การพัฒนารูปแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เสริมสร้างแรงจูงใจ เพื่อพัฒนางานบริหาร
วิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนวัดเกรียงไกร(โพธิ์ประสิทธิ์)
ปีการศึกษา 2566
Developing a 21st Century Transformational Leadership Model to Enhance Motivation for Work Development Academic management that affects the quality of students in the 21st century, Wat Kriangkrai(Pho Prasit) School Academic year 2023
Mrs. Theeraya Jamraswit
Academic Year: 2023
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เสริมสร้างแรงจูงใจ เพื่อพัฒนางานบริหารวิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนวัดเกรียงไกร (โพธิ์ประสิทธิ์) ปีการศึกษา 2566 มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการพัฒนารูปแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติงานแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู เพื่อพัฒนางานบริหารวิชาการ เพื่อเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติงานบริหารวิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย อยู่ในบริบทโรงเรียนวัดเกรียงไกร (โพธิ์ประสิทธิ์) ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ ในปีการศึกษา 2566 โดยวิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยแยกกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ ครู จำนวน 10 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 จำนวน 21 คน/นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 จำนวน 31 คน ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4- 6 จำนวน 21 คน /ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 จำนวน 31 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สำหรับใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัย เป็น แบบสอบถาม (Questionnaires) ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เสริมสร้างแรงจูงใจ เพื่อพัฒนางานบริหารวิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนวัดเกรียงไกร (โพธิ์ประสิทธิ์) ปีการศึกษา 2566 ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู เพื่อพัฒนางานบริหารวิชาการ 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติงานบริหารวิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนประยุกต์ตามแนวทางของลิเคิร์ท (Likert Fives Rating Scale) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
สรุปผลการวิจัย
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21เสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.64 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.48 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด เรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านพฤติกรรมกระตุ้นให้เกิดการใช้ปัญญา และด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน ทั้ง 2 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน ( x̄= 4.68 S.D.= 0.48) รองลงมา คือ ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล อยู่ในระดับมากที่สุดรองลงมา ( x̄= 66 S.D.=0.48 ถัดไปมีค่าเฉลี่ยที่เท่ากัน 2 ข้อ คือ ด้านอุดมการณ์ และด้านการสร้างแรงจูงใจด้านการดลใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.63 S.D.= 0.48) ถัดไปเป็นด้านการมีทักษะการสื่อสาร และด้านการมีความกระตือรือร้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.62 S.D.= 0.49) และลำดับที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการกล้าตัดสินใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.56 S.D.=0.45) ตามลำดับ
นั่นแสดงว่า ผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ทำให้ผู้บริหารที่สามารถจูงใจโน้มน้าวให้ครูและผู้มีส่วนได้เสียปฏิบัติตามความต้องการ ตามความคิดเห็น ด้วยความเต็มใจยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ประสานงานเพื่อทำให้เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ร่วมกันบรรลุผล ดังนั้นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ย่อมส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูได้จริง เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู เพื่อพัฒนางานบริหารวิชาการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄) เท่ากับ 4.65 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.48 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ลักษณะของงานที่ปฏิบัติ มีระดับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.72 S.D.= 0.45) รองลงมา คือ ความสำเร็จในงาน มีระดับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในระดับมากที่สุด ( x̄= 4.68 S.D.= 0.47) ถัดไปการได้รับการยอมรับนับถือ มีระดับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในระดับมากที่สุด ( x̄=4.66 S.D.= 0.48) ด้านความรับผิดชอบงาน มีระดับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในระดับมากที่สุด ( x̄=4.62 S.D.= 0.49) และลำดับที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ มีระดับการปฏิบัติงานที่เกิดจากแรงจูงใจในระดับมากที่สุด (x̄ =4.60 S.D.= 0.45) ตามลำดับ
นั่นแสดงว่า แรงจูงใจที่เกิดจากผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ทำให้ครูปฏิบัติงานด้วยความขยันขันแข็งกระตือรือร้นกระทำให้สำเร็จ มีความมานะอดทนบากบั่น คิดหาวิธีการนำความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของตนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่องานให้มากที่สุด และเมื่องานได้รับผลสำเร็จ คิดหาวิธีการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อให้เกิดการค้นพบช่องทางดำเนินงานที่ดีกว่า หรือประสบผลสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นทำงานให้เกิดความเจริญก้าวหน้า และเมื่อผลงานสำเร็จยอมรับนับถือครูได้ทำจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ท้าทายให้ต้องลงมือทำบรรลุเป้าหมายที่กำนหดไว้ ทำให้มีความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน ดังนั้นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูย่อมส่งผลถึงการพัฒนางานบริหารวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลได้จริง เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2
3. ผลการเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติงานบริหารวิชาการ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 พบว่า ก่อนการศึกษา มีค่าเฉลี่ย (x̄ ) เท่ากับ 3.34 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.47 และหลังการศึกษา มีค่าเฉลี่ย (x̄ ) เท่ากับ 4.69 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.46
นั่นแสดงว่า การพัฒนางานบริหารวิชาการที่เกิดจากแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู ทำให้ครูได้ใช้กระบวนการดำเนินกิจกรรมของครูได้ปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21พัฒนางานวิชาการให้บรรลุผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียน ดังนั้นการพัฒนางานบริหารวิชาการย่อมส่งผลต่อผู้เรียนในสตวรรษที่ 21 ได้อย่างแท้จริง โดยใช้ t- test พบว่า หลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 3
4. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄) เท่ากับ 4.69 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.46 เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 4