บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทักษะการการอ่าน-เขียนในประโยคภาษาอังกฤษด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ในด้านการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษที่ผ่านมา พบว่านักเรียนยังมีปัญหาในด้านการเรียนรู้ในคำศัพท์ การพูดและการเขียนภาษาอังกฤษ นักเรียนจดจำคำศัพท์ได้น้อย จึงทำให้ไม่เพียงพอต่อการพูดสนทนาภาษาอังกฤษ เช่น พูดเรื่องต่าง ๆใกล้ตัว หรือเรื่องในชีวิตประจำวัน อีกทั้งทักษะการเขียนภาษาอังกฤษยังเป็นทักษะที่ค่อนข้างยากสำหรับนักเรียน นักเรียนยังมีการเขียนคำศัพท์ผิดและเขียนประโยคภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ทำให้ความหมายคลาดเคลื่อน อีกทั้งยังขาดทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม เนื่องมาจากนักเรียนบางคนพึ่งเข้ามาศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนด่านแม่ละเมาวิทยาคม ทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นเรียนจึงทำให้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการทำงานเป็นกลุ่มยังไม่ประสบความสำเร็จ
จากที่ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านชุมชนทางวิชาชีพทางการเรียนรู้หรือ PLC กับเพื่อนครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพื่อร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สะท้อนผล และสรุปผล พบว่าปัญหาที่ได้จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษส่วนใหญ่คือ ปัญหาด้านทักษะการพูดและทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ซึ่งสอดคล้องกับผลการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าคะแนนที่ได้น้อยที่สุดสองอันดับสุดท้ายคือ ทักษะการพูดและการเขียน จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นจึงทำให้ข้าพเจ้าจึงเกิดความสนใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning และเทคนิคการสอนแบบภาษาเพื่อการสื่อสารหรือ CLT ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียนสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียนและนักเรียนกับนักเรียน มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรมโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Couching) สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษาและคำแนะนำ นักเรียนจึงมีส่วนร่วมในการปฏิบัติจริง มีการใช้วิจารณญาณในการคิดและตัดสินใจในการปฏิบัติกิจกรรมนั้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกัน ทำให้นักเรียนทุ่มเทในการเรียน ก่อให้เกิดการพัฒนาการเรียนรู้เชิงบวกมากขึ้น
จุดมุ่งหมาย
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ตั้งจุดมุ่งหมายไว้ดังนี้
-เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน-การเขียนภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคการสอนแบบ Active Learning และเทคนิคการสอนแบบภาษาเพื่อการสื่อสารหรือ CLT เช่น การใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay)
-เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คำปรึกษาและคำแนะนำและนักเรียนจึงมีส่วนร่วมในการปฏิบัติจริงและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกัน ทำให้นักเรียนทุ่มเทในการเรียน ก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวก
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ คือ การจัดกิจกรรม 2 รูปแบบ
- การใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping)
- การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay)
ตัวแปรตาม ได้แก่ การฝึกการอ่าน-เขียนและมีวินัยในตนเอง
- การเขียนบทสนทนาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย)
- การอ่านคำศัพท์บทสนทนาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย)
- การพูดและการฟังจากิจกรรมการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย)
กรอบแนวคิดในการวิจัย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้เรียนมีทักษะการการอ่าน-เขียนในประโยคด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
ขอบเขตการวิจัย
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนด่านแม่ละเมาวิทยาคม จำนวน 25 คน ในภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2567
วิธีดำเนินการวิจัย
การจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โดยข้าพเจ้าได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น และหาแนวทางการพัฒนา จึงได้วิเคราะห์หลักสูตร เทคนิคการสอนด้วย CLT ที่มุ่งเน้นพัฒนาผลการเรียนรู้ในเรื่องของการสื่อสารผ่านการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรื่องในชีวิตประจำวันของนักเรียน หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้ศึกษาเนื้อหาการจัดกิจกรรมรูปแบบ Active Learning โดยใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ทักษะการเขียน และทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ประโยชน์ของการจัดกิจกรรมโดยใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) นั้นสามารถเพิ่มพูนประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนและการคิดวิเคราะห์เนื้อหาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเหมาะสมกับการนำไปพัฒนาคุณภาพผู้เรียน กระตุ้นให้เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ นักเรียนกล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น อีกทั้งยังทำให้เห็นรายละเอียดและภาพรวมของเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน จึงทำให้นักเรียนสามารถสรุปใจความสำคัญของเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และยังช่วยในการแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยระดมความคิดแบบกลุ่ม กระตุ้นความคิดใหม่ ๆ และสื่อสารความคิดร่วมกันอย่างเข้าใจ เห็นภาพตรงกันและประหยัดเวลาในการแก้ปัญหาอีกด้วย และพร้อมกันนั้นข้าพเจ้าได้พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง The sickness รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของนักเรียน ดังนี้
