|
Advertisement
|
1. ความสำคัญของผลงาน
1.1 ความเป็นมาและสภาพของปัญหาหรือสิ่งที่พัฒนา
ในปัจจุบันการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นับเป็นทักษะสำคัญของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) และสามารถนำความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้ได้จริง การเรียนรู้ภาษาไพทอน (Python) ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น จึงมีความสำคัญต่อผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษา อย่างไร ก็ตาม จากการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในแนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง ไม่สามารถวางลำดับคำสั่งและแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่าย และไม่เห็นความเชื่อมโยงของบทเรียนกับการนำไปใช้จริง นอกจากนี้การเรียนการสอนในรูปแบบบรรยายเป็นหลัก ยังไม่สามารถกระตุ้นความสนใจและพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ได้ คือ การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิซึม ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีความหมาย เช่น การสร้างเกมด้วยโปรแกรม mBlock ที่สามารถเขียนคำสั่งด้วยบล็อกและผสมกับภาษา Python ได้ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เนื่องจากใช้งานง่าย มีภาพเคลื่อนไหวที่สนุก และเอื้อให้เกิดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมในลักษณะนี้นอกจากจะส่งเสริมทักษะด้านการเขียนโปรแกรมแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน และการสื่อสาร ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นสำหรับนักเรียนในโลกยุคดิจิทัล
1.2 แนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนา
จากการวิเคราะห์ปัญหาข้างต้น เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้วิจัยจึงออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน (Python) ด้วยกิจกรรมการสร้างเกม โดยใช้โปรแกรม mBlock รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเป็นแนวทางการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และบูรณาการทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อให้นักเรียนมีแรงจูงใจและสามารถเรียนรู้การเขียนโปรแกรมอย่างเข้าใจ ซึ่งทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม มีขั้นตอนการเรียนรู้ 5s ได้แก่ การกระตุ้นความสนใจ (Stimulate), การสำรวจและค้นพบ (Search), การสร้างความรู้ (Self-construction), การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share), และการสรุปและประเมินผล (Summarize) เข้าไว้ในกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะอย่างรอบด้าน
|
โพสต์โดย kookkookkai : [1 ส.ค. 2568 (09:20 น.)] อ่าน [57431] ไอพี : 203.172.141.37
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,917 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,608 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,284 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,818 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,565 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,913 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,164 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 38,010 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,661 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,809 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,539 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,360 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,102 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,793 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,093 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 28,089 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,347 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,665 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,266 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,388 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|