสำคัญ คือ “ครู” กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดสมรรถนะของครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย สมรรถนะหลัก (Core Competency) 5 ประการ ได้แก่ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานการบริการที่ดี การพัฒนาตนเอง การทำงานเป็นทีม จริยธรรมและจรรยาบรรณครู สมรรถนะตามสายปฏิบัติงาน (Functional Competency) 6 ประการ ได้แก่ การบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียน การบริหารจัดการชั้นเรียน การวิเคราะห์ สังเคราะห์และวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน ภาวะผู้นำการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชน (สำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2553, น. 24-25) การจัดการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ควรมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในฐานะพลเมืองให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตอย่างสมดุล มีทักษะจำเป็นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข มีภาวะผู้นำการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมแรงบันดาลใจให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะมีทักษะพื้นฐานในการรู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ คิดคำนวณเป็นและมีทักษะการคิด ทักษะการทำงาน ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และทักษะการใช้ชีวิต กอปรกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการเรียนรู้ การส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษา จึงได้กำหนดกรอบแนวทางขับเคลื่อน การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากการอ่านถือเป็นวัฒนธรรมในการแสวงหาความรู้ของประชากรทุกคน เพราะปัจจุบันสังคมโลกเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และการแข่งขัน การอ่านจึงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ประชากร ได้รับความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ ๆ อันจะเป็นการพัฒนาตนเองและรู้จักปรับตัวให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

โรงเรียนบ้านเหนือคลอง เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก นักเรียนส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนรู้อยู่ในระดับปานกลาง บิดามารดามีอาชีพเกษตรกร และรับจ้าง จึงไม่ค่อยได้มีเวลาในการดูแลส่งเสริมการอ่านหนังสือมากนัก นักเรียนเกือบครึ่งอาศัยอยู่กับปู่ย่า ตายาย ที่แก่เฒ่าส่งผลให้มีนักเรียนบางส่วน อ่านไม่คล่อง เขียนและคิดเลขไม่คล่อง และด้วยความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี จึงทำให้นักเรียนสนใจในสื่อเทคโนโลยีอย่างเช่น สมาร์ทโฟน การเล่นเกม แชท ไลน์ มากกว่าที่จะใช้ให้ถูกวิธีในการศึกษาหาความรู้ จากประสบการณ์ในการเป็นครูและดำรงตำแหน่งผู้บริหารในระดับประถมศึกษา รวม 1๔ ปี พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ในระดับชั้นประถมศึกษาอ่านและเขียนหนังสือไม่คล่อง และไม่มีนิสัยรักการอ่าน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่าย (บ้าน/ครอบครัว, โรงเรียน, ชุมชน) ต้องช่วยกันสร้างหรือคิดวิธีการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับนักเรียนในระดับของการเริ่มต้นการอ่าน จากการศึกษาข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนบ้านเหนือคลองพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ขาดนิสัยรักการอ่าน ใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปีการศึกษา 256๔ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 79.10 การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นปะถมศึกษาปีที่ 1 (RT) ค่าเฉลี่ยร้อยละ 79.45 ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความสามารถด้านภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 50.00 และการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ เขียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.89 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด

แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา

การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเป็นแนวคิดหนึ่งในการพัฒนาวิชาชีพครู(Professional development) ที่ว่าด้วยการเรียนรู้ในชั้นเรียนแบบร่วมมือรวมพลังอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องในระยะยาวในบริบทการทำงานจริงของครูเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนโดยดำเนินงานตามขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานพัฒนาวิชาชีพร่วมกันของกลุ่มครู ที่ให้ความสำคัญกับการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงถึงการคิดและการเรียนรู้ของนักเรียนโดยตรงในชั้นเรียน และการอภิปรายสะท้อนความคิดร่วมกัน เพื่อพัฒนาบทเรียนอย่างต่อเนื่อง จนได้บทเรียนที่มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ พัฒนานักเรียนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ศุภวรรณ สัจจพิบูล.2660: 210-211; อ้างอิงจาก Fernandez; & Yoshida. 2004: 15; ชาริณี ตรีวรัญญู. 2557:1)

ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาจึงมีความตระหนักในหน้าที่ที่จะต้องคิดค้นวิธีการที่จะส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน ทั้งนี้เชื่อว่าการใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันมาใช้ในการส่งเสริมการอ่านของนักเรียนจะส่งผลให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านมากขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น เพราะปัจจุบันนี้วิทยาการและเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าตลอดเวลา ครูผู้สอนจำเป็นจะต้องใช้นวัตกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความแตกต่างของนักเรียนในด้านต่างๆ เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนมีพื้นฐานที่แตกต่างกัน การที่ครูมีวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ดีก็จะส่งผลต่อเจตคติที่ดีต่อการอ่าน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น จึงได้จัดทำนวัตกรรมเรื่องการพัฒนาสมรรถนะครูในการใช้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือคลองโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและยกระดับผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านของนักเรียนให้สูงขึ้นและนักเรียนสามารถใช้ภาษาไทยเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย วรรณา คล้ายฉิม : [23 ก.ค. 2568 (21:24 น.)]
อ่าน [57664] ไอพี : 1.46.8.17
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,229 ครั้ง
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?

เปิดอ่าน 42,836 ครั้ง
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย
"หัวใจเต้นผิดจังหวะ" แค่ตื่นเต้นหรือป่วย

เปิดอ่าน 40,594 ครั้ง
ศัพท์สถิติทางการศึกษา
ศัพท์สถิติทางการศึกษา

เปิดอ่าน 15,609 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย 2013 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 3,952 ครั้ง
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน
"ไซยาไนด์" คืออะไร อันตรายแค่ไหน

เปิดอ่าน 854 ครั้ง
ไขข้อสงสัย ใครบ้างที่ควรทำแบบทดสอบซึมเศร้า
ไขข้อสงสัย ใครบ้างที่ควรทำแบบทดสอบซึมเศร้า

เปิดอ่าน 151,271 ครั้ง
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!
อาถรรพณ์"นรกซานติก้า" ที่ดินนี้มีตำนาน..."เลือด"!!!

เปิดอ่าน 12,981 ครั้ง
โลหิต ที่ควรทราบ
โลหิต ที่ควรทราบ

เปิดอ่าน 39,142 ครั้ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย

เปิดอ่าน 16,387 ครั้ง
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ
10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ

เปิดอ่าน 906 ครั้ง
เบี้ยประกันเด็ก ทำไมถึงแพงกว่าเบี้ยประกันผู้ใหญ่
เบี้ยประกันเด็ก ทำไมถึงแพงกว่าเบี้ยประกันผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 28,424 ครั้ง
เทคนิคภาษาอังกฤษ
เทคนิคภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 20,351 ครั้ง
ข้อเสียของการดื่มน้ำเย็นจัด
ข้อเสียของการดื่มน้ำเย็นจัด

เปิดอ่าน 13,873 ครั้ง
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"

เปิดอ่าน 15,208 ครั้ง
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)

เปิดอ่าน 21,699 ครั้ง
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
พบดาวฤกษ์ดวงใหม่ สว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10 ล้านเท่า
เปิดอ่าน 38,567 ครั้ง
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เปิดอ่าน 23,850 ครั้ง
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
เปิดอ่าน 6,604 ครั้ง
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน
จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย เผยมุมมองผู้หางานและนายจ้างกับภาวะการจ้างงาน เปรียบเทียบประเทศไทยกับอาเซียน
เปิดอ่าน 20,675 ครั้ง
อนาคตของระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์
อนาคตของระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