1).ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเพื่อออกแบบหน่วยการเรียนรู้ของแผนจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
2).ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนคำในประโยคเรื่อง The sickness ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
3).ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อทราบปัญหาการเรียนรู้ และพัฒนาสื่อและนวัตกรรม
การสอนที่สอดคล้องกับความหลากหลายและบริบทของผู้เรียน
4).จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเขียนคำกริยาในประโยคของ The sickness ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้เรียนมากที่สุด
5).นำสื่อการสอนแบบบฝึกทักษะร่วมกับสื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ( Multimodal Learning Materials ) เช่น แผนผังความคิด (Mind Mapping) ) การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) และบัตรคำ (Flashcards) ที่มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย มาใช้กับนักเรียนเพื่อสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
6).ปรับปรุงเทคนิคการสอน และสื่อการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะและสื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ( Multimodal Learning Materials ) เช่น แผนผังความคิด (Mind Mapping) ) การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) และบัตรคำ (Flashcards) เพื่อพัฒนาการอ่านคำศัพท์ การจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป
7).บันทึกข้อมูลคะแนนการสอบหลังเรียนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อ
ประเมินผลการเรียนรู้ และนำข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
นวัตกรรมที่ใช้
- แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
- การใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping)
- การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay)
เหตุผลที่เลือกใช้นวัตกรรมนี้
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 เป็นผู้เรียนที่ควรจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและลักษณะที่พึงประสงค์ จะเป็นพื้นฐานและสร้างองค์ความรู้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้เรียนต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตนเอง และมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆตลอดเวลา ดังนั้นผู้วิจัยจึงนำนวัตกรรมในการนำแผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เข้ามาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อพัฒนาด้านการเขียนและการอ่านรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
ส่วนประกอบของนวัตกรรม
เทคนิคการสอนที่ใช้ในการทำวิจัยคือ การใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.แบบบันทึกคะแนนการเขียนและการอ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และแบบบันทึกคะแนนการฟังและการพูดจากการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1
2.กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวน 25 คน
3.แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1
- การใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping)
- การแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay)
การดำเนินการวิจัยในชั้นเรียน
การทดสอบก่อนและหลังเรียนจากการทำกิจกรรมตามแผนจัดการเรียนรู้เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) จำนวน 1 ชุดแบบฝึกหัด ในระหว่างเดือน พฤษภาคม 2566 - มิถุนายน 2566
-จัดกิจกรรมการอ่านเขียนงานกลุ่มด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) พร้อมบันทึกจากการสังเกตและการตอบคำถาม
-จัดกิจกรรมการฟังพูดด้วยการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) พร้อมบันทึกจากการสังเกตและกากรตอบคำถาม
นำผลการพัฒนาการทั้ง 2 กิจกรรมมาวิเคราะห์ผลการทำวิจัย
ผลการวิเคราะห์ผลคะแนนจากแบบบันทึกคะแนนการเขียนและการอ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และแบบบันทึกคะแนนการฟังและการพูดจากการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นคือนักเรียนส่วนใหญ่มีระดับคะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
สรุปผลลัพธ์การพัฒนา
1. เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนด่านแม่ละเมาวิทยาคม ร้อยละ 70 ที่เรียนในรายวิชา
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะการอ่าน-เขียนภาษาอังกฤษตามตัวชี้วัดที่ต้องรู้และตัวชี้วัดที่ควรทราบและมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น
2. เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนด่านแม่ละเมาวิทยาคม สามารถอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
และเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยการใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) และการแสดงบทบาทสมมติ (Roleplay) เรื่อง Sickness (อาการเจ็บป่วย) รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 ได้มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสื่อสารด้วยการใช้ภาษาต่างประเทศตรงตามสมรรถนะของผู้เรียนในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551